อาเซียนสะพรึง!! ‘เวิร์คฟรอมโฮม’ เป้าหมายอาชญากรไซเบอร์

Loading

  แคสเปอร์สกี้เผย อาชญากรไซเบอร์ยังเล็งโจมตีพนักงานเวิร์คฟรอมโฮมในอาเซียน ระบุตัวเลขบล็อกการโจมตี RDP มากกว่า 2.6 แสนครั้งต่อวันในครึ่งปีแรก   การทำงานแบบไฮบริด และระยะไกล กลายเป็นรูปแบบการทำงานที่ปกติในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในปัจจุบัน ในช่วงเดือนมกราคมถึงมิถุนายนของปี 2022 โซลูชันของแคสเปอร์สกี้ได้บล็อกการโจมตี Remote Desktop Protocol (RDP) จาก Bruteforce.Generic.RDP ที่กำหนดเป้าหมายโจมตีพนักงานที่ทำงานระยะไกลในภูมิภาคทั้งหมด 47,802,037 รายการ เฉลี่ยแล้วในทุกๆ วัน แคสเปอร์สกี้บล็อกโจมตีแบบ “Brute force attack” จำนวน 265,567 ครั้ง   ในช่วงครึ่งปีแรกนี้ แคสเปอร์สกี้ปกป้องผู้ใช้ในภูมิภาคส่วนใหญ่จากประเทศเวียดนาม อินโดนีเซีย และไทยจากภัยคุกคามประเภทนี้     จับตา RDP ขยายวงกว้าง   แคสเปอร์สกี้ อธิบายว่า Remote Desktop Protocol (RDP) เป็นโปรโตคอลที่เป็นกรรมสิทธิ์ของ ไมโครซอฟท์ ซึ่งเป็นกราฟิกอินเทอร์เฟซให้ผู้ใช้เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นผ่านเครือข่าย RDP ใช้กันอย่างแพร่หลาย…

บุกจุดเกิดเหตุ #กราดยิง “การรักษาความปลอดภัยไทย” สอบตกมาตรฐานโลก!!

Loading

  หลากหลายอารมณ์ที่ถ่ายทอดออกมาทางโซเชียลฯ ดรามาสนั่น “สื่อต่างชาติ” บุกถ่ายจุดกราดยิงหนองบัวลําภู ตอกย้ำความเจ็บปวด ทั่วโลกจับตามอง การทำงานของเจ้าหน้าที่ ด้านนักอาชญาวิทยาสะท้อนไร้มาตรฐานความปลอดภัย-การเข้าถึงพื้นที่เกิดเหตุอาชญากรรม!?   เจตนาดี-รุกล้ำพื้นที่เกิดอาชญากรรม?     ยังคงเป็นเหตุการณ์ที่อยู่ในความสนใจ และสร้างความสะเทือนใจของทั่วมุมโลก กับเหตุการณ์อาชญานาฏกรรม “กราดยิงหนองบัวลำภู” อย่างไรก็ตาม ในประเด็นที่ยังคงเป็นปัญหา จนสังคมวิจารณ์กัน คือ การทำหน้าที่เสนอข่าวของสื่อมวลชน ที่อาจมีความสุ่มเสี่ยง ตอกย้ำแผลในใจครอบครัวผู้เสียชีวิต   ยิ่งไปกว่านั้น ล่าสุด พบ ผู้สื่อข่าว CNN (สำนักข่าวต่างประเทศ) เข้าไปนำเสนอข่าวข้างในอาคารศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ที่เกิดเหตุได้ ทั้งที่ด้านนอกมีการกั้นรั้วอยู่ ทำให้คนสงสัยว่า เข้าไปได้อย่างไร   บางคนมองว่า เป็นการปีนรั้วเข้าไปนำเสนอข่าว โดยมีการได้รับอนุญาตเป็นกรณีพิเศษหรือไม่ รวมทั้งตั้งข้อสงสัยถึงมาตรการดูแลของเจ้าหน้าที่ ที่ไม่รัดกุมและมีมาตรฐานที่ดีพอ     อย่างไรก็ดี ทางสถานีข่าว CNN ออกแถลงการณ์ถึงการรายงานจากภายในจุดเกิดอาชญากรรมในครั้งนี้ ว่า ได้รับการอนุญาตจากเจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุข ทีมข่าวเข้าไปในอาคารด้วยเจตนาดี เพื่อให้เข้าใจถึงสิ่งที่เกิดขึ้นภายใน ซึ่งตอนนี้ได้ระงับการเผยแพร่แล้ว   “ทีมข่าวได้ขออนุญาตเจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุข…

