แคสเปอร์สกี้แนะ 4 ข้อ เสริมแกร่งไซเบอร์ซิเคียวริตีไทย

Loading

  แคสเปอร์สกี้ ชี้ภัยคุกคามทางไซเบอร์พัฒนาอย่างต่อเนื่อง ประเทศไทยจำเป็นต้องมีจุดยืนที่แข็งขันมากขึ้น แนะ 4 เรื่องในการเสริมความแกร่งซัปพลายเชนไอซีที พบไตรมาส 2 ปีนี้ คนไทย 20% เจอภัยคุกคามผ่านเว็บเกือบ 5 ล้านครั้งบนคอมพิวเตอร์   น.ส.จีนี่ กัน หัวหน้าฝ่ายกิจการสาธารณะประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ญี่ปุ่น ตะวันออกกลาง ตุรกี และแอฟริกา แคสเปอร์สกี้ กล่าวว่า การโจมตีทางไซเบอร์ในห่วงโซ่อุปทานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT supply chain) กำลังเพิ่มขึ้น การโจมตีลักษณะนี้เป็นอันตราย เนื่องจากสามารถเกิดช่องโหว่ได้ในทุกเฟส ตั้งแต่การออกแบบ ไปจนถึงการพัฒนา การผลิต การแจกจ่าย การจัดหาและการใช้งาน ไปจนถึงการบำรุงรักษา ซึ่งสามารถส่งผลกระทบต่อรัฐบาล องค์กร และสาธารณชน   ไตรมาสที่ 2 ปีนี้ แคสเปอร์สกี้ตรวจพบภัยคุกคามทางเว็บที่แตกต่างกัน 4,740,347 ครั้งบนคอมพิวเตอร์ของผู้เข้าร่วม Kaspersky Security Network (KSN) ในประเทศไทย โดยรวมแล้วมีผู้ใช้ชาวไทยจำนวน 20.1%…

คู่รักเวียดนามแสบ ลบข้อมูลเครือโรงแรมอินเตอร์คอนฯ เอาสนุก

Loading

REUTERS/Evgenia Novozhenina/File Photo   คู่รักเวียดนามแสบ ลบข้อมูลเครือโรงแรมอินเตอร์คอนฯ เอาสนุก   เมื่อวันที่ 17 กันยายน สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า แฮ็กเกอร์ที่ใช้ชื่อว่าทีพี (TeaPea) ซึ่งอ้างว่าเป็นคู่สามี-ภรรยาชาวเวียดนาม ได้ออกมาเปิดเผยกับสำนักข่าวบีบีซีว่า พวกเขาได้ทำการโจมตีทางไซเบอร์ใส่เครือโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล ซึ่งมีโรงแรมในเครือ เช่น โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์, โรงแรมคราวน์พลาซ่า และโรงแรมรีเจนท์ เหตุเพราะทำเอาสนุก   ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 6 กันยายนที่ผ่านมา บีบีซีรายงานว่า บรรดาลูกค้าของเครือโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัลพบปัญหาว่าไม่สามารถจองโรงแรม หรือเข้าเช็กอินกับทางโรงแรมในเครือได้ ซึ่งแต่เดิมเครือโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัลออกมาประกาศผ่านทางสื่อโซเชียลว่า ตอนนี้ระบบคอมพิวเตอร์ของโรงแรมกำลังปิดปรับปรุง แต่ในวันต่อมา โรงแรมได้ออกมายอมรับกับบรรดานักลงทุน ผู้ถือหุ้นโรงแรม ว่าขณะนี้เครือข่ายไซเบอร์ของโรงแรมกำลังถูกแฮก   โดยคู่สามี-ภรรยาชาวเวียดนาม ผู้ก่อเหตุ ได้บอกกับบีบีซีว่า “การโจมตีของเรามีเจตนาเดิมคือต้องการเรียกค่าไถ่ข้อมูล แต่ทีมแอดมินของเครือโรงแรมสามารถปิดเซิร์ฟเวอร์ได้ก่อนที่เราจะทำสำเร็จ เราเลยคิดหาอะไรสนุก ๆ ทำ โดยการลบข้อมูลภายในระบบโรงแรมแทน” โดยผู้ก่อเหตุสามารถเข้าถึงอีเมล์ Outlook, Microsoft Team และเซิร์ฟเวอร์ภายในอื่น ๆ ของทางเครือโรงแรม…

