นิวยอร์กแนะวิธีปฏิบัติหากโดนนิวเคลียร์โจมตี เทศมนตรีชี้กันไว้ดีกว่าแก้

Loading

  ทางการนครนิวยอร์กแพร่คลิปแนะวิธีปฏิบัติหากโดนโจมตีด้วยนิวเคลียร์ ด้านนายกเทศมนตรียืนยันไม่ได้ตื่นตูม แต่กันไว้ดีกว่าแก้   สำนักข่าว ฟ็อกซ์นิวส์ รายงานว่า เมื่อวันอังคารที่ 12 ก.ค. 2565 นายเอริค อดัม นายกเทศมนตรีนครนิวยอร์ก ของสหรัฐฯ ออกมาปกป้องการเผยคลิปวิดีโอประกาศสาธารณะ แนะนำวิธีปฏิบัติหากโดนโจมตีด้วยอาวุธนิวเคลียร์ ของสำนักงานจัดการสถานการณ์ฉุกเฉิน (OEM) เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยยืนยันว่าไม่ได้เป็นการตื่นตูม   “ไม่ ผมไม่คิดว่ามันเป็นการตื่นตูม ผมเป็นคนที่เชื่ออย่างมากในเรื่องการป้องกันไว้ดีกว่าการแก้” นายอดัมกล่าวในงานแถลงข่าวเมื่อวันอังคาร “ผมต้องขอชื่นชม OEM เรื่องนี้เกิดขึ้นหลังจากการโจมตีในยูเครน และ OEM ก็ใช้มาตรการเชิงรุกมากๆ เพื่อบอกให้ประชาชนเตรียมความพร้อม ไม่ใช่แค่ในเรื่องการโจมตีด้วยนิวเคลียร์เท่านั้น”   “ไม่ว่าจะในภัยพิบัติธรรมชาติใดๆ การเก็บกระเป๋า รู้ว่ายาของคุณอยู่ที่ไหน เรื่องเหล่านี้เป็นสิ่งฉลาดที่ควรทำ พวกเราหลายๆ คน คิดถึงเรื่องโควิดและสิ่งอื่นๆ ที่อยู่เบื้องหน้า แต่เรายังเป็นหนึ่งในประเทศที่มีความเสี่ยงจากการก่อการร้ายในระดับสูงด้วย” นายกเทศมนตรีนครนิวยอร์กกล่าว   นายอดัมย้ำด้วยว่า เท่าที่พวกเขารู้ตอนนี้ ยังไม่มีความเสี่ยงอย่างทันทีทันใดต่อนครนิวยอร์ก “แต่เราต้องเตรียมความพร้อมเสมอในฐานะชาวนิวยอร์ก และผมคิดว่า OEM ทำสิ่งที่ถูกต้องแล้ว เราจะปฏิบัติเชิงรุกเสมอ…

เปิดตัว บอดี้การ์ด “ชินโซ อาเบะ” สวย เก่ง สังหาร คนด้วยปืนภายใน 0.2 วินาที

Loading

  เปิดตัว 1 ในทีม บอดี้การ์ด “ชินโซ อาเบะ” อดีตนายกฯ ญี่ปุ่น สวย เก่ง เห็นประวัติแล้วต้องอึ้ง สังหาร คนด้วยปืนภายใน 0.2 วินาที   หลังจากเหตุลอบสังหาร อดีตนายกรัฐมนตรี “ชินโซ อาเบะ” ของญี่ปุ่น หลายเหตุผลมองมาที่ทีมรักษาความปลอดภัย บอดี้การ์ด ที่อยู่ในบริเวณนั้น ซึ่งปะปนในกลุ่มผู้ร่วมฟังปราศรัยถึง 22 คน แต่กลับบกพร่อง ปล่อยให้มือยิง เข้าถึงตัว อาเบะ และลั่นไกปืนได้ถึง 2 ครั้ง ภาพจากจุดเกิดเหตุ ถูกแชร์ไปบนโลกโซเชียล เมื่อปรากฎภาพของ หญิงสาว รายหนึ่ง ที่อยู่ข้างกาย “ชินโซ อาเบะ” ซึ่งดูเหมือนเคยเป็น 1 ในตำรวจรักษาความปลอดภัย Security Police หรือ sp ของญี่ปุ่น   World Forum ข่าวสารต่างประเทศ…

