กองทัพจีนใช้กลยุทธ์ ‘เรือพลเรือน’ ขยายปฏิบัติการทางทหาร

Loading

South China Sea   จีนเริ่มดำเนินยุทธศาสตร์การขยายอิทธิพลทางทหารของตนอย่างเงียบ ๆ มาสักระยะหนึ่งแล้ว โดยแฝงตัวอยู่ในรูปของเรือที่ไม่ได้เป็นของกองทัพ อย่างเช่น เรือด้านการวิจัยของจีนที่ติดตั้งอุปกรณ์เฝ้าระวังจอดเทียบที่ท่าเรือศรีลังกา หรือเรือประมงจำนวนหลายร้อยที่ทอดสมออยู่พื้นที่หมู่เกาะในทะเลจีนใต้ซึ่งเป็นจุดพิพาทระหว่างจีนกับประเทศเพื่อนบ้านอื่น ๆ ครั้งละหลายเดือน รวมทั้งเรือเฟอร์รีท่องมหาสมุทราที่มีความสามารถในการบรรทุกยานพาหนะหนักและผู้คนจำนวนมาก ซึ่งเดินทางไปทั่วท้องน้ำตลอดช่วงที่ผ่านมา   แม้ว่าเรือเหล่านี้จะถูกจัดว่าเป็นเรือพลเรือน แต่ผู้เชี่ยวชาญและรัฐบาลระดับภูมิภาคแสดงความกังวลใจว่า สิ่งนี้อาจจะเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ผสมระหว่างภาคพลเรือนและทหาร ซึ่งรัฐบาลของจีนนำมาใช้เพื่อปกปิดและขยายขีดความสามารถทางทะเล   ปัจจุบัน กองทัพเรือจีนถือว่ามีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกอยู่แล้ว และจีนยังคงเพิ่มเรือรบใหม่เพื่อขยายกำลังทางทหารให้กว้างขวางมากยิ่งขึ้น โดยในเดือนมิถุนายน เพิ่งมีการเปิดตัวเรือบรรทุกเครื่องบินลำแรกที่ออกแบบและผลิตในประเทศ และมีแผนที่จะเปิดตัวเรือพิฆาตสัญชาติจีนอีกอย่างน้อย 5 ลำที่อยู่ระหว่างการผลิตด้วย   รัฐบาลของจีนพยายามที่จะขยายอิทธิพลในภูมิภาคนี้ โดยการเพิ่มกิจกรรมทางทหารรอบเกาะไต้หวันที่ปกครองตนเอง แสวงหาข้อตกลงด้านความมั่นคงฉบับใหม่กับหมู่เกาะแปซิฟิก รวมถึงสร้างเกาะเทียมในน่านน้ำที่เกิดข้อพิพาท เพื่อที่จะอ้างสิทธิ์ในพื้นที่ทะเลจีนใต้ ซึ่งสหรัฐฯ และประเทศพันธมิตรแสดงจุดยืนคัดค้านอยู่แล้ว   การใช้เรือพลเรือนนี้ ถือเป็นกลยุทธ์ที่มากกว่าแค่การเพิ่มจำนวน เพราะเรือเหล่านี้ยังสามารถดำเนินการในสิ่งที่เรือของกองทัพทำได้ยาก   South China Sea   เกรกอรี โพลลิง ผู้อำนวยการ ศูนย์ Center for Strategic and International…

อดีตทีมข่าว ‘แอปเปิลเดลี’ ฮ่องกง ยอมรับผิด กม. ความมั่นคง หลังถูกกล่าวหาว่าร่วมมือต่างชาติทำลายจีน

