ตร.สหรัฐฯ รวบมือยิงขบวนพาเหรด ‘วันชาติ’ ใกล้ชิคาโก ดับ 6 ศพ-เจ็บไม่ต่ำกว่า 36 คน (ชมคลิป)

Loading

ตำรวจสหรัฐฯ จับกุมชายต้องสงสัยใช้ปืนไรเฟิลอานุภาพสูงกราดยิงจากดาดฟ้าอาคารเข้าใส่ขบวนพาเหรดวันชาติที่เมืองไฮแลนด์พาร์ค (Highland Park) ใกล้นครชิคาโก ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตไป 6 คน บาดเจ็บอีกไม่ต่ำกว่า 36 คนเมื่อวานนี้ (4 ก.ค.) ตำรวจสหรัฐฯ เปิดแถลงข่าวการจับกุม โรเบิร์ต อี. คริโมที่ 3 (Robert E. Crimo III) วัย 22 ปี ซึ่งอาศัยอยู่ในชุมชนที่เกิดเหตุ ขณะที่สื่อเผยภาพขณะที่ตำรวจเข้าปิดล้อมรถยนต์ของเขา และหนุ่มต้องสงสัยลงจากรถในสภาพชูมือขึ้นเหนือศีรษะ นอนราบลงกับพื้น ก่อนจะถูกตำรวจควบคุมตัวได้ ตำรวจไฮแลนด์พาร์คยืนยันว่า จะมีการแจ้งข้อหากับชายคนดังกล่าวเร็วๆ นี้ และเบื้องต้นยังไม่ทราบว่าคนร้ายก่อเหตุไปเพื่ออะไร     เสียงปืนที่ดังขึ้นทำให้พ่อแม่หลายคู่ถึงกับต้องยอมทิ้งรถเข็นเด็กและอุ้มลูกวิ่งหนีตาย และยังทำให้ขบวนพาเหรดที่แสดงออกถึงความรักชาติบ้านเมืองต้องกลายเป็นเหตุโกลาหลที่น่าเศร้า จิม แอนโทนี โฆษกประจำศูนย์พยาบาล NorthShore University HealthSystem ยืนยันว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุกราดยิงนี้อย่างน้อย 36 คน ขณะที่แพทย์ประจำห้องฉุกเฉินคนหนึ่งเผยว่า ผู้บาดเจ็บ 26 คนที่ถูกนำส่งโรงพยาบาลไฮแลนด์พาร์คมีอายุตั้งแต่ 8 จนถึง 85…

ส่องอนาคตดิจิทัลไทยอีก 10 ปี กำหนดทิศทางขับเคลื่อน ศก.ไทย

Loading

เทคโนโลยีดิจิทัลได้เข้ามาเปลี่ยนวีถีชีวิตและพฤติกรรมของคนในหลายด้าน และมีบทบาทช่วยขับเคลื่อน เศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลอย่างมาก ทำให้หลายๆประเทศ ต้องมองภาพอนาคต หรือ ฟอร์ไซท์ (Foresight) เพื่อเป็นข้อมูลกำหนดทิศทางในการพัฒนาประเทศ อย่างเช่นประเทศฟินแลนด์ ที่เป็นผู้นำในการทำ Foresight ได้นำกระบวนการมาช่วยในการวางนโยบายการ ดำเนินงานของภาครัฐและเอกชน เพื่อเตรียมรับมือกับกความไม่แน่นอนที่อาจเกิดขึ้น และให้รู้เท่าทันและสอดคล้องกับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้น!! สำหรับประเทศไทยทาง สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.) หรือ เอ็ตด้า ก็ได้จัดตั้ง ฟอร์ไซท์ เซ็นเตอร์ บาย เอ็ตด้า (Foresight Center by ETDA)  ขึ้นเพื่อป็นหน่วยงานที่ช่วยศึกษาการจัดทำภาพฉายอนาคต หรือ (Foresight Research) เกี่ยวกับการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ขึ้น โดยความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ เช่น สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ สำนักงานสภาพัฒนา การเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) และผู้ให้บริการ โทรคมนาคม ภาคการเงินต่างๆ โดยทำการศึกษาภาพอนาคตในยุคดิจิทัล เพื่อให้ประเทศเตรียมพร้อมรับมือการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีดิจิทัล ได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น!! ดร.ศักดิ์ เสกขุนทด ที่ปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒิ เอ็ตด้า บอกว่า ด้วยเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทั้งเรื่องปัญญาประดิษฐ์ หรือเอไอ และเมตาเวิร์ส ที่จะเข้ามามีบทบาทมากขึ้น จึงมีคำถามว่า ต้องมีการออกกฎหมาย และวางแนวทางกำกับหรือไม่? ภาพอนาคตต่อจากนี้ 10 ปี จะก่อให้เกิดผลดี…

