เครื่องเอธิโอเปียนแอร์ไลนส์ไม่ยอมลงจอด เพราะนักบินหลับปุ๋ยทั้งกัปตัน&ผู้ช่วย!! ทุกคนปลอดภัยแล้ว

Loading

  อะไรจะเกิดขึ้นเมื่อนักบินกัปตันและนักบินผู้ช่วยพากันหลับสนิทไปในระดับความสูง 37,000 ฟุต และปล่อยให้อากาศยานเคลื่อนตัวไปเรื่อยๆ ด้วยระบบการบินอัตโนมัติ จนกระทั่งพาผู้โดยสารผ่านสนามบินเป้าหมายกันเลยทีเดียว   สายการบินเอธิโอเปีย แอร์ไลนส์ มีคำตอบให้แล้ว จากประสบการณ์จริงเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา 15 สิงหาคม 2022 กล่าวคือ ระบบเตือนภัยจะดังระรัว ปลุกนักบินให้ตื่นขึ้นมาปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างแน่นอน   บรรดานักบินสาวผู้สุดสวยสง่างามในภาพนี้ มิใช่ผู้ที่ขับขี่เครื่องบินลำดังกล่าว พวกเธอเป็นนักบินหญิงที่ผ่านการคัดเลือกเข้าทำงานกับสายการบินเอธิโอเปีย แอร์ไลนส์   ตามนโยบายของประเทศซึ่งส่งเสริมสนับสนุนศักยภาพสตรี โดยที่พนักงานที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจการบินเป็นทีมงานสตรีทั้งหมดตั้งแต่งานภาคพื้นดินไปถึงงานบนเครื่องบิน นโยบายนี้เริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี 2015 และเว็บไซต์ข่าว Pilot Career News นำเสนอไว้เมื่อวันสตรีสากล 8 มีนาคม 2020 ในภาพนี้เป็นทีมนักบินและลูกเรือหญิงล้วน ของเครื่องโบอิ้ง777 บันทึกภาพและออกเดินทางวันที่ 7 มีนาคม 2020 จากกรุงแอดดิส อาบาบา ประเทศเอธิโอเปีย และเดินทางถึงกรุงวอชิงตันดีซี สหรัฐอเมริกา ในวันที่ 8 มีนาคม 2020   กัปตันพร้อมเพรียงกับนักบินผู้ช่วยหลับปุ๋ยระหว่างขับเคลื่อนโบอิ้ง 737-800 ของเอธิโอเปียน…

จำคุก 34 ปี! นักศึกษา ป.เอก ซาอุ เหตุรีทวีตข้อความต่อต้านรัฐ

Loading

In this frame grab from Saudi state television footage, doctoral student and women’s rights advocate Salma al-Shehab speaks to a journalist at the Riyadh International Book Fair in Riyadh, Saudi Arabia, in March 2014.   ศาลอาญาซาอุดีอาระเบียสั่งจำคุกซัลมา อัล-เชฮับ นักศึกษาปริญญาเอกเป็นเวลา 34 ปี ด้วยข้อหาเผยแพร่ “ข่าวลือ” และรีทวีตข้อความต่อต้านรัฐบาล เมื่อช่วยต้นเดือนที่ผ่านมา ตามรายงานของเอพีที่อ้างอิงจากเอกสารของศาลที่ได้รับเมื่อวันพฤหัสบดี   ทั่วโลกต่างประณามคำตัดสินครั้งนี้ ขณะที่นักเคลื่อนไหวและนักกฎหมายต่างเห็นว่า คำตัดสินจำคุกอัล-เชฮับ ซึ่งเป็นคุณแม่ลูกสอง นักวิจัยประจำมหาวิทยาลัยลีดส์ในอังกฤษ และนักศึกษาระดับปริญญาเอกชั้นปีสุดท้ายในวิทยาลัยแพทย์ของมหาวิทยาลัยเดียวกัน เป็นคำตัดสินที่น่าตกตะลึง แม้เมื่อเทียบกับมาตรฐานโดยปกติของกระบวนการยุติธรรมในซาอุดีอาระเบียก็ตาม  …