ญี่ปุ่นสั่งอพยพ 4 ล้านคน – ยกเลิกเที่ยวบิน รับมือไต้ฝุ่นนันมาดอล

Loading

  ญี่ปุ่นประกาศเตือนภัยระดับพิเศษ และมีคำสั่งให้ประชาชนกว่า 4 ล้านคนอพยพออกจากพื้นที่เสี่ยง เพื่อเตรียมรับมือพายุไต้ฝุ่น “นันมาดอล” ที่คาดว่าจะพัดเฉียดหรือขึ้นฝั่งบนเกาะคิวชูทางภาคใต้ในวันนี้   สำนักงานอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่น รายงานวันนี้ว่า ตาพายุไต้ฝุ่น “นันมาดอล” อยู่ทางใต้ของเกาะคิวชูแล้วในเช้าวันนี้ และเคลื่อนตัวช้า ๆ โดยคาดว่า จะพัดเข้าใกล้ที่สุดหรือขึ้นฝั่งช่วงวันอาทิตย์ถึงวันจันทร์   พายุอ่อนกำลังลงเมื่อเช้ามืดวันอาทิตย์ โดยในเมืองยากุชิมะ จังหวัดคาโงชิมะ วัคดวามเร็วลมได้สูงสุด 183.24 กม./ชม. แต่ยังอาจมีความเร็วลมสูงสุดถึง 250 กม./ชม.ได้ และพายุอาจทำให้มีฝนตกวัดได้ 600 มิลลิเมตรในพื้นที่ตอนใต้ของเกาะคิวชูในช่วง 24 ชม.จนถึง 6.00 น.ของวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่น และทางตอนเหนือของเกาะคิวชูและเกาะชิโกกุอาจมีฝนตกวัดได้ 400 มิลลิเมตร หลังจากนั้นพายุจะเคลื่อนตัวไปทางตะวันตกเฉียงเหนือมุ่งหน้าสู่เกาะฮอนชู   ก่อนหน้านี้สำนักงานอุตุนิยมวิทยา ออกคำเตือนภัยพายุระดับสูงที่สุดในจังหวัดคาโงชิมะเมื่อเย็นวันเสาร์ หลังจากพยากรณ์อากาศคาดว่า พายุจะมีความรุนแรงที่สุดในรอบหลายสิบปี และจะพัดขึ้นฝั่งที่จังหวัดคาโงชิมะในวันอาทิตย์ โดยเป็นคำเตือนภัยระดับพิเศษเกี่ยวกับพายุไต้ฝุ่นที่ประกาศนอกภูมิภาคโอกินาวะครั้งแรก นับตั้งแต่เริ่มมีการใช้ระบบเตือนภัยนี้ในปี 2556   ทางการประกาศเตือนภัยระดับ 5 ที่เป็นระดับสูงสุดให้ประชาชนกว่า 110,000 คนในจังหวัดคาโงชิมะ และจังหวัดมิยาซากิอพยพออกจากบ้านเรือน…

