GETTY IMAGES
นางโอเลนา เซเลนสกา สตรีหมายเลขหนึ่งของยูเครน กล่าวว่า ชาวยูเครนเตรียมเผชิญกับฤดูหนาวที่จะมีการตัดกระแสไฟฟ้า 2-3 ปี จากการที่ถูกรัสเซียโจมตีทางอากาศ
การที่รัสเซียโจมตียูเครนด้วยโดรนและขีปนาวุธ ทำให้ผู้คนหลายล้านคนทั่วประเทศยูเครนไม่มีไฟฟ้า น้ำประปา และไม่สามารถใช้ระบบทำความร้อนในช่วงฤดูหนาวได้
รัสเซียสร้างความเสียหายต่อระบบไฟฟ้าของยูเครนมากแค่ไหน
หลังจากเผชิญกับความล้มเหลวในสมรภูมิรบหลายครั้ง กองทัพรัสเซียได้มุ่งเน้นการโจมตีไปที่โรงไฟฟ้าของยูเครน คลังเก็บเชื้อเพลิง และสถานีประปา
ยูเครเนอร์โก (Ukrenergo) บริษัทพลังงานแห่งชาติของยูเครน ระบุว่า ความเสียหายต่อโครงสร้างพื้นฐานด้านไฟฟ้ามีมากถึงขนาดที่ไม่สามารถตอบสนองต่อปริมาณความต้องการไฟฟ้าราว 50%
นายโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครนกล่าวว่า ประชาชนราว 6 ล้านคนใช้ชีวิตอยู่โดยไม่มีไฟฟ้าใช้งาน
โรงไฟฟ้าทั่วประเทศตั้งแต่กรุงเคียฟไปจนถึงเมืองโอเดสซาทางใต้และเมืองวีนนิตเซียทางตะวันตกต่างถูกโจมตี
กระแสไฟฟ้าขัดข้องทำให้ประชาชนจำนวนมากไม่สามารถใช้ระบบทำความร้อน ขณะที่อุณหภูมิลดต่ำลงกว่า 0 องศาเซลเซียสแล้วในหลายพื้นที่ของยูเครน
ยาสโน (Yasno) บริษัทไฟฟ้าแห่งหนึ่ง ระบุว่า ชาวยูเครนน่าจะต้องเผชิญกับการถูกตัดไฟไปจนถึงเดือน มี.ค.
สหภาพยุโรป ได้มอบเงินผ่านกองทุนช่วยเหลือด้านพลังงานของยูเครน (Ukraine Energy Support Fund) ในการซื้ออุปกรณ์อย่างเครื่องปั่นไฟและสายไฟเพื่อที่จะได้มีปริมาณไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้น
โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ได้รับผลกระทบอย่างไรบ้าง
โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ 3 แห่งขาดการเชื่อมต่อกับระบบสายส่ง 2 วัน เพราะการโจมตีทางอากาศ
บรรดาผู้เชี่ยวชาญของสหประชาชาติต่างกังวลเช่นกันว่า การระดมโจมตีโดยรอบโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอรีเชีย ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป อาจจะทำให้เกิดการรั่วไหลของสารกัมมันตรังสี
ลูกปืนใหญ่หลายลูกตกใกล้กับเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์หลายแห่ง และตกใส่อาคารเก็บกากกัมมันตรังสีที่โรงไฟฟ้าดังกล่าว แต่ยังไม่ได้ทำให้เกิดความเสียหายรุนแรง
ยูเครนและรัสเซียต่างกล่าวหากันเกี่ยวกับการระดมยิงโจมตีนี้
ทำไมรัสเซียจึงตั้งเป้าโจมตีระบบพลังงาน
มารีนา มีรอน นักวิจัยด้านกลาโหม ที่คิงส์คอลเลจ มหาวิทยาลัยลอนดอน กล่าวว่า การโจมตีโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานมีเป้าหมายในการทำลายขวัญกำลังใจของประชาชนในยูเครน