Loading

  23 พ.ย. 2565 สื่อต่างประเทศรายงานว่าในคดีหมุดหมายสำคัญของการใช้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติกับสื่อ 6 อดีตสมาชิกกองบรรณาธิการของ ‘แอปเปิลเดลี’ สำนักข่าวฮ่องกงที่วิจารณ์รัฐบาลจีนและถูกบีบให้ปิดตัวเมื่อกลางปีที่แล้ว ยอมรับความผิดตามกฎหมายเพื่อขอลดโทษ ฝ่ายอัยการใช้การประชุมประจำสัปดาห์ของกองบรรณาธิการข่าว ซึ่งเป็นกิจวัตรปกติของสำนักข่าวทั่วไป เป็นหลักฐานกล่าวหาว่าพวกเขา ‘สมรู้ร่วมคิด’ ในการเผยแพร่บทความ เรียกร้องให้ประชาชนเข้าร่วมการประท้วง และเรียกร้องให้ต่างชาติคว่ำบาตรรัฐบาลจีนและเขตบริหารพิเศษฮ่องกง   ผู้ที่ยอมรับผิดในคดีนี้แล้ว ได้แก่ (1.) เชิง คิม-ฮุง อดีตซีอีโอของ ‘เน็กซ์ดิจิตัล’ บริษัทเจ้าของสำนักข่าวแอปเปิลเดลี (2.) ไรอัน ลอว์ อดีตหัวหน้าบรรณาธิการ (3.) ชาน พุย-มัน อดีตผู้ช่วยเผยแพร่ (4.) ลัม มัน-ชุง อดีตหัวหน้าบรรณาธิการฝ่ายบริหาร (5.) ฟุง ไว-กง อดีตหัวหน้าบรรณาธิการฝ่ายข่าวภาษาอังกฤษ และ (6.) เยิง ชิง-กี อดีตนักเขียนของกองบรรณาธิการ   ผู้ยอมรับผิดทั้ง 6 รายเดินทางไปขึ้นศาลสูง เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (22 พ.ย. 2565)…

รับผิดชอบผลงาน! สื่อสหรัฐฯ ไล่ออกนักข่าว ปั่น ‘เฟกนิวส์’ รัสเซียยิงขีปนาวุธใส่โปแลนด์

Loading

  สำนักข่าวเอพี สื่อมวลชนสัญชาติสหรัฐฯ ไล่ออกผู้สื่อข่าวที่อยู่เบื้องหลังคำกล่าวอ้างที่ว่า ขีปนาวุธที่พุ่งตกในโปแลนด์ ชาติสมาชิกนาโต้ เมื่อสัปดาห์ที่แล้วเป็นการยิงโดยรัสเซีย ก่อนที่สำนักข่าวแห่งนี้จะกลับลำในเวลาต่อมา   ข่าวคราวสำนักข่าวเอพีได้ยกเลิกสัญญากับ เจมส์ ลาปอร์ตา ผู้สื่อข่าวเชิงสืบสวน ถูกเผยแพร่ออกมา หลังจากหนังสือพิมพ์ Daily Beast รายงานในวันจันทร์ (21 พ.ย.) ว่าทางเอพีได้มีการสืบสวนกันภายในอย่างรวบรัด และต่อมาข่าวคราวเกี่ยวกับการไล่ออก ลาปอร์ตา ก็ได้รับการยืนยันจากหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ ที่อ้างอิงแหล่งข่าวในสำนักข่าวเอพี   เมื่อวันอังคารที่แล้ว (15 พ.ย.) เอพีรายงานข่าวด่วน อ้างอิงเจ้าหน้าที่ระดับอาวุโสในหน่วยข่าวกรองของสหรัฐฯ ระบุว่าขีปนาวุธของรัสเซียพุ่งข้ามเข้าสู่ดินแดนของโปแลนด์ ชาติสมาชิกนาโต้ และส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 2 คน   เหตุการณ์ลักษณะนี้เท่ากับว่าสถานการณ์ความขัดแย้งในยูเครนได้ลุกลามบานปลายแล้ว เนื่องจากมันเป็นการโจมตีชาติสมาชิกของนาโต้ ซึ่งเสี่ยงโหมกระพือการตอบโต้จากกลุ่มพันธมิตรทหารแห่งนี้ เรื่องราวนี้ถูกสำนักข่าวอื่นๆ จำนวนมากหยิบยกนำไปเสนอต่อและกลายเป็นข่าวพาดหัวทั่วโลก   รัสเซียปฏิเสธว่าไม่ได้ทำการโจมตีใด ๆ ใกล้ชายแดนยูเครน-โปแลนด์ ในช่วงเวลาที่เกิดเหตุในหมู่บ้านเชวาดูฟ (Przewodow) ก่อนต่อมาเจ้าหน้าที่จากโปแลนด์ สหรัฐฯ และอียู จะบอกว่ามีขีปนาวุธลูกเดียวที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้ และมีความเป็นไปได้มากที่สุดที่มันจะถูกยิงออกมาจากฝ่ายยูเครน   ในเวลาต่อมา…