รัสเซียเล็งใช้มาตรการลงโทษ 5 บริษัทแอพพ์ต่างชาติ ฐานผิด กม.ออนไลน์

Loading

แฟ้มภาพรอยเตอร์   รัสเซียเล็งใช้มาตรการลงโทษ 5 บริษัทแอพพ์ต่างชาติ ฐานผิด กม.ออนไลน์   หน่วยงานกำกับดูแลการสื่อสารเทคโนโลยีสารสนเทศและสื่อสารมวลชนแห่งชาติรัสเซีย (Roskomnadzor) ได้แถลงเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม ว่ากำลังเตรียมบังคับใช้มาตรการลงโทษต่อ 5 บริษัทเจ้าของแอปพลิเคชันต่างชาติ ได้แก่ ติ๊กต็อก เทเลแกรม ซูม ดิสคอร์ด และพินเทอร์เรส เพื่อเป็นการตอบโต้แอปพลิเคชันเหล่านี้ที่มีข้อมูลขัดกับกฎหมายเนื้อหาออนไลน์ของรัสเซีย   อย่างไรก็ดี Roskomnadzor ยังไม่ได้ระบุอย่างเจาะจงว่าจะใช้มาตรการใดในการลงโทษบริษัทเหล่านี้ แต่ได้มีการแถลงว่าจะมีการแจ้งเตือนผู้ใช้อินเตอร์เน็ตเกี่ยวกับการกระทำผิดกฎหมายรัสเซียของ 5 บริษัทดังกล่าวผ่าน “คำปฏิเสธข้อเรียกร้องบนโปรแกรมค้นหา” (search engine disclaimer) ซึ่งในขณะนี้ยานเด็กซ์ โปรแกรมค้นหายอดนิยมของรัสเซียก็ได้ปฏิบัติตามมาตรการของรัฐประการนี้แล้ว   นอกจากนี้ รัสเซียได้ทำการสั่งปรับกับบริษัทเทคโนโลยีต่างชาติอื่น ๆ โทษฐานที่ไม่ลบทิ้งเนื้อหาที่ผิดกฎหมาย อย่างเช่น เมื่อวันที่ 16 สิงหาคมที่ผ่านมา รัสเซียได้ปรับบริษัทแอมะซอน เจ้าของ “ทวิตช์” แพลตฟอร์มถ่ายทอดสด จำนวน 2 ล้านรูเบิล (ราว 1,186,500 บาท)…

เตือน! อย่าหลงเชื่อข่าวปลอมทำแบบสอบถามแลกเงินหมื่น

Loading

  กระทรวงดีอีเอส วอนประชาชนหยุดหลงเชื่อเฟคนิวส์ตอบแบบสอบถามแลกเงินหมื่น ส่องสถานการณ์ข่าวปลอมรอบสัปดาห์ล่าสุด พบติด 2 อันดับในท็อป 10 ข่าวปลอมที่คนสนใจมากสุด   น.ส.นพวรรณ หัวใจมั่น โฆษกกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ฝ่ายการเมือง (ดีอีเอส) เปิดเผยว่า ดีอีเอสได้ สรุปผลการมอนิเตอร์ และรับแจ้งข่าวปลอมประจำสัปดาห์ ระหว่างวันที่ 12-18 ส.ค. 65 จากการประสานงานของศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีข่าวที่ได้รับผลการตรวจสอบกลับมาแล้ว 67 เรื่อง ในจำนวนนี้พบว่าข่าวปลอมที่ติดกระแสความสนใจของคนส่วนใหญ่ เกาะกลุ่มอยู่ที่เรื่องการเงินถึง 9 เรื่อง จากการจัดอันดับข่าวคนสนใจมากสุด   สำหรับข่าวปลอมที่มีคนสนใจสูงสุด 10 อันดับ ในรอบสัปดาห์ล่าสุดนี้ ได้แก่   อันดับ 1 เรื่อง PTT Company Limited เชิญชวนให้ตอบแบบสอบถามเพื่อได้รับเงินจำนวน 10,000 บาท อันดับ 2 เพจปล่อยเงินกู้ธนาคารกรุงไทย อันดับ 3 ธ.กรุงไทย ธ.ออมสิน…

พบ TikTok ก็ฝังสคริปต์ในเบราว์เซอร์ภายในแอป แถมไม่มีออปชั่นให้ใช้เบราว์เซอร์ภายนอก