มท.1 สั่งเข้มทุก จ.พบจุดเสี่ยงอันตรายจากเสาไฟฟ้า หากประเมินอันตรายให้ตัดไฟทันที

Loading

  มท.1 สั่งการเน้นย้ำจังหวัด ท้องถิ่นและการไฟฟ้าตรวจสอบจุดเสี่ยงอันตรายจากเสาไฟฟ้า หรือหากประเมินว่าจะมีอันตรายต่อประชาชนให้ตัดไฟทันที   พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะผู้บัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (บกปภ.ช.) เปิดเผยว่า ในช่วงที่ผ่านมาได้เกิดฝนตกหนัก ทำให้มีน้ำท่วมขังเป็นบริเวณกว้างในหลายพื้นที่ จึงมีความเสี่ยงที่จะได้รับอันตรายจากอุบัติภัยในรูปแบบต่างๆ โดยเฉพาะอุบัติภัยจากไฟฟ้าทั้งไฟฟ้าช็อตและไฟฟ้าดูดที่อาจทำให้ได้รับอันตรายแก่ชีวิตได้ ดังกรณีเหตุการณ์ไฟฟ้าดูดเนื่องจากฝนตกน้ำท่วมที่เกิดขึ้นในจังหวัดอุดรธานี จึงได้สั่งการให้จังหวัด กทม.และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศประสานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคและการไฟฟ้านครหลวงเร่งตรวจสอบจุดเสี่ยงอันตรายจากกระแสไฟฟ้ารั่ว   รวมทั้งเครื่องวัดหน่วยไฟฟ้าที่ติดตั้งบนเสาไฟฟ้า ป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ และต้นไม้ใหญ่ที่อยู่ใกล้เสาไฟฟ้า โดยเฉพาะในบริเวณที่มีน้ำท่วมขัง และให้เตรียมความพร้อมในการช่วยเหลือด้านระบบไฟฟ้าแก่ประชาชนในพื้นที่ตลอด 24 ชั่วโมง หากตรวจสอบพบมีกระแสไฟฟ้ารั่วไหลหรือประเมินว่าจะเกิดอันตรายต่อประชาชนให้รีบตัดกระแสไฟฟ้าทันที พร้อมทั้งจัดเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบและดำเนินการซ่อมแซมแก้ไขให้อยู่ในสภาพที่ปลอดภัย ทั้งนี้ ให้อำเภอและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนให้ประชาชนและสร้างการรับรู้ในการระมัดระวังตนเองจากไฟฟ้าที่มักความเสี่ยงเกิดขึ้นบ่อยครั้งในช่วงที่มีฝนตกและมีน้ำท่วมขัง   พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า สำหรับพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วม ขอให้ตรวจสอบอุปกรณ์ไฟฟ้า ปลั๊กไฟ และเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน และย้ายขึ้นที่สูงให้พ้นจากระดับน้ำท่วมถึง หากมีน้ำท่วมบ้าน ให้สับคัตเอาท์เพื่อตัดกระแสไฟฟ้า โดยสามารถแจ้งเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคหรือช่างไฟฟ้าที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านระบบไฟฟ้า มาดำเนินการปลดสวิตช์ เพื่อป้องกันกระแสไฟฟ้ารั่ว และเพื่อความปลอดภัยไม่ควรใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าขณะที่ร่างกายเปียกชื้นหรือยืนแช่น้ำ รวมถึงไม่ควรลุยน้ำเข้าใกล้แนวสายไฟ เสาไฟฟ้า หรือสัมผัสวัตถุที่เป็นสื่อนำไฟฟ้า เพราะหากมีกระแสไฟฟ้ารั่ว อาจจะทำให้ถูกไฟฟ้าดูดเป็นอันตรายถึงชีวิตได้   ทั้งนี้ ประชาชนที่พบเห็นเหตุการณ์ไฟฟ้ารั่ว สามารถแจ้งเหตุได้สามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางสายด่วนนิรภัย…

แฮ็กเกอร์แสบ! โพสต์ขายข้อมูลของลูกค้าร้านกาแฟชื่อดัง สตาร์บัคส์ (สิงคโปร์) กว่า 219,000 รายชื่อ

Loading

  ร้านกาแฟชื่อดัง “สตาร์บัคส์” ที่ประเทศสิงคโปร์ ยอมรับว่าพวกเขากับประสบปัญหาเกี่ยวกับข้อมูลรั่วไหล ซึ่งกระทบกับผู้ใช้ราว 219,000 ราย   สาเหตุที่เป็นประเด็นนั้นเกิดราว ๆ ประมาณเมื่อวันที่ 10 กันยายนที่ผ่านมา เมื่อมีผู้ไม่ประสงค์ดีได้ออกมาประกาศขายข้อมูล ซึ่งในนั้นระบุว่าเป็นข้อมูลสำคัญของลูกค้า สตาร์บัคส์ จำนวนประมาณ 219,675 ราย ผ่านทางเว็บฟอรั่มที่เกี่ยวกับการแฮ็กชื่อดังแห่งหนึ่ง   และล่าสุดทางสตาร์บัคส์ ก็ได้ออกจดหมายเพื่อแจ้งลูกค้าต่าง ๆ ถึงข้อมูลที่รั่วไหล โดยระบุว่าแฮกเกอร์นั้นขโมยข้อมูลต่าง ๆ ไปประกอบด้วย ชื่อ, เพศ, วันเกิด, เบอร์มือถือ, อีเมล์ และที่อยู่   ช่องโหว่ดังกล่าวส่วนใหญ่จะเป็นรายชื่อของลูกค้าที่ใช้งานโมบายแอปของ สตาร์บัคส์ ในการสั่งหรือใช้ในร้านค้าออนไลน์ของทางร้านในการซื้อสินค้าต่าง ๆ โดยส่วนใหญ่เป็นร้านและสาขาต่างๆ กว่า 125 แห่งทั่วประเทศสิงคโปร์   อย่างไรก็ตามบริษัทแจ้งว่าข้อมูลที่รั่วนั้นไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับด้านการเงินเช่นบัตรเครดิต โดยข้อมูลนั้นมีการั่วไหลจริง ๆ ไม่ใช่ว่าสตาร์บัคส์นำข้อมูลนั่นไปขาย!     อ่านเพิ่มเติมที่นี่ – Bleepingcomputer  …

ผู้ที่อยู่ในคิวรอถวายความเคารพและรักอาลัยต่อสมเด็จพระราชินีนาถ บอกว่ามีคนร้องไห้ระงม และช็อกกันไปหมดที่ต้องประสบกับเหตุร้ายน่าสะเทือนขวัญ