พบระเบิด-ยุทโธปกรณ์ล็อตใหญ่ที่รามัน

Loading

  เจ้าหน้าที่ขยายผลจาก 1 ใน 8 สมาชิกพูโลที่มอบตัวจากเหตุปะทะที่ อ.รามัน จ.ยะลา 8 ก.ค. ยึดวัตถุระเบิด พร้อมอุปกรณ์ประกอบระเบิดหลายรายการ คาสวนยางพาราในพื้นที่ ฮือฮาเจอท่อเหล็กส่งจรวด คาดเตรียมทำ “จรวดแสวงเครื่อง” ซ้ำรอยปี 59   ความคืบหน้าหลังจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงเปิดปฏิบัติการปิดล้อม ตรวจค้น ยิงปะทะกับกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ อ.รามัน จ.ยะลา จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย และยอมมอบตัวกับเจ้าหน้าที่จำนวน 8 ราย เมื่อวันที่ 8 ก.ค.65 ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ส่งตัวผู้ก่อเหตุรุนแรงทั้ง 8 ราย เข้ากระบวนการซักถาม เพื่อขยายผลนั้น   ล่าสุดเมื่อเวลา 12.00 น. วันพุธที่ 12 ก.ค.65 เจ้าหน้าที่ศูนย์ซักถาม หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 41 ได้ข้อมูลจากการซักถามขยายผล นายมือลี ฮะมะ อายุ 37 ปี ภูมิลำเนาอยู่ที่บ้านปูลาสะนอ…

เนียนจัด! โจรอังกฤษปลอมเป็น ‘การ์ด’ เข้าไปขนเงิน 6.4 ล้าน พนง.แบงก์ยื่นให้ซื่อๆ ไม่รู้ตัวว่า ‘ถูกปล้น’

Loading

  ชายมิจฉาชีพปลอมเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยของบริษัทเอกชน เดินเข้าไปขนเงินกว่า 6.4 ล้านบาท ออกจากธนาคารแห่งหนึ่งในอังกฤษอย่างหน้าตาเฉย โดยที่พนักงานธนาคารก็ไม่รู้ตัวว่ากำลังถูกปล้น   เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 5 ก.ค. โดยคนร้ายซึ่งสวมเครื่องแบบ หมวก และแว่นตาคล้ายกับพนักงานรักษาความปลอดภัยของบริษัท G4S ได้เดินเข้าไปที่ธนาคาร Santander สาขาบริกซ์ตัน (Brixton) ทางตอนใต้ของกรุงลอนดอน พร้อมกับโชว์บัตรประจำตัวปลอม ก่อนจะขนกล่องบรรจุเงินสด 25,000 ปอนด์ จำนวน 6 กล่องออกไปอย่างใจเย็น   พนักงานธนาคารมาเริ่มเอะใจตอนที่โจรรายนี้ขับรถออกไปเฉยๆ โดยไม่กลับเข้ามาเซ็นชื่อตามระเบียบ และเมื่อโทร.ไปเช็กกับทาง G4S ก็ได้คำตอบที่ทำเอาลมแทบจับ เพราะบริษัทยืนยันว่าไม่ได้ส่งรถขนเงินไปที่ธนาคารแต่อย่างใด   หนังสือพิมพ์เดอะซันของอังกฤษรายงานว่า การปล้นครั้งนี้มีข้อผิดสังเกตหลายอย่าง ตั้งแต่การที่โจรไม่ได้สวมเครื่องแบบ G4S อย่างถูกต้อง แถมยังยกกล่องใส่เงินสดออกไปทีละ 2 กล่อง ซึ่งผิดกฎของบริษัทที่กำหนดให้พนักงานรักษาความปลอดภัยต้องขนเงินออกไปทีละกล่องเท่านั้น ทำให้น่าสงสัยว่าพนักงานธนาคารหลงเชื่อเข้าไปได้อย่างไร   อย่างไรก็ดี ภารกิจปล้นครั้งนี้อาจไม่ใช่เรื่องหมูๆ เสียทีเดียวสำหรับโจร เพราะทางธนาคารได้ใส่ ‘dye pack’ หรือระเบิดสีเอาไว้ในกล่องบรรจุเงินทั้ง 6 กล่องด้วย…

วิธีย้าย LINE กรณี “ย้ายไลน์ไปเครื่องใหม่พร้อมเบอร์ใหม่” ที่ปลอดภัยมากขึ้น กันคนอื่นแอบย้าย!