Loading

  พบ TikTok ก็ฝังสคริปต์ในเบราว์เซอร์ภายในแอป   หลังจาก Felix Krause รายงานว่าเบราว์เซอร์ภายในแอปของ Meta ฝังสคริปต์ติดตามผู้ใช้ เขาก็รายงานเพิ่มเติมว่าเบราว์เซอร์ใน TikTok ก็ฝังสคริปต์แบบเดียวกัน แถมยังไม่มีตัวเลือกให้ใช้งานเบราว์เซอร์ปกติของระบบปฎิบัติการ   สคริปต์ที่ TikTok ฝังยังดักอีเวนต์ในเบราว์เซอร์อย่างหนัก อีเวนต์ที่สำคัญๆ เช่น keydown ดักการพิมพ์ทุกตัวอักษร และ click ที่ดักการคลิกทุกจุด อย่างไรก็ดี Krause ระบุว่าไม่มีหนักฐานชัดเจนว่า TikTok ฝังสคริปต์เพื่อมุ่งร้ายอะไร รวมถึงสคริปต์เก็บข้อมูลอย่างไร และส่งข้อมูลอะไรกลับเซิร์ฟเวอร์บ้าง   Krause อาศัยการตรวจสอบจากการสร้างเว็บ InAppBrowser.com มาตรวจการแทรกสคริปต์จากตัวเบราว์เซอร์เอง แต่ในความเป็นจริงแล้วนักพัฒนาอาจจะแทรกโค้ดหรืออ่านข้อมูลจากตัวเบราว์เซอร์โดยไม่ต้องฝังสคริปต์เลยก็ได้   ที่มา – krausefx       ————————————————————————————————————————- ที่มา :      Blognone  by lew   …

“ดีอีเอส” ปั้นเครือข่ายช่วยงานศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม

Loading

  ดีอีเอสเปิดเวทีกิจกรรมสร้างการรับรู้ รับมือกับข่าวปลอม ภาคตะวันออก โฟกัสการทำงานร่วมกับภาคประชาสังคม สร้างเครือข่ายคนทำงานช่วยขับเคลื่อนภารกิจศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม   นายทศพล เพ็งส้ม ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่ประจำกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เปิดเผยว่า ดีอีเอส ได้จัดกิจกรรมสร้างการรับรู้ เพื่อรู้เท่าทันและรับมือกับข่าวปลอม ภาคตะวันออก ซึ่งกิจกรรมนี้ ได้มีการจัดต่อเนื่องทุกปี ครอบคลุม 4 ภูมิภาคในประเทศไทย เพื่อสร้างความร่วมมือกับเครือข่ายทั้งภาคประชาสังคม และทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ในการทำงานขับเคลื่อนการตรวจสอบเฝ้าระวังการเผยแพร่ข้อมูลเนื้อหา และข่าวสารบิดเบือนที่เผยแพร่อยู่บนอินเทอร์เน็ต   “จากบริบทในปัจจุบัน ที่มีการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตและโซเชียลอย่างกว้างขวาง ทำให้บางกลุ่มนำไปเป็นช่องทางบิดเบือนและเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นข่าวปลอม หรือทำกิจกรรมที่ส่งผลกระทบสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน การทำงานร่วมกับเครือข่ายจึงมีความสำคัญ เพราะจะช่วยเป็นหูเป็นตา และหากหากพบว่ามีเนื้อหาที่ผิดกฎหมาย เช่น พนันออนไลน์ ลามกอนาจาร หมิ่นสถาบัน ละเมิดลิขสิทธิ์ และเข้าข่ายผิดกฎหมายอาหารและยา กระทรวงดีอีเอสจะดำเนินการตามกระบวนการทางกฎหมายเป็นผู้ยื่นเรื่องขอให้ศาลมีคำสั่งให้ปิดกั้นหรือลบข้อมูล”   สำหรับประชาชน หากพบเบาะแสหรือปัญหาเกี่ยวกับการหลอกลวงออนไลน์ และภัยจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ สามารถแจ้งมาที่ศูนย์รับเรื่องร้องเรียนปัญหาออนไลน์ 1212 หรือสายด่วน 1441 ของตำรวจไซเบอร์ และสามารถแจ้งความออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ศูนย์รับแจ้งความออนไลน์ในคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยี www.thaipoliceonline.com   สำหรับกิจกรรมสร้างการรับรู้ฯ ในปีนี้…