ผอ.ศูนย์ความปลอดภัยฯ สอศ. ถกเข้มมาตรการสถานศึกษาปลอดภัย ยกระดับแผนงานเชิงรุกตั้ง 7 กลุ่ม เฝ้าระวังเหตุเด็กช่างตีกันเขต กทม. และปริมณฑล
เมื่อวันที่ 21 ต.ค. นายทวีศักดิ์ คิ้วทอง ผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคนิคมีนบุรี ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ความปลอดภัย สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (ศป.สอศ.) หรือ VEC Safety Center เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ตนได้ประชุมวางแผนป้องกันแก้ไขปัญหาพฤติกรรมไม่เหมาะสมของนักเรียน นักศึกษาอาชีวศึกษา และมาตรการรักษาความปลอดภัยในสถานศึกษา (การใช้อาวุธปืนและยาเสพติด) เชิงรุก กลุ่มสถานศึกษาเฝ้าระวังป้องกันเหตุทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ ในพื้นที่กรุงเทพและปริมณฑล จำนวนกว่า 50 แห่ง
เพื่อวางแผนป้องกันเหตุ ความรุนแรงและพฤติกรรมไม่เหมาะสมของนักเรียน นักศึกษา ตามนโยบายสถานศึกษาปลอดภัย MOE Safety Center น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ ที่มอบหมายให้ว่าที่ร้อยตรี ดร.ธนุ วงษ์จินดา รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) รักษาราชการแทนเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) ได้เร่งรัดพัฒนาคุณภาพอาชีวศึกษาใน 6 ด้าน
ประกอบด้วย ด้านอาชีวศึกษาปลอดภัย ด้านการสร้างภาพลักษณ์อาชีวศึกษาใหม่ ด้านคุณภาพ ด้านขยายโอกาส ด้านธรรมาภิบาล และด้านสร้างความร่วมมือในการจัดการอาชีวศึกษา ในการบริหารจัดการรูปแบบใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านความร่วมมือของพลังเครือข่ายเพื่อให้การผลิตและพัฒนากำลังคนอาชีวศึกษาเป็นกำลังหลักในการพัฒนาและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันระหว่างประเทศ คือ ประเทศไทย มั่นคง มั่งคั่ง ร่ำรวยด้วยมืออาชีวศึกษาและสร้างภาพลักษณ์ใหม่ให้เกิดความเชื่อมั่น เกิดความปลอดภัยในสถานศึกษาโดยบริการบริหารจัดการในรูปแบบ “One Team”
นายทวีศักดิ์ กล่าวต่อไปว่า ทั้งนี้จึงได้มีการจัดตั้งกลุ่มเฝ้าระวังป้องกันเหตุขึ้น 7 กลุ่ม ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ร่วมคิดร่วมทำร่วมแก้ไขปัญหา การจัดการประชุมครั้งนี้มี ผู้อำนวยการสถานศึกษา รองผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนากิจการนักเรียนนักศึกษา และหัวหน้างานปกครอง สถานศึกษาทั้ง 7 กลุ่มในเขตพื้นที่ ได้แก่
กลุ่มที่ 1 จตุจักร (เขตมีนบุรี เขตบางกะปิ เขตบึงกุ่ม เขตหนองจอก เขตคันนายาว เขตคลองสามวา)
กลุ่มที่ 2 อนุสรณ์สถาน (จังหวัดปทุมธานี จังหวัดนนทบุรี เขตดอนเมือง เขตสายไหม เขตหลักสี่ เขตบางเขน เขตลาดพร้าว เขตบางซื่อ)
กลุ่มที่ 3 (เขตดุสิต เขตบางพลัด)
กลุ่มที่ 4 สวนหลวง ร.9 (จังหวัดสมุทรปราการ เขตพระโขนง เขตสวนหลวง เขตบางนา)
กลุ่มที่ 5 ธนบุรี (จังหวัดสมุทรสาคร จังหวัดนครปฐม เขตบางบอน เขตตลิ่งชัน เขตบางกอกน้อย เขตบางกอกใหญ่ เขตบางขุนเทียน เขตภาษีเจริญ เขตหนองแขม เขตทวีวัฒนา)
กลุ่มที่ 6 กรุงเก่า (จังหวัดพระนครศรีอยุธยา) กลุ่มที่ 7 บางปะกง (จังหวัดฉะเชิงเทรา)
“ทั้งนี้ที่ประชุมได้เสนอแผนเชิงรุกแนวใหม่ และคิดนำเอาเทคโนโลยีนวัตกรรมมาช่วยในการปฏิบัติงานเพื่อยกระดับให้เป็นสถานศึกษาอัจฉริยะด้านความปลอดภัย หรือ “Smart Safety College” ตามหลัก 3 ป คือ 1. ป้องกันความเสี่ยงแนวโน้มที่อาจเกิดขึ้น 2. ปลูกฝังให้นักเรียนนักศึกษา รู้วิธีเอาตัวรอดอย่างชาญฉลาดสอนวิชาชีวิตที่สำคัญ ไม่น้อยกว่าวิชาการ และ 3. ปราบปราม พวกที่กระทำความผิดอย่างจริงจัง เน้นเยียวยาผู้เสียหายเป็นสำคัญ
ซึ่งทุกกลุ่มได้เสนอแผนและมาตรการป้องกันเหตุ ที่เป็นแผนปฏิบัติได้จริงสอดคล้องกับบริบทของพื้นที่ที่ผู้ปฏิบัติช่วยกันคิดช่วยกันทำช่วยกันแก้ปัญหาแบบ Bottom up ไม่ใช่แผนปฏิบัติที่สั่งจากข้างบนลงไปหรือ Top Down ซึ่งที่ผ่านมาจะเกิดปัญหาเพราะไม่สอดคล้องกับผู้ปฏิบัติในพื้นที่ ในเบื้องต้นสถานศึกษาบางแห่งก็ยังมีข้อจำกัดทรัพยากร ในการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งจะขอรับการสนับสนุนจาก สอศ. ต่อไป” นายทวีศักดิ์ กล่าว.
—————————————————————————————————————–
ที่มา : เดลินิวส์ออนไลน์ / วันที่เผยแพร่ 21 ต.ค.65
Link : https://www.dailynews.co.th/news/1600455/