รัสเซียเปิดฉากยิงขีปนาวุธถล่ม8เมืองยูเครน แก้แค้นระเบิดสะพานไครเมีย

Loading

    รัสเซียยิงขีปนาวุธใส่หลายเมืองในยูเครน ยังผลให้ประชาชนเสียชีวิตจำนวนมาก รวมถึงทำให้ไฟฟ้าดับในหลายเมือง โดยประธานาธิบดีปูตินถือว่าเป็นการโต้ตอบการโจมตีสะพานไครเมียเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา   เช้าวันนี้ (10 ต.ค. 2565) กองทัพรัสเซียเปิดฉากถล่มยูเครนด้วยการยิงขีปนาวุธใส่หลายเมืองทั่วประเทศในเวลาไล่เลี่ยกัน ซึ่งอยู่ระหว่างชั่วโมงเร่งด่วนของยูเครน ยังผลให้มีประชาชนเสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก อีกทั้งยังทำลายสาธารณูปโภค เช่น ระบบพลังงานไฟฟ้าและความร้อนในหลายเมือง ด้านประธานาธิบดีปูตินแห่งรัสเซียประกาศว่า การโจมตีครั้งนี้เป็นการ “แก้แค้น” กรณีระเบิดสะพานไครเมีย ก่อนหน้านี้   ขีปนาวุธของรัสเซียพุ่งเป้าไปที่ย่านชุมชน สวนสาธารณะ และแหล่งท่องเที่ยวในย่านธุรกิจของกรุงเคียฟ และอีกหลายเมือง ได้แก่ เมืองลวีฟ, เมืองเตร์โนปิล, เมืองชือร์โตมือร์ ซึ่งอยู่ทางตะวันตกของยูเครน, เมืองดนิโปร และเมืองเครเมนชุก ซึ่งอยู่ทางตอนกลางของยูเครน, เมืองซาโปริซเชีย ทางตอนใต้ และเมืองคาร์คีฟ ทางตะวันออกของยูเครน โดยการระดมยิงขีปนาวุธเป็นไปอย่างต่อเนื่องและรุนแรง     ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ประกาศผ่านสถานีโทรทัศน์ว่า เขาได้สั่งให้เปิดการโจมตีแหล่งพลังงานของยูเครนด้วยขีปนาวุธระยะไกลชุดใหญ่ โดยเป็นการระดมยิงจากทางอากาศ ทางน้ำ และบนบก เพื่อเป็นการโต้ตอบเหตุการณ์ระเบิดสะพานเคิร์ช ที่ไครเมีย เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ที่ปูตินระบุว่า เป็น…

ฟิลิปปินส์เริ่มบังคับใช้กฎหมาย “ลงทะเบียนซิมการ์ดมือถือ”

Loading

  ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ลงนามในกฎหมาย ว่าด้วยการที่ประชาชนต้องยืนยันตัวตนอย่างเป็นทางการ ว่าเป็นเจ้าของซิมการ์ดโทรศัพท์เคลื่อนที่ ไม่ว่าหมายเลขใดก็ตาม   สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ 10 ต.ค. ว่า ประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ ลงนามรับรองกฎหมาย ว่าด้วยการลงทะเบียนและการจัดเก็บข้อมูลผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ด้วยเลขบัตรประชาชน และข้อมูลสำคัญในเบื้องต้นให้ครบถ้วน เพื่อปิดโอกาสของมิจฉาชีพ ในการใช้หมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่ของประชาชนเพื่อการก่ออาชญากรรม   ปัจจุบัน ฟิลิปปินส์เป็นหนึ่งในประเทศซึ่งมีอัตราการเข้าถึงโทรศัพท์มือถือสูงสุดในทวีปเอเชีย คือ 61% จากประชากรประมาณ 110 ล้านคน และยังอยู่ในกลุ่มหัวตารางของการจัดอันดับโดยบริษัทวิจัยนานาชาติหลายแห่ง เกี่ยวกับการใช้เวลากับสมาร์ทโฟนและโซเชียลมีเดียต่อวันอีกด้วย   LIVE: President Ferdinand R. Marcos Jr. signs the Subscriber Identity Module (SIM) Card Registration Act | October 10, 2022https://t.co/ECSbqXLb4Q — Office of the…

