กองทัพจีนและอินเดียปะทะกันบริเวณชายแดนพื้นที่พิพาทบนเทือกเขาหิมาลัย ครั้งแรกในรอบกว่า 1 ปี หลังทั้งสองฝ่ายพยายามลดความตึงเครียด จากเหตุการณ์ปะทะครั้งใหญ่ จนคร่าชีวิตทหารไปอย่างน้อย 24 นาย เมื่อปี 2563
กองทัพอินเดียออกมาระบุเมื่อวันจันทร์ (12 ธ.ค.) ว่า ทหารของตนได้ปะทะกับทหารกองทัพจีนในพื้นที่พิพาทตามแนวชายแดนระหว่างสองประเทศ ทำให้มีทหารได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยจำนวนหนึ่ง
การปะทะครั้งล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อวันศุกร์ (9 ธ.ค.) ในพื้นที่เมืองตาวัง รัฐอรุณาจัลประเทศ ซึ่งเป็นพรมแดนทางตะวันออกสุดของอินเดีย
โดยกองทัพอินเดียระบุในแถลงการณ์ว่า ทั้งสองฝ่ายได้ถอนกำลังออกนอกพื้นที่ในทันทีหลังเกิดการปะทะ ในขณะที่ผู้บัญชาการของทั้งสองได้จัดการเจรจาขึ้นอย่างเร่งด่วน เพื่อรื้อฟื้นสันติภาพและความสงบสุขในพื้นที่
อย่างไรก็ตาม จากรายงานของสำนักข่าวรอยเตอร์ส ทางการจีนยังไม่ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มีเพียงแหล่งข่าวจากกองทัพอินเดียที่เปิดเผยว่า มีทหารอินเดียได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยจากการปะทะครั้งนี้อย่างน้อย 6 นาย
เกิดอะไรขึ้นที่พรมแดนจีน-อินเดีย
จีนและอินเดียมีพรมแดนร่วมกันเป็นระยะทางยาว 4,056 กิโลเมตร แต่ในระยะทางดังกล่าวมีอยู่ราว 3,440 กิโลเมตร เป็นจุดที่ไม่สามารถกำหนดเส้นแบ่งเขตแดนได้อย่างชัดเจน เพราะเป็นแนวแม่น้ำ ทะเลสาบ และหิมะบนภูเขา ซึ่งเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา
จุดเขตแดนที่ทั้งสองยังไม่สามารถตกลงกันได้ ถูกเรียกว่า LAC หรือ ‘แนวเส้นแบ่งเขตควบคุมตามความเป็นจริง’ (Line of Actual Control) ซึ่งกำหนดขึ้นหลังจากสงครามจีน-อินเดียในปี 2505 อันมีชนวนเหตุมาจากความขัดแย้งเพื่อแย่งชิงพื้นที่บริเวณเทือกเขาหิมาลัย เนื่องจากทั้งสองต่างมองว่าพื้นที่ดังกล่าวนี้มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์
นับตั้งแต่นั้นมา ความสัมพันธ์ระหว่างจีนและอินเดียก็ตกอยู่ภายใต้สถานการณ์เปราะบางมาโดยตลอด เกิดการปะทะกันขึ้นบ้างเป็นระยะๆ เนื่องจากไม่เคยมีการเจรจากำหนดจุดชัดเจนของเส้น LAC อย่างเป็นทางการ ทำให้ทั้งสองยึดถือขอบเขตของเส้นต่างกัน โดยอินเดียอ้างว่าเส้น LAC มีระยะทางยาว 3,488 กิโลเมตร แต่จีนระบุว่าขอบเขตของเส้น LAC ที่ตนยึดถืออยู่ยาวเพียงประมาณ 2,000 กิโลเมตรเท่านั้น
ความขัดแย้งยืดเยื้อกว่าครึ่งศตวรรษ