Loading

  ชมคลิปดรามาระทึกไล่ล็อกตัวพัลวัน หนุ่มเฮี้ยนพุ่งฝ่าแนวพิทักษ์พระบรมศพควีน จะกระชากธงคลุมหีบ!!   ในจำนวนผู้คนหลายแสนชีวิตที่เข้าเฝ้าถวายคารวาลัยแด่สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ณ ท้องพระโรง อาคารเวสต์มินสเตอร์ ฮอลล์ ของรัฐสภาอังกฤษ ปรากฏว่ามีวายร้ายออกปฏิบัติการเดี่ยว พุ่งตัวฝ่าตำรวจและทหารมากมายที่เฝ้าพิทักษ์ปกป้องพระบรมศพ หมายจะขึ้นไปกระชายธงพระอิสริยยศที่คลุมหีบพระบรมศพ แต่ชายจอมเฮี้ยนรายนี้กระทำการไม่สำเร็จ และถูกปราบอย่างเฉียบขาด ถูกจับกุมและนำตัวออกจากท้องพระโรงไปอย่างรวดเร็ว นับเป็นความโกลาหลที่สร้างความสะเทือนใจอย่างที่สุดที่มีคนบ้าบิ่นบังอาจกระทำการจาบจ้วงพระเกียรติยศของสมเด็จพระราชินีนาถผู้เป็นที่รักและเคารพของประชาชนชาวอังกฤษ   ประชาชนนับร้อยกรีดร้องดังก้องท้องพระโรงที่ประดิษฐานหีบพระบรมศพควีนอังกฤษ เนื่องจากเกิดเหตุโกลาหลที่แสนจะเหลือเชื่อว่าใครเลยจะกล้า ชายผู้บ้าบิ่นขั้นสุดพุ่งตัวออกจากแถวคิว วิ่งฝ่าตำรวจและทหาร หมายจะเข้าไปคว้าผืนธงคลุมหีบพระบรมศพซึ่งตั้งบนเวทียกพื้นตื้นๆ เพียงประมาณสองฟุต   ทีมเจ้าหน้าที่ซึ่งมีปฏิกิริยาฉับไวพากันกระโจนตามไล่คว้าตัวชายลึกลับเป็นพัลวัน พร้อมกับลากให้ออกห่างจากหีบพระบรมศพได้ภายในไม่กี่วินาที แม้จะมีการดิ้นรนวุ่นวายเพราะจะไม่ยอมถูกจับกุม เดอะมิเรอร์รายงาน   ตามคลิปสั้นๆ ที่มีคนตาไวบันทึกคลิปเหตุการณ์โกลาหลอันน่าระทึกใจไว้ได้นั้น ชายลึกลับร่างสันทัดนายนี้ปฏิบัติการได้รวดเร็วทีเดียว เขาสามารถทะยานขึ้นไปถึงยกพื้นเวทีขั้นที่ 3 ภายใต้ความพยายามจะเข้าไปคว้าธงพระอิสริยยศให้หลุดจากหีบพระบรมศพ โดยดูเหมือนว่าเขาได้แตะๆ เฉียดๆ ชายผืนธงพระอิสริยยศแบบแว่บๆ   ในวินาทีเดียวกันนั้น สุดยอดเจ้าหน้าที่ร่างสูงใหญ่ในเครื่องแบบสีดำผู้ทรงประสิทธิภาพในการถวายอารักขาอย่างอัศจรรย์ สามารถออกปฏิกิริยาพุ่งกายตามไปคว้าวายร้ายได้ทันควัน และใช้พละกำลังกับความชำนาญในการปะทะที่เหนือชั้น ล็อกและดันวายร้ายจอมระห่ำให้ถอยกรูด จนกระทั่งถลาล้มกองไปบนพื้นหินด้วยกันอย่างรวดเร็วเหลือเชื่อ ศักยภาพขั้นสูงของเจ้าหน้าที่ทำให้ปฏิบัติการของคนร้ายล้มเหลว หลังจากที่จวนเจียนจะสามารถจาบจ้วงเบื้องพระยุคลบาทได้ แบบว่าเกือบจะสำเร็จอย่างหวุดหวิด ชนิดที่ว่าอีกเพียงหนึ่งวินาที วายร้ายผู้ฉับไวใจคอบ้าบิ่นนายนี้อาจจะสามารถฉวยชายผืนธงพระอิสริยยศได้อยู่มือ และอาจกระทำการอันร้ายกาจได้อย่างที่ไม่น่าจินตนาการกันเลย  …