ระบบการให้บริการผู้ป่วยทั่วทั้งสหราชอาณาจักรถูกโจมตีทางไซเบอร์จนให้บริการไม่ได้ชั่วคราว

Loading

  การโจมตีทางไซเบอร์ต่อผู้ให้บริการระบบจัดการผู้ป่วยจนขัดข้องทำให้บริการฉุกเฉิน 111 รายทั่วทั้งระบบบริการสุขภาพแห่งชาติ (NHS) ของสหราชอาณาจักรไม่สามารถให้บริการได้ชั่วคราว NHS และผู้ให้บริการรถฉุกเฉินบางส่วนได้ออกมายืนยันว่า การโจมตีเกิดขึ้นจริง อย่างผู้ให้บริการฉุกเฉินเวลส์ ได้ระบุว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเหตุการณ์ที่เกิดจาก “ความขัดข้องของระบบคอมพิวเตอร์ที่ใช้ในการส่งผู้ป่วยไปยังแพทย์นอกเวลา” ระบบที่ว่านี้เป็นระบบที่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขท้องถิ่นใช้ในการประสานงานเพื่อขนส่งผู้ป่วย ความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อระบบนี้กระทบต่อระบบสาธารณสุขทั้งประเทศ รวมถึงในเวลส์ ไอร์แลนด์เหนือ และสกอตแลนด์ NHS ได้ดำเนินแผนบริหารแผนบริหารความต่อเนื่องเพื่อให้ระบบการให้บริการผู้ป่วยสามารถดำเนินต่อไปได้ โดยย้ำให้ผู้ป่วยวางใจและเชื่อมั่นต่อ NHS ต่อไป ที่มา scmagazine พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส     ที่มา : beartai    /   วันที่เผยแพร่ 10 ส.ค.65 Link : https://www.beartai.com/news/itnews/1131521

พบอดีตลูกจ้างทวิตเตอร์เป็นสายลับให้ซาอุดิอาระเบีย

Loading

สืบสวนพบอดีตลูกจ้างของทวิตเตอร์เป็นสายลับให้คนใกล้ชิดของมกุฏราชกุมารแห่งซาอุดิอาระเบีย Olivier DOULIERY / AFP   อาห์หมัด อาบูอัมโม อดีตลูกจ้างของทวิตเตอร์ถูกพบว่ามีความผิดอาญารวมทั้งฟอกเงิน ฉ้อโกง และ เป็นสายลับให้กับรัฐบาลต่างชาติ   พนักงานสอบสวนศาลซานฟรานซิสโกแจ้งต่อคณะลูกขุนว่า อาบูอัมโมได้ขายข้อมูลผู้ใช้ทวิตเตอร์แลกเงินสด 100,000 เหรียญสหรัฐฯ และ นาฬิกาหรูมูลค่ามากกว่า 40,000 เหรียญสหรัฐฯ จากคนใกล้ชิดของมกุฎราชกุมารแห่งซาอุดิอาระเบีย เมื่อ 7 ปีก่อน และ ลาออกจากทวิตเตอร์ไปเป็นลูกจ้างของบริษัทอะเมซอน ก่อนถูกดำเนินคดีเมื่อปี 2019   ทนายอาบูอัมโมโต้แย้งข้อกล่าวหา และ ยอมรับเพียงได้รับของขวัญต่าง ๆ จากซาอุอาระเบียจริงแต่ในฐานะของการบริการลูกค้า ทั้งยังเป็นเพียงทฤษฎีสมคบคิดที่ว่ามีการเปิดเผยข้อมูลในทวิตเตอร์เกี่ยวกับการวิจารณ์ซาอุดิอาระเบีย ซึ่งเจ้าหน้าที่สืบสวนไม่สามารถพิสูจน์ข้อเท็จจริงในส่วนนี้ได้ อาบูอัมโมได้รับการปล่อยตัวระหว่างการดำเนินคดี ซึ่งเจ้าหน้าที่สืบสวนเเกรงว่า อาบูอัมโมจะหลบหนีออกนอกประเทศ     ————————————————————————————————————————————– ที่มา :     สนข. AFP               …

ทรัมป์เผชิญคดีอะไรบ้างก่อนถูกหมายค้นเอฟบีไอ?