ทำไม “สหรัฐ-อียู” ลงนามบังคับใช้มาตรการปกป้องโอนข้อมูล Privacy Shield 2.0

Loading

  ทำเนียบขาวประกาศว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐได้ลงนามในคำสั่งพิเศษของประธานาธิบดี เพื่อบังคับใช้กรอบการทำงานรูปแบบใหม่ “Privacy Shield 2.0” โดยมีเป้าหมายที่จะปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลที่แบ่งปันร่วมกันระหว่างสหรัฐ และสหภาพยุโรป   สำนักข่าวซีเอ็นบีซี รายงานว่า กรอบการทำงานใหม่นี้ช่วยเติมเต็มช่องว่างที่สำคัญด้านการปกป้องข้อมูลทั่วภูมิภาคแอตแลนติก นับตั้งแต่ที่ศาลยุติธรรมยุโรปยกเลิกกรอบการทำงานเดิมในปี 2563 หลังศาลพบว่า สหรัฐมีความสามารถในการสอดส่องข้อมูลของยุโรปที่ถ่ายโอนผ่านระบบก่อนหน้านี้มากเกินไป   นายเจมส์ ซัลลิแวน ซึ่งดำรงตำแหน่งรองผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ ณ เวลานั้น ได้ระบุในจดหมายเปิดผนึกสั้น ๆ ภายหลังการตัดสินใจไว้ว่า คดี “Schrems II” ได้สร้างความไม่มั่นคงใหญ่หลวงต่อความสามารถของบริษัทต่าง ๆ ในการถ่ายโอนข้อมูล ส่วนบุคคลจากสหภาพยุโรป (EU) ไปยังสหรัฐ ซึ่งผลลัพธ์ของคดีดังกล่าวได้ทำให้บริษัทในสหรัฐต้องใช้ “กลไกการถ่ายโอนข้อมูลที่ได้รับการอนุมัติจากสหภาพยุโรป” ที่แตกต่างกันในแต่ละกรณี ทำให้การทำธุรกิจเกิดความซับซ้อนมากขึ้น   กรอบการทำงาน Privacy Shield 2.0 จะให้แนวทางใหม่เพื่อผ่อนคลายความกังวลของยุโรปที่มีต่อความเป็นไปได้ในการสอดส่องข้อมูลจากหน่วยงานข่าวกรองของสหรัฐ กรอบการทำงานใหม่นี้จะช่วยให้บุคคลในสหภาพยุโรปสามารถยื่นขอการชดใช้ผ่านทางศาลตรวจสอบการคุ้มครองข้อมูลอิสระ (DPRC) ซึ่งประกอบด้วยสมาชิกนอกรัฐบาลสหรัฐ และหน่วยงานดังกล่าว “จะมีอำนาจเต็มที่” ในการตัดสินข้อเรียกร้อง และออกมาตรการแก้ไขตามความจำเป็น  …

เทคนิคมีนบุรี ติวเข้มความปลอดภัยในสถานศึกษา Smart Safety College

Loading

  วิทยาลัยเทคนิคมีนบุรี ถกระบบรักษาความปลอดภัยอัจฉริยะ Smart Safety College ดูแลสถานที่ บุคลากร และนักศึกษา   เมื่อวันที่ 10 ต.ค. นายทวีศักดิ์ คิ้วทอง ผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคนิคมีนบุรี เปิดเผยว่า ตามที่ ว่าที่ร้อยตรี ดร.ธนุ วงษ์จินดา รักษาราชการแทนเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) และนางสาวตรีนุชเทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ มอบหมายให้สถานศึกษา ดำเนินการตามนโยบายความปลอดภัยของสถานศึกษา 3 ป. คือ ป้องกัน ปลูกฝังและปราบปราม เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในสถานศึกษาสูงสุดนั้น   ในส่วนของวิทยาลัยเทคนิคมีนบุรีได้ประชุมผู้เกี่ยวข้องร่วมกันทั้งระบบ on site และ online มีรองผู้อำนวยการ ครูอาจารย์ ครูปกครอง ครูที่ปรึกษา ฝ่ายรักษาความปลอดภัยของวิทยาลัย บริษัทดิจิตอลโฟกัสและสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าลาดกระบัง ซึ่งเป็นเครือข่ายความร่วมมือในการจัดการเรียนการสอนในสาขาอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ   เพื่อซักซ้อมและยกระดับการปฏิบัติตามมาตรการรักษาความปลอดภัยในสถานที่ราชการในการดูแลความปลอดภัยของครู บุคลากรทางการศึกษา นักเรียนนักศึกษา รวมถึงผู้มาติดต่อราชการให้เป็นไปตามนโยบายของว่าที่ร้อยตรี ดร.ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ตามนโยบายการดูแลความปลอดภัยตามหลัก…