เปิด 7 ข้อสังเกต – 3 ชนวนเหตุคาร์บอมบ์นราธิวาส

Loading

  มีข้อสังเกตและการวิเคราะห์เหตุคาร์บอมบ์นราธิวาสที่รวบรวมจากเจ้าหน้าที่ ผู้เชี่ยวชาญในพื้นที่ และหน่วยข่าวความมั่นคง   1.นราธิวาส ว่างเว้นจากเหตุระเบิดคาร์บอบม์มานานถึง 6 ปี – คาร์บอมบ์ครั้งล่าสุดที่เกิดขึ้นในพื้นที่นราธิวาส เกิดเมื่อวันที่ 26 มิ.ย.59 – เหตุเกิดในซอยข้างฐานปฏิบัติการหมวดเฉพาะกิจหน่วยปฏิบัติการพิเศษ นราธิวาส 33 ริมกำแพงโรงเรียนบ้านสุไหงโก-ลก อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส บาดเจ็บ 2 ราย   2.การหวนกลับมาเกิดคาร์บอมบ์อีกครั้งในรอบกว่า 6 ปี ถือว่าเป็นเงื่อนไขพิเศษ   3.จุดเกิดเหตุคือแฟลตตำรวจ ซึ่งเป็นพื้นที่ของเจ้าหน้าที่ ถ้าคนร้ายไม่วางแผนมาอย่างดี ไม่น่าจะกล้าเข้าไปวางระเบิดได้ – ถ้าคนร้ายไม่ใช่มือเก๋า หรือไม่วางแผนมาอย่างดี ดูลาดเลา เก็บข้อมูลมานานก่อนลงมือ จะกล้าขับรถบรรทุกระเบิดดุ่มๆ เข้าไปจอดหรือไม่ – เป็นการก่อเหตุในถิ่นของตำรวจ น่าคิดว่ามี “สาย” หรือคนที่รู้ความเคลื่อนไหวภายใน แฝงตัวอยู่และคอยส่งข่าวด้วยหรือไม่   4.คนร้ายปฏิบัติการอย่างโหดเหี้ยม เพราะในแฟลตทั้ง 3 ฝั่ง (แฟลตเป็นรูปตัว U) มีพลเรือนอาศัยอยู่ด้วย…

คาร์บอมบ์แฟลตตำรวจ ลูกที่ 2 ของปี ลูกที่ 60 ไฟใต้!

Loading

  เหตุการณ์คนร้ายลอบวางระเบิดคาร์บอมบ์ บริเวณแฟลตตำรวจ สภ.เมืองนราธิวาส ถนนสุริยะประดิษฐ์ เทศบาลเมืองนราธิวาส เมื่อช่วงเที่ยงของวันอังคารที่ 22 พ.ย.65 ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บ 31 ราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจและครอบครัวที่พักอาศัยอยู่ภายในแฟลตตำรวจนั้น   เหตุ “คาร์บอมบ์” ครั้งนี้ ถือเป็นระเบิดคาร์บอมบ์ลูกที่ 2 ของปี 2565 โดยลูกแรกเกิดขึ้นเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 21 มิ.ย.65 โดยคนร้ายได้ปล้นรถบรรทุกขยะของ อบต.ลางา จากพื้นที่ อ.มายอ จ.ปัตตานี มาประกอบระเบิดเป็นคาร์บอมบ์ แล้วขับไปจอดในซอยจุดตรวจจันทรักษ์ หลังอาคาร อบต.ควน อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี ใกล้ปั๊มน้ำมัน ปตท. ริมถนนหลวงสายปัตตานี – นราธิวาส ท้องที่หมู่ 1 บ้านปาลัส ต.ควน แรงระเบิดทำให้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บ 1 นาย   จากการรวบรวมสถิติคาร์บอมบ์ของ “ศูนย์ข่าวอิศรา” นับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้เมื่อปี 2547…

เปิดภาพวงจรปิดคนร้ายบุกเดี่ยวขับคาร์บอมบ์จอดแฟลตตำรวจ

Loading

  เหยียบจมูกตำรวจ คนร้ายพกปืนบุกเดี่ยวขับรถกระบะซุกระเบิดถังแก๊ส จอดในพื้นที่แฟลตตำรวจ สภ.เมืองนราธิวาส ก่อนมีเพื่อนขี่มอเตอร์ไซค์มารับหายลอยนวล จากