Global Witness องค์กรไม่แสวงหากำไรด้านสิทธิมนุษยชน และทีมงาน Cybersecurity for Democracy (C4D) แห่งมหาวิทยาลัยนิวยอร์กเผยว่า Facebook และ TikTok ล้มเหลวในการขัดขวางโฆษณาที่เผยแพร่ข้อมูลเท็จเกี่ยวกับการเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐอเมริกาที่จะมีขึ้นในเดือนพฤศจิกายน
โดย Global Witness ได้ทำการทดสอบมาตรการป้องกันการเผยแพร่ข้อมูลเท็จบนโซเชียลมีเดีย ด้วยการสร้างบัญชีปลอมบน Facebook, TikTok และ YouTube จากนั้นใช้บัญชีเหล่านี้สร้างโฆษณาทั้งในภาษาอังกฤษและสเปน
ทางองค์กรระบุว่าโฆษณาแต่ละตัวมีเนื้อหาที่เป็นข้อมูลเท็จอย่างชัดเจน อย่างการอ้างว่าคนที่จะไปเลือกตั้งได้ต้องฉีดวัคซีนก่อน หรืออ้างว่าต้องโหวต 2 ครั้งถึงจะมีความหมาย โฆษณาบางตัวก็ใส่วันที่ของการเลือกตั้งแบบผิด ๆ
พื้นที่เป้าหมายของโฆษณาเหล่านี้คือรัฐที่มีการแข่งขันกันอย่างสูสีระหว่างพรรคการเมืองใหญ่ ได้แก่ แอริโซนา โคโลราโด จอร์เจีย นอร์ทแคโรไลนา และเพนซิลเวเนีย
ผลก็คือมีเพียง YouTube เท่านั้นที่สามารถปิดกั้นโฆษณาทั้งหมด รวมถึงยังสามารถบล็อกบัญชีที่สร้างโฆษณาเท็จได้ด้วย
ในทางกลับกัน ในการทดลองครั้งแรก Facebook อนุมัติถึงร้อยละ 20 ของโฆษณาปลอมที่เป็นภาษาอังกฤษ และอนุมัติครึ่งหนึ่งของโฆษณาภาษาสเปน ในขณะที่การทดลองใหม่อีกครั้ง Facebook อนุมัติโฆษณาปลอมในภาษาอังกฤษและสเปน เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 30 และร้อยละ 20 ตามลำดับ
ที่น่าตกใจคือแม้แต่บัญชีที่มีที่อยู่ในสหราชอาณาจักรก็ยังได้รับการอนุมัติให้โฆษณาเกี่ยวกับการเลือกตั้งในสหรัฐฯ ได้ แต่ Facebook ก็สามารถลบ 1 บัญชีปลอม จาก 3 บัญชีได้
Facebook ออกมาตอบในกรณีนี้ว่ารายงานเหล่านี้มีกลุ่มตัวอย่างที่เป็นจำนวนน้อยมาก ในขณะที่โฆษณาเกี่ยวกับการเมืองที่ทางบริษัทต้องกรองในแต่ละวันนั้นมหาศาล
อีกด้านหนึ่ง TikTok อนุมัติโฆษณาปลอมถึงร้อยละ 90 โฆษณาเดียวที่ TikTok ไม่อนุมัติคือโฆษณาที่มีเนื้อหาอ้างว่าต้องฉีดวัคซีนก่อนถึงจะมีสิทธิเลือกตั้ง อีกทั้งบัญชีปลอมที่ทีมวิจัยสร้างขึ้นก็เพิ่งจะถูกลบเมื่อได้มีการติดต่อไปยัง TikTok
ซึ่งทาง TikTok ไม่ได้ตอบคำถามเกี่ยวกับประสิทธิภาพของระบบการคัดกรองโฆษณา ระบุแต่เพียงว่าบริษัทมีนโยบายห้ามการโพสต์ข้อมูลเท็จเกี่ยวกับการเลือกตั้งและการโฆษณาเกี่ยวกับการเมืองอยู่แล้ว
ทั้งนี้ นักวิจัยลบโฆษณาปลอมที่สร้างขึ้นทันทีหลังจากได้รับการอนุมัติจากแต่ละแพลตฟอร์ม เพื่อไม่ให้มีผู้ใช้ได้เห็นข้อมูลดังกล่าว
ที่มา Mashable
——————————————————————————————————————————————————-
ที่มา : แบไต๋ / วันที่เผยแพร่ 22 ต.ค.65
Link : https://www.beartai.com/news/itnews/1166652