สถานการณ์ประท้วงในเปรูยังคงดุเดือด แม้รัฐบาลใหม่ให้คำมั่นจัดการเลือกตั้งเร็วขึ้น ขณะที่กองทัพร่วม “อารักขา” โครงสร้างพื้นฐาน และสถานที่สำคัญในประเทศ
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงลิมา ประเทศเปรู เมื่อวันที่ 14 ธ.ค.ว่า กระทรวงกลาโหมของเปรูเผยแพร่แถลงการณ์ ว่า กองทัพกระจายกำลังพลในเครื่องแบบ สนับสนุนภารกิจของตำรวจ ในการ “อารักขา” ระบบโครงสร้างพื้นฐานและสถานที่สำคัญทุกแห่งในประเทศ สืบเนื่องจากสถานการณ์ประท้วง ซึ่งมีแนวโน้มยืดเยื้อและทวีความรุนแรง หลังสภาคองเกรสมีมติเมื่อวันที่ 7 ธ.ค. ถอดถอนนายเปโดร กัสติโย ออกจากตำแหน่งประธานาธิบดี และอัยการตั้งข้อหาต่ออดีตผู้นำ “เป็นกบฏ” และ “สมคบคิด” เพื่อทำลายรัฐธรรมนูญ
Peru's new president said she would submit a bill to Congress to bring general elections forward by two years, after the ouster of her predecessor sparked protests that have left at least three dead https://t.co/7FtWtyzj7n pic.twitter.com/qY5DL12N4D
— Reuters (@Reuters) December 12, 2022
แม้ประธานาธิบดี ดีนา โบลูอาร์เต ผู้คนใหม่ของนำเปรู ยื่นหนังสือต่อสภาคองเกรส หรือสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เสนอกำหนดการจัดการเลือกตั้งทั่วไป ภายในเดือน เม.ย. 2567 ซึ่งจะเป็นการลงคะแนนก่อนกำหนด เนื่องจากกำหนดการเดิม คือปี 2569 และให้คำมั่นเร่งหารือกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง เพื่อวางแผนการที่เกี่ยวข้องให้เป็นรูปธรรมเร็วที่สุด และขอให้ประชาชนอยู่ในความสงบ
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ประท้วงตามเมืองใหญ่หลายแห่งยังคงดำเนินอยู่ และส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตสะสมอย่างน้อย 6 ราย โดยกลุ่มผู้ประท้วงปิดถนนหลักหลายสาย และสนามบินอย่างน้อย 3 แห่งในเมืองกุสโก ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวของเปรู ระงับให้บริการตั้งแต่ต้นสัปดาห์นี้ เพิ่มความวิตกกังวลให้กับหลายฝ่าย ว่า เศรษฐกิจของเปรู ที่เป็นผู้ผลิตทองแดงรายใหญ่อันดับสองของโลก จะยิ่งบอบช้ำมากขึ้นไปอีก
ด้านกัสติโยยืนกราน “ไม่ลาออก” จากตำแหน่งประธานาธิบดี และเรียกร้องกองทัพยุติ “เหตุการณ์นองเลือด” ในเปรู อนึ่ง กัสติโยซึ่งเป็นอดีตครู ชนะการเลือกตั้ง และรับตำแหน่งผู้นำเปรู เมื่อเดือน ก.ค. ปีที่แล้ว และตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เป็นผู้นำรัฐบาลเสียงข้างน้อย ประกาศก่อนถูกถอดถอนเพียงไม่กี่ชั่วโมงว่า เตรียมยุบสภา และมีแผนจัดตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจเพื่อร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ แทนฉบับปัจจุบัน ซึ่งใช้มาตั้งแต่ปี 2536 ในยุคของประธานาธิบดีอัลแบร์โต ฟูจิโมริ.
เครดิตภาพ : REUTERS
————————————————————————————————————————————————————————————-
ที่มา : เดลินิวส์ออนไลน์ / วันที่เผยแพร่ 14 ธ.ค.65
Link : https://www.dailynews.co.th/news/1788535/