เดนมาร์กช็อก! เกิดเหตุกราดยิงกลางห้างในเมืองหลวง ตายหลายคน-อาจเป็นก่อการร้าย

Loading

มีผู้เสียชีวิตหลายรายในเหตุกราดยิงที่ศูนย์การค้าแห่งหนึ่งในกรุงโคเปนเฮเกนเมื่อวันอาทิตย์ (3 ก.ค.) จากการเปิดเผยของตำรวจ พร้อมระบุได้ทำการจับกุมผู้ต้องสงสัยชาวเดนมาร์กวัย 22 ปี และไม่ตัดความเป็นไปได้ที่เหตุความรุนแรงครั้งนี้จะเป็น “ก่อการร้าย” สารวัตรใหญ่ โวเรน โทมัสเซน เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า “มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายคน และเท่าที่เรารู้ในตอนนี้คือ มีผู้เสียชีวิตหลายคนเช่นกัน” พร้อมระบุว่าตำรวจได้ปฏิบัติการตรวจค้นตามล่าครั้งใหญ่ทั่วภูมิภาคซีแลนด์     ตำรวจโคเปนเฮเกน ระบุว่า เจ้าหน้าที่ติดอาวุธถูกส่งไปยังห้างสรรรพสินค้าฟิลด์ส ในเมืองหลวงของเดนมาร์ก ในช่วงบ่ายวันอาทิตย์ (3 ก.ค.) หลังได้รับแจ้งเกี่ยวกับเหตุยิงกัน และแจ้งให้ประชาชนภายในห้างอยู่นิ่งๆ รอคอยความช่วยเหลือ อย่างไรก็ตาม คลิปวิดีโอที่เผยแพร่โดยสื่อมวลชนท้องถิ่น พบเห็นผู้คนกำลังแตกตื่นวิ่งหนีตายออกจากห้างแห่งนี้ ไม่มีสิ่งบ่งชี้ว่ามีมือปืนคนอื่นๆอีก จากการเปิดเผยของตำรวจ ส่วนโทมัสเซน ปฏิเสธให้ข้อสันนิษฐานใดๆ เกี่ยวกับแรงจูงใจของคนร้ายหรือให้ข้อมูลว่ามือปืนเคยเป็นที่ติดตามจับตาของตำรวจหรือไม่ โฆษกของ Rigshospitalet โรงพยาบาลหลักในเมืองหลวง ระบุว่า ทางโรงพยาบาลได้รับคนไข้กลุ่มหนึ่งจำนวนเล็กๆ มารักษา และได้เรียกตัวแพทย์และพยาบาลเข้ามาช่วยดูแลเป็นกรณีพิเศษด้วย BT หนังสือพิมพ์แท็บลอยด์ของเดนมาร์ก เผยแพร่คลิปวิดีโอหนึ่งซึ่งยังไม่ผ่านการตรวจสอบ อ้างว่าบันทึกภาพโดย มาห์ดิ อัล-วาซนิ ผู้เห็นเหตุการณ์ เป็นภาพชายคนหนึ่งกำลังถือปืนไรเฟิลขนาดใหญ่เดินไปทั่วห้างสรรพสินค้าและกวัดแกว่งมันข้ามบ่าไปมา “เขาดูก้าวร้าวมากและยิงสิ่งต่างๆ ไปทั่วเลย” ส่วนอีกคลิปที่เผยแพร่โดยหนังสือพิมพ์แท็บลอยด์…

เครื่องบินโดยสารอินเดียลงจอดฉุกเฉิน เหตุควันคลุ้งในห้องโดยสาร

Loading

  เครื่องบินโดยสารสายการบินภายในประเทศของอินเดีย ต้องลงจอดฉุกเฉินที่สนามบินในกรุงนิวเดลี หลังเกิดควันลอยคละคลุ้งเต็มห้องโดยสารโดยไม่ทราบสาเหตุ เคราะห์ดีที่ไม่มีใครได้รับอันตราย สายการบินภายในประเทศ สไปซ์เจ็ท ของอินเดีย ต้องขอลงจอดฉุกเฉินที่สนามบินในกรุงนิวเดลีเมื่อวันเสาร์ตามเวลาในท้องถิ่น หลังจากที่ห้องโดยสารเต็มไปด้วยกลุ่มควันลอยคลุ้งอย่างไม่ทราบสาเหตุ ทั้งๆที่เพิ่งออกเดินทางจากสนามบินเมืองจาบัลปุระ รัฐมัธยประเทศทางภาคกลางของอินเดียได้ไม่นาน โดยขณะเกิดเหตุเครื่องบินบินอยู่ในระดับ 5,000 ฟุต ก่อนที่ลูกเรือจะแจ้งความผิดปกติดังกล่าว จนทำให้กัปตันตัดสินใจนำเครื่องลงจอดฉุกเฉิน และมีการอพยพผู้โดยสารออกจากเครื่องเพื่อเปลี่ยนไปขึ้นเครื่องบินลำอื่นได้อย่างปลอดภัย ก่อนจะตรวจสอบหาสาเหตุความผิดปกติที่เกิดขึ้น ซึ่งทางสายการบินไม่ได้มีการเปิดเผยว่าขณะเกิดเหตุมีผู้โดยสารและลูกเรืออยู่บนเครื่องกี่คน   #WATCH | A SpiceJet aircraft operating from Delhi to Jabalpur returned safely to the Delhi airport today morning after the crew noticed smoke in the cabin while passing 5000ft; passengers safely disembarked: SpiceJet Spokesperson…