“รัสเซียคิดว่า ถ้าคนกำลังหนาวเหน็บและสิ้นหวัง พวกเขาอาจจะต่อต้านรัฐบาลของตัวเอง” เธอกล่าว
อย่างไรก็ตาม นางโอเลนา เซเลนสกา ได้กล่าวกับบีบีซี นิวส์ ว่า ชาวยูเครนเตรียมพร้อมในการอยู่โดยไม่มีไฟฟ้าใช้แล้ว ถ้ามันจะนำไปสู่การเป็นอิสระ และมีโอกาสในการเข้าร่วมกับสหภาพยุโรป
รัฐบาลยูเครนกำลังขอร้องให้ประชาชนอพยพออกจากพื้นที่บางแห่งที่สิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ อย่างโรงไฟฟ้าได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง แทนที่จะพยายามใช้ชีวิตในช่วงฤดูหนาวที่นั่น
นอกจากนี้รัฐบาลยังแนะนำให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในภูมิภาคแคร์ซอนและมิโคลายีฟ ทางตะวันตกเฉียงใต้ของยูเครน ย้ายไปอยู่ในพื้นที่ทางตอนกลางและทางตะวันตกของประเทศ
การโจมตีของรัสเซียสร้างความเสียหายต่อบริการสาธารณสุขอยางไร
องค์การอนามัยโลก (World Health Organization–WHO) ระบุว่า มีสถิติการโจมตีหรือขู่ว่าจะโจมตีสถานพยาบาลในยูเครนรวม 703 ครั้ง นับตั้งแต่รัสเซียบุกยูเครนในเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา
โรงพยาบาลและสถานพยาบาลหลายร้อยแห่ง “ไม่สามารถปฏิบัติการได้อย่างเต็มที่อีกต่อไป ขาดแคลนเชื้อเพลิง, น้ำ และไฟฟ้า ไม่พอต่อความต้องการพื้นฐาน” ดร. ฮานส์ คลูเกอ ผู้อำนวยการภูมิภาคยุโรปของ WHO กล่าว เขากล่าวว่า เรื่องนี้ทำให้คนหลายล้านคนเผชิญกับความเสี่ยง
WHO ได้เรียกร้องให้มีการเปิด “เส้นทางสุขภาพ” เพื่อนำส่งความช่วยเหลือไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ที่รัสเซียยึดครองอยู่อย่างดอนบาส และหลายพื้นที่ที่กองทัพยูเครนยึดกลับคืนมาได้อย่างภูมิภาคแคร์ซอน
GETTY IMAGES / ชาวเมืองแคร์ซอนที่สถานีรถไฟ กำลังรอการอพยพ
การโจมตีโรงไฟฟ้าและสถานพยาบาลเป็นอาชญากรรมสงครามหรือไม่
ภายใต้อนุสัญญาเจนีวา การจงใจโจมตีพลเรือนหรือโครงสร้างพื้นฐานที่มีความสำคัญต่อการมีชีวิตรอดของพลเรือน อาจถูกตีความได้ว่า เป็นอาชญากรรมสงคราม
ดร.คลูเกอ เรียกการโจมตีสถานพยาบาลต่าง ๆ ว่า เป็น “การละเมิดกฎหมายด้านมนุษยธรรมระหว่างประเทศ และกฎของการทำสงคราม”
นางเออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (European Commission) เคยระบุว่า การโจมตีด้วยโดรนและขีปนาวุธของรัสเซียต่อโรงไฟฟ้าและโครงสร้างพื้นฐานอื่น ๆ ในยูเครน เป็น “การกระทำของการก่อการร้ายโดยแท้”
เธอกล่าวว่า “การพุ่งเป้าโจมตีโครงสร้างพื้นฐานของพลเรือน” คืออาชญากรรมสงคราม
———————————————————————————————————————————————–
ที่มา : BBC Thai / วันที่เผยแพร่ 27 พ.ย.65
Link : https://www.bbc.com/thai/international-63767411