นาวิกโยธินสหรัฐฯ พร้อมกองพัน 3 กรมนาวิกโยธินที่ 8 กับกองบินนาวิกโยธินที่ 1 ที่อิเอะชิมะ โอกินาวา ญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2564 (แฟ้มภาพนาวิกโยธินสหรัฐฯ)
USNI News (8 ก.ย.) – ผู้เชี่ยวชาญชี้ การชนะใจโอกินาวาเป็นชัยภูมิสำคัญในการเสริมความแข็งแกร่งให้การป้องกันของจีน รัสเซีย และเกาหลีเหนือ
คุนิฮิโกะ มิยาเกะ (Kunihiko Miyake) ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยของ Canon Institute for Global Studies กล่าวว่า ขณะนี้เมื่อวอชิงตันและโตเกียวแสดงการสนับสนุนไต้หวัน ข้อตกลงสถานะของกองกำลังระหว่างทั้งสองประเทศได้มีนัยสำคัญใหม่ “เป็นปัญหาที่ยากที่สุด” ในการแก้ไขตลอดหลายปีที่ผ่านมา มิยาเกะ กล่าว ตัวอย่างหนึ่งของความยากลำบากนั้นคือการโต้เถียงกันเป็นเวลา 7 ปีเกี่ยวกับการย้ายที่ตั้งของ Marine Corps Air Station Futenma
การปรากฏตัวของกองทัพอเมริกันในฐานทัพ 31 แห่งที่ตั้งอยู่ในโอกินาวายังคงเป็นปัญหาของชาวโอกินาวา ที่ญี่ปุ่นต้องทำความเข้าใจกับประชาชนในโอกินาวา เนื่องจากความตึงเครียดกับจีนได้เพิ่มสูงขึ้น
สิ่งที่ทำให้โอกินาว่ามีความสำคัญเชิงกลยุทธ์มากคือภูมิศาสตร์ มิยาเกะ กล่าว ภัยคุกคามจากจีนสู่ญี่ปุ่นมาจากทางทิศใต้ และทางทะเล โอกินาว่าอยู่ห่างจากไต้หวันไปทางเหนือประมาณ 500 ไมล์ ประมาณร้อยละ 70 ของกองกำลังทหารสหรัฐฯ ในญี่ปุ่นอยู่ที่โอกินาวา
ในการทบทวนข้อตกลงอย่างจริงจัง เขาเสนอให้ “เพิ่มการใช้ฐานทัพร่วมกัน” ในโอกินาวา กองกำลังสหรัฐฯ ที่ประจำการโอกินาวา “จะถือเป็นแขกรับเชิญ” ของกองกำลังป้องกันตนเองของญี่ปุ่น เขาเสริมว่า 70 ถึง 80 เปอร์เซ็นต์ของฐานทัพทหารบนเกาะนี้อยู่ภายใต้การควบคุมของอเมริกา
“มันน่าปวดหัวสำหรับชาวโอกินาวา” เขากล่าว
มิยาเกะแย้งว่านี่จะเป็นขั้นตอนหนึ่งที่จำเป็น “เพื่อให้ตัวเราพร้อมสำหรับเหตุฉุกเฉินมากขึ้น”
เมื่อพิจารณาถึงการใช้จ่ายด้านกลาโหมของโตเกียว มิยาเกะ กล่าวว่ารัฐบาลต้อง “เพิ่มความตระหนักรู้ในหมู่ประชาชนชาวญี่ปุ่น” เกี่ยวกับความจำเป็นในการเพิ่มการใช้จ่ายด้านการป้องกันประเทศจาก 1.2 เปอร์เซ็นต์ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ
เขาตั้งข้อสังเกตว่ามาตรฐานของ NATO สำหรับสมาชิกคือการจัดสรร 2% ของ GDP ให้แก่ความปลอดภัย
ประชาชนยังต้องเข้าใจเหตุผลของการใช้จ่ายด้านการป้องกันประเทศที่เพิ่มขึ้น ซึ่งน่าจะปรากฏในเอกสารยุทธศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงแห่งชาติ 3 ฉบับที่จะออกภายในสิ้นปีนี้