ศูนย์สั่งการชายแดนไทย-เมียนมา คุมเข้มหลังเกิดการปะทะหวั่นกระทบคนไทย

Loading

  วันที่ 3 ก.ค.65 ศูนย์สั่งการชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก ได้ชี้แจงสถานการณ์ชายแดน ว่า 1.สถานการณ์ชายแดน จ.ตาก เกิดการปะทะกันระหว่างทหารเมียนมา กับกองกำลังชนกลุ่มน้อยเชื้อสายกะเหรี่ยง บริเวณบ้านอุเกรทะ อ.วาเล่ย์ใหม่ จ.เมียวดี ประเทศเมียนมา ด้านตรงข้ามบ้านวาเล่ย์ใต้ ต.วาเล่ย์ อ.พบพระ จ.ตาก ลึกเข้าไปในฝั่งเมียนมา 1 กม.โดยทหารเมียนมาได้ใช้อากาศยาน สนับสนุนการปฏิบัติการทางทหารในพื้นที่ ด้านตรงข้ามบ้านหมื่นฤาชัย ต.พบพระ อ.พบพระ 2.ผลกระทบที่เกิดขึ้นกับ จ.ตาก 2.1 จากการปฏิบัติการทางอากาศของทหารเมียนมา ส่งผลให้มีสะเก็ดระเบิด ข้ามเข้ามาตกใส่บ้านเรือนของราษฎรไทย ได้รับความเสียหายเล็กน้อย 3 หลัง ไม่มีประชาชนไทยได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว ศูนย์สั่งการชายแดนฯ ได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ เพื่อให้ความช่วยเหลือปรับปรุง/ซ่อมแชมบ้านเรือนให้กับราษฎรไทยที่ได้รับผลกระทบแล้ว 2.2 ปัจจุบัน ผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมา ได้เดินทางเข้ามายังฝั่งไทยจำนวน ๖๓๑ คน ในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว อ.พบพระ จำนวน 3 แห่ง ดังนี้ ที่วัดบ้านหมื่นฤาชัย ต.พบพระ อ.พบพระ…

ฮือฮา!! มอสโก “จับ” นักวิทยาศาสตร์รัสเซียชื่อดังไม่ต่ำกว่า 2 คน แอบเป็นสายลับให้ “ปักกิ่ง” ส่งข้อมูลอาวุธไฮเปอร์โซนิกให้จีน

Loading

  รอยเตอร์/เอเจนซีส์ – มาจนถึงวันเสาร์ (2 ก.ค.) มอสโกจับกุมนักวิทยาศาสตร์ชื่อดังรัสเซียไม่ต่ำกว่า 2 คน จากเขตไซบีเรีย ในข้อหาแอบเป็นสายลับให้ปักกิ่งส่งผ่านข้อมูลลับเกี่ยวข้องกับอาวุธไฮเปอร์โซนิกโปรเจกต์สุดหวงของประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน ให้จีน รอยเตอร์รายงานเมื่อวานนี้ (2 ก.ค.) ว่า แหล่งข่าวใกล้ชิดการสอบสวนเปิดเผยว่า ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา มอสโกได้จับกุมนักวิทยาศาสตร์ชื่อดังรัสเซียเข้าเรือนจำในข้อหาเป็นสายลับให้รัฐบาลจีนไปแล้วถึง 2 คน อนาโตลี มาสโลฟ (Anatoly Maslov) หัวหน้านักวิทยาศาสตร์ประจำสถาบันวิทยาศาสตร์เครื่องกลทฤษฎีและการประยุกต์ในโนโวซีบีสค์ โนโวซีบีสค์ (Novosibirsk) เขตไซบีเรีย ตั้งห่างจากกรุงมอสโกออกไปราว 2,800 กิโลเมตร โดยมาสโลฟถูกจับและส่งตัวมายังเรือนจำในกรุงมอสโก เพื่อให้สำนักงานสอบสวนกลางรัสเซีย FSB ทำการสอบสวน สำนักข่าวทาซ (TASS) ของรัสเซียรายงาน แหล่งข่าวเปิดเผยว่า “มาสโลฟถูกต้องสงสัยว่าได้ส่งผ่านข้อมูลความลับของรัฐ” แหล่งข่าวเปิดเผยและชี้ว่า ข้อมูลความลับเกี่ยวข้องกับอาวุธไฮเปอร์โซนิก ทั้งนี้ พบว่าสำนักข่าวรัสเซียไม่กี่แห่งรายงานว่ามาสโลฟถูกจับกุมในวันที่ 28 มิ.ย. และการจับกุมของเขาเกิดขึ้นสัปดาห์เดียวกันกับนักวิทยาศาสตร์ชื่อดังรัสเซียอีกคนคือ ดมิตรี โคลเคอร์ (Dmitry Kolker) นักวิทยาศาสตร์ผู้มีชื่อเสียงของรัสเซียด้านเทคโนโลยีเลเซอร์ประจำมหาวิทยาลัยสเตทโนโวซีบีสค์…