Loading

  LINE เพิ่มขั้นตอนการโอนย้ายบัญชี กรณีเปลี่ยน “เครื่องใหม่พร้อมเบอร์ใหม่” โดยผู้ใช้จะต้องใช้ “เครื่องเก่า” ในการช่วยโอนย้ายบัญชีให้เสร็จสมบูรณ์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาความปลอดภัยของบัญชี โดยจะเริ่มใช้ประมาณวันที่ 19 กรกฎาคม 2565 เป็นต้นไป   ลิงก์วิดีโอ สาธิตการโอนย้ายบัญชี เมื่อเปลี่ยน “เครื่องใหม่พร้อมเบอร์ใหม่”       โดยมีขั้นตอนดังต่อไปนี้ อย่าลืม! ผู้ใช้จะต้องสำรองข้อมูลก่อนโอนย้าย และ เก็บเครื่องเก่า ไว้ก่อน   1. เปิดแอป LINE บนเครื่องใหม่   2. เลือกล็อกอินด้วยเบอร์โทรศัพท์     ในขั้นตอนนี้ หากเลือกล็อกอินด้วย Facebook หรือ Apple ให้ทำการล็อกอินบนช่องทางดังกล่าวให้สำเร็จ แล้วดำเนินการต่อในขั้นตอนที่ 9   3. ใส่หมายเลขโทรศัพท์ใหม่   4. ใส่รหัสยืนยัน   5. เลือกโอนย้ายบัญชีที่มีอยู่แล้ว…

เมียนมา ติดกล้องวงจรปิดตรวจจับใบหน้า สอดส่อง ปชช.ทั่วประเทศ

Loading

  สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม อ้างแหล่งข่าวใกล้ชิด 3 ราย ระบุว่า รัฐบาลเมียนมา กำลังเดินหน้าโครงการติดตั้งกล้องวงจรปิดที่สามารถตรวจจับใบหน้าคนได้ในหลายเมืองทั่วประเทศ   แหล่งข่าวใกล้ชิดการยื่นประมูลเพื่อจัดซื้อและติดตั้งกล้องวงจรปิดรักษาความปลอดภัยที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีตรวจจับใบหน้าของรัฐบาลเมียนมาระบุว่า โครงการดังกล่าวอยู่ภายใต้โครงการเมืองปลอดภัยที่มีเป้าหมายเพื่อรักษาความปลอดภัย และในบางกรณีก็ใช้ในการคงไว้ซึ่งความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง   รายงานระบุว่า โครงการดังกล่าวเป็นการติดตั้งกล้องเพิ่มเติมจากโครงการของรัฐบาลชุดเดิมที่มีการติดตั้งและวางแผนติดตั้งใน 5 เมืองไปแล้วก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ยังเปิดเผยด้วยว่ารัฐบาลทหารเมียนมาวางแผนที่จะติดตั้งระบบกล้องวงจรปิดดังกล่าวใน 7 รัฐ และ 7 เขตปกครองทั่วประเทศ   รายงานระบุว่า บริษัทผู้ชนะการประมูลมีอยู่หลายบริษัทที่เป็นบริษัทท้องถิ่น ในจำนวนนั้นเป็นบริษัทที่ใช้เทคโนโลยีจาก “เจ้อเจียง ต้าหัว เทคโนโลยี” และ “หัวเว่ย เทคโนโลยี่” บริษัทด้านรักษาความปลอดภัยยักษ์ใหญ่ของจีน   ทั้งนี้ เทคโนโลยีกล้องวงจรปิดที่มีระบบตรวจจับใบหน้านั้น แม้จะเริ่มมีใช้ในหลายประเทศ แต่โครงการในเมียนมานั้นก็ส่งผลให้เกิดความกังวลเช่นกันว่าเทคโนโลยีจะถูกนำไปใช้ในการกวาดล้างนักเคลื่อนไหวและกลุ่มต่อต้านที่ฝั่งรัฐบาลทหารกล่าวหาว่าเป็นกลุ่มก่อการร้าย หลังเกิดการประท้วงต่อต้านรัฐประหารเป็นต้นมา       ————————————————————————————————————————- ที่มา :     มติชนออนไลน์           …