มิยาเกะกล่าวว่า “เราไม่สามารถป้องกันตัวเองได้” หากไม่มีพันธมิตรอย่างสหรัฐอเมริกา แต่ญี่ปุ่นจำเป็นต้องพึ่งตนเองให้ปลอดภัยด้วยการใช้จ่ายและกลยุทธ์ด้านความปลอดภัย
“แม้ว่าเราจะเป็นพันธมิตรกัน แต่หากคุณไม่มีการป้องกันตนเอง พันธมิตรก็ไม่ช่วย” ทำให้ประชาชนชาวญี่ปุ่นเห็นว่าความสัมพันธ์ทางการทหารที่ใกล้ชิดระหว่างมอสโกและปักกิ่งในปัจจุบันมีความหมายอย่างไรในแง่ของความปลอดภัยของตนเอง ไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์ก่อน กองทัพเรือจีนและรัสเซียได้จัดการซ้อมรบร่วมกันรอบญี่ปุ่น ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการฝึกทางทหารครั้งใหญ่
หากไม่เตรียมงบประมาณ “เราจะไม่มีกระสุนเพียงพอ เราจะไม่มีขีปนาวุธเพียงพอ” ในคลังแสงของประเทศเพื่อความขัดแย้งที่ยืดเยื้อ นอกจากนี้ จำนวนเรือของกองกำลังป้องกันตนเองทางทะเลของญี่ปุ่นยังขาดแคลน และยังต้องใช้งบประมาณเพื่อปรับกองกำลังภาคพื้นดินของญี่ปุ่นใหม่ ให้มีศักยภาพเหมือนนาวิกโยธินสหรัฐฯ มากขึ้น
มิยาเกะกล่าวถึงจีน รัสเซีย และเกาหลีเหนือว่า “ในละแวกบ้าน เรามีภัยคุกคาม” ที่ต้องแก้ไข รัฐบาล “สามารถทำอะไรได้มากขึ้นด้วยร่วมมือกับกลุ่ม Quad” ซึ่งเป็นกลุ่มความมั่นคงและเศรษฐกิจที่ร่วมมือกันอย่างไม่เป็นทางการระหว่างญี่ปุ่น สหรัฐฯ ออสเตรเลีย และอินเดีย นอกจากนี้ ยังจำเป็นในการประสานงานอย่างใกล้ชิดกับโซลและวอชิงตันในการจัดการกับเปียงยางและปักกิ่ง
มิยาเกะซึ่งมีประสบการณ์ทางการทูตในตะวันออกกลางกล่าวว่า ความมั่นคงในอนาคตของโตเกียวไม่ใช่มีที่อินโดแปซิฟิกเพียงอย่างเดียว เศรษฐกิจของญี่ปุ่นยังขึ้นอยู่กับเส้นทางทะเลไปยังตะวันออกกลางเพื่อพลังงานและการค้ากับยุโรป
เขากล่าวว่า เพราะนาโต้ แข็งแกร่ง จึงทำให้ความมั่นคงในยุโรปมีเสถียรภาพและเตือนประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน ว่า “ความผิดพลาดของเผด็จการนั้นแก้ไขยาก” เช่นการรุกรานยูเครนของเขา การจู่โจม เมื่อวันที่ 24 ก.พ. ไม่เพียงแต่ดึงพันธมิตรให้ใกล้ชิดกันมากขึ้น แต่ยังทำให้สวีเดนและฟินแลนด์สมัครเป็นสมาชิกอีกด้วย เขาเสริมว่าพันธมิตรของนาโต้ ยังให้การต้อนรับนายกรัฐมนตรี ฟูมิโอะ คิชิดะ ของญี่ปุ่น และประธานาธิบดี ยุน ซอก-ยอล ของเกาหลีใต้เข้าร่วมการประชุมในเดือนมิถุนายนที่มาดริด
มิยาเกะ กล่าวว่า “ชาวรัสเซียทำผิดพลาดครั้งใหญ่” โดยไม่ทราบว่าปัญหาด้านความปลอดภัยที่ใหญ่ที่สุดคือจีน ไม่ใช่นาโต้
——————————————————————————————————————————-
ที่มา : ผู้จัดการออนไลน์ / วันที่เผยแพร่ 9 ก.ย.65
Link : https://mgronline.com/japan/detail/9650000086795