Loading

  เมื่อวันจันทร์ อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ระบุว่า เจ้าหน้าที่ของสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐฯ หรือ เอฟบีไอ เข้าค้นรีสอร์ทมาร์อะลาโกในเมืองปาล์มบีช รัฐฟลอริดา ซึ่งเป็นอสังหาริมทรัพย์ของเขา ในขณะที่เจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายไม่ได้มีความเห็นโดยทันทีต่อคำกล่าวอ้างของทรัมป์ และยังไม่ชัดเจนว่า เป้าหมายของการสืบสวนครั้งนี้คืออะไร รอยเตอร์สรุปคดีและการไต่สวนที่อดีตผู้นำสหรัฐฯ กำลังเผชิญก่อนเหตุค้นบ้านในครั้งนี้ พบเอกสารรัฐบาลซุกในบ้านทรัมป์ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ “หอจดหมายเหตุแห่งชาต”” ของสหรัฐฯ แจ้งแก่รัฐสภาอเมริกันว่า พบเอกสารทำเนียบขาวจำนวนราว 15 กล่อง ที่บ้านของทรัมป์ในรัฐฟลอริดา โดยเอกสารบางส่วนมีข้อมูลลับ คณะกรรมการตรวจสอบดูแลของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ในขณะนั้น ระบุว่า ได้ขยายการสืบสวนการกระทำของทรัมป์ และขอให้หอจดหมายเหตุมอบข้อมูลเพิ่มเติมให้คณะกรรมการ โดยก่อนหน้านั้น ทรัมป์ยืนยันว่าได้ตกลงคืนบันทึกส่วนหนึ่งให้ทางหอจดหมายเหตุแล้ว โดยระบุว่า ขั้นตอนดังกล่าวเป็นเรื่อง “ปกติธรรมดา” เหตุโจมตีอาคารรัฐสภาสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 6 ม.ค. 2021 คณะกรรมการสืบสวนเหตุโจมตีอาคารรัฐสภาสหรัฐฯ โดยกลุ่มผู้สนับสนุนทรัมป์ กำลังเก็บข้อมูลการผิดกฎหมายที่อาจเกิดขึ้น จากความพยายามพลิกผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อปี 2020 ลิซ เชนีย์ รองประธานคณะกรรมการ ระบุว่า ทางคณะกรรมการสามารถทำเรื่องไปยังกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ เพื่อตั้งข้อหาตามคดีอาญาต่อทรัมป์ได้ ในขณะที่ทรัมป์กล่าวหาว่า คณะกรรมการดังกล่าวทำการสืบสวนแบบ “ลวงโลก”…

เหตุใดเอกสารของ ปธน.เป็นของรัฐกลางอเมริกัน – ไม่ใช่ของส่วนตัว

Loading

  สืบเนื่องจากข่าวใหญ่เมื่อเย็นวันจันทร์ตามเวลาสหรัฐฯ ที่เจ้าหน้าที่หน่วยงานสืบสวนกลางสหรัฐฯ หรือเอฟบีไอ ใช้หมายค้นเข้าไปหาหลักฐานในบ้านของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แต่ยังไม่เป็นที่ทราบเเน่ว่าอะไรคือเหตุผลอย่างเฉพาะเจาะจงที่ทำให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ผู้สื่อข่าววีโอเอ ดอรา เมคัวร์ รายงานว่า สิ่งที่ทราบตอนนี้คือ กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ กำลังสืบสวนกล่องเอกสารที่มีข้อมูลลับ ซึ่งพบว่าถูกเก็บไว้ที่บ้านของทรัมป์ ในรัฐฟลอริดา เมื่อเดือนกุมภาพันธ์สำนักข่าวเอพีรายงานว่า พบเอกสารที่มีข้อมูลลับของทำเนียบขาวบรรจุอยู่ในกล่อง 15 ใบ ที่ถูกนำไปเก็บที่ มาร์-อะ-ลาโก ซึ่งเป็นบ้านของทรัมป์ในฟลอริดา ตามการอ้างของหน่วยงานหอจดหมายเหตุแห่งชาติ สหรัฐฯ หรือ National Archives and Records Administration ในตอนนั้นไม่เป็นที่ทราบเเน่ชัดว่ากระทรวงยุติธรรมและเอฟบีไอจะสืบสวนเหตุดังกล่าวต่อหรือไม่ คำถามที่ตามมาในตอนนี้คือ เหตุใดเอกสารของประธานาธิบดีที่เกี่ยวกับการทำงานในตำแหน่ง เช่น บันทึกการโทรศัพท์เข้า-ออก และจดหมายที่เขียนด้วยลายมือ จึงไม่ใช่ของส่วนตัวของประธานาธิบดี แต่เป็นของรัฐบาลกลาง ภายใต้การดูเเลของหน่วยงานหอจดหมายเหตุแห่งชาติ เมแกน โรอัน กูธอน รักษาการรองหัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการของหอจดหมายเหตุแห่งชาติสหรัฐฯ กล่าวว่า ข้อมูลเกี่ยวกับประธานาธิบดีสหรัฐฯ เป็นสมบัติของรัฐบาลอเมริกัน   FILE PHOTO: Former U.S. President Donald Trump…

รัสเซียระงับให้สหรัฐเข้า ‘พื้นที่ยุทธศาสตร์’ ตามข้อตกลงนิวเคลียร์

Loading

  รัฐบาลมอสโกระงับการให้สหรัฐฯ ตรวจสอบ “สถานที่ยุทธศาสตร์” ตามเงื่อนไขของข้อตกลงนิวเคลียร์ระดับทวิภาคี โดยให้เหตุผลเกี่ยวกับมาตรการคว่ำบาตรของอีกฝ่าย สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย เมื่อวันที่ 9 ส.ค.ว่า กระทรวงการต่างประเทศรัสเซียออกแถลงการณ์ ว่านับจากนี้เป็นต้นไป “สถานที่ทุกแห่ง” ซึ่งอยู่ภายใต้เงื่อนของการสังเกตการณ์ และการตรวจสอบ ตามสนธิสัญญาสันติภาพระดับทวิภาคีกับสหรัฐฯ ว่าด้วยการลดจำนวนอาวุธนิวเคลียร์ ที่เรียกกันว่า “นิว สตาร์ต” นั้น “จะไม่สามารถเข้าถึงได้ชั่วคราว” ทั้งนี้ รัฐบาลมอสโกให้เหตุผลว่า เกี่ยวข้องกับการที่รัฐบาลวอชิงตัน “ต้องการสร้างผลประโยชน์ฝ่ายเดียว” และ “กีดกันสิทธิของรัสเซีย” ในการสังเกตการณ์แบบเดียวกัน บนแผ่นดินของสหรัฐฯ เนื่องจากมาตรการคว่ำบาตร ที่รวมถึงการปิดน่านฟ้าจากเครื่องบินพาณิชย์ของรัสเซีย และการกำหนดเงื่อนไขการออกวีซ่าให้แก่เจ้าหน้าที่ของรัฐบาลมอสโก นอกจากนี้ เนื้อหาในแถลงการณ์ยังระบุเกี่ยวกับ การที่สถานการณ์การแพร่ระบาดระลอกใหม่ของโรคโควิด-19 ในสหรัฐฯ ด้วย   Russia suspends START arms inspections over U.S. travel curbs https://t.co/atNK6z8OL2 pic.twitter.com/2m41UX1Q8H — Reuters (@Reuters) August…

จับตา! รัสเซียส่งดาวเทียมอิหร่านขึ้นสู่อวกาศ ตะวันตกกังวลใช้เล็งเป้าหมายทางทหารในยูเครน

Loading

  รัสเซียส่งดาวเทียมดวงหนึ่งของอิหร่าน ทะยานขึ้นจากคาซัคสถานในวันอังคาร (9 ส.ค.) และพุ่งสู่วงโคจร ท่ามกลางประเด็นถกเถียงว่ามอสโกอาจใช้ดาวเทียมดวงนี้สอดแนมเป้าหมายทางทหารต่างๆ ในยูเครน หลังจากถูกนานาชาติโดดเดี่ยวมากขึ้นเรื่อยๆ ตามหลังตะวันตกกำหนดมาตรการคว่ำบาตรตอบโต้กรณีรุกรานยูเครน ทางรัสเซียกำลังหาทางปักหมุดเข้าหาตะวันออกกลาง เอเชียและแอฟริกา รวมถึงเสาะหาลูกค้าใหม่ในโครงการอวกาศของพวกเขา ยูริ โบริซอฟ หัวหน้าขององค์การอวกาศสหพันธรัฐรัสเซีย (Roscosmos) กล่าวที่ศูนย์ปล่อยอวกาศยานไบโคนูร์ คอสโมโดรม ในทุ่งหญ้าสเตปป์ ประเทศคาซัคสถาน ซึ่งบริหารงานโดยมอสโก ยกย่องมันในฐานะ “หลักชัยแห่งประวัติศาสตร์ในความร่วมมือทวิภาคีระหว่างรัสเซียกับอิหร่าน เปิดทางสู่การเกิดโครงการใหม่ๆ หรือแม้กระทั่งโครงการที่ใหญ่กว่านี้” อิสซา ซาเรปูร์ รัฐมนตรีคมนาคมของอิหร่าน ซึ่งร่วมเป็นสักขีพยานการปล่อยดาวเทียม Khayyam เรียกมันว่า เป็นเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ และจุดเปลี่ยนสำหรับการเริ่มต้นการปฏิสัมพันธ์ใหม่ๆ ในขอบเขตทางอวกาศระหว่าง 2 ประเทศ ส่วน นาสเซอร์ คานานิ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของอิหร่าน เขียนบนทวิตเตอร์ว่า “มันคือเส้นทางอันน่าอัศจรรย์แห่งความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของสาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน แม้เผชิญมาตรการคว่ำบาตรและแรงกดดันขั้นสูงสุดของศัตรู” อิหร่าน ซึ่งคงความสัมพันธ์กับมอสโก และละเว้นวิพากษ์วิจารณ์รัสเซียต่อกรณีรุกรานยูเครน พยายามกลบความสงสัยต่างๆ หลังจากมีหลายฝ่ายกังวลว่ามอสโกอาจใช้ Khayyam สอดแนมยูเครน วอชิงตัน พูดถึงการปล่อยจรวดครั้งนี้ว่า ความร่วมมือที่เพิ่มมากขึ้นระหว่างรัสเซียกับอิหร่าน สามารถถูกมองในฐานะเป็นภัยคุกคาม…