สถานการณ์ตึงเครียดครั้งใหญ่ล่าสุดบริเวณชายแดนจีน-อินเดีย เกิดขึ้นเมื่อปี 2563 หลังจากอินเดียเริ่มสร้างถนนเลียบเส้นแบ่งเขตแดน LAC ทำให้จีนไม่พอใจ เพราะมองว่าการสร้างถนนจะทำให้อินเดียเข้าควบคุมพื้นที่ และใช้เป็นเส้นทางขนส่งทางยุทธศาสตร์หากมีความขัดแย้งเกิดขึ้น จึงส่งทหารหลายพันนายพร้อมอาวุธเข้าไปประจำการบริเวณพื้นที่พิพาท จนเกิดการเผชิญหน้ากับทหารอินเดียที่หุบเขากาลวานในภูมิภาคลาดักห์ แคว้นแคชเมียร์
การปะทะดังกล่าว ทำให้ทหารอินเดียเสียชีวิตไป 20 นาย ขณะที่มีรายงานว่าทหารจีนเสียชีวิตไปอย่างน้อย 4 ราย โดยถือเป็นการเผชิญหน้าระหว่างกองทัพจีนและอินเดียรุนแรงสุด และเป็นครั้งแรกในรอบ 45 ปีที่มีการสูญเสียจากความขัดแย้งระหว่างจีนและอินเดีย
ต่อมาในช่วงต้นปี 2564 ทั้งสองฝ่ายมีการปะทะกันอีกครั้งบริเวณพรมแดนรัฐสิกขิมของอินเดีย ส่งผลให้มีกำลังพลได้รับบาดเจ็บจำนวนหนึ่ง ก่อนที่จะมีการเจรจาตกลงกันถอนทหารออกจากพื้นที่ยุทธศาสตร์บริเวณทะเลสาบปันกอง หนึ่งในพื้นที่พิพาทบนเทือกเขาหิมาลัยที่ทั้งสองต่างอ้างกรรมสิทธิ์
ส่วนการถอนกำลังออกจากพื้นที่พิพาทอื่นๆ ยังคงไม่ประสบผลสำเร็จ เนื่องจากต่างฝ่ายต่างกล่าวโทษกันไปมาว่าไม่ให้ความร่วมมือ จึงยังคงมีทหารของทั้งสองประจำการอยู่ตามแนวชายแดน แต่ไม่มีรายงานการปะทะเกิดขึ้นมาเป็นเวลามากกว่า 1 ปีแล้ว
อย่างไรก็ตาม ความตึงเครียดเริ่มส่งสัญญาณปะทุขึ้นอีกครั้ง หลังจากที่ในช่วงต้นเดือน ม.ค. ที่ผ่านมา มีการเปิดเผยภาพถ่ายดาวเทียมปรากฏให้เห็นว่าจีนกำลังก่อสร้างสะพานในพื้นที่ทะเลสาบปันกอง ซึ่งทางอินเดียก็ได้รีบออกแถลงการณ์ว่าจะเฝ้าจับตาการก่อสร้างดังกล่าวอย่างใกล้ชิด พร้อมกับยืนยันว่าจะยังคงจัดทหารประจำการอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวเพื่อรักษาผลประโยชน์ของชาติ
ความขัดแย้งระหว่างจีนและอินเดียตกเป็นเป้าสนใจและถูกจับตาจากประชาคมโลกมาตลอด เนื่องจากทั้งสองประเทศต่างเป็นประเทศมหาอำนาจด้านนิวเคลียร์ ซึ่งหมายถึงประเทศที่มีนิวเคลียร์อยู่ในครอบครองกันทั้งคู่ ทั้งยังเป็นประเทศใหญ่ที่มีประชากรจำนวนมากที่สุดในโลก และมีอิทธิพลทางเศรษฐกิจ แน่นอนว่าหากสถานการณ์ความขัดแย้งบานปลายกลายมาเป็นสงครามย่อมส่งผลกระทบต่อทั่วโลกอย่างเลี่ยงไม่ได้
ที่มา
https://www.bbc.com/news/world-asia-63953400
https://www.bbc.com/news/world-asia-53062484
https://www.voathai.com/a/india-china-hold-talks-on-border-disengagement-/6393918.html
————————————————————————————————————————————————————————————-
ที่มา : WorkPoint Today / วันที่เผยแพร่ 13 ธ.ค.65
Link : https://workpointtoday.com/china-india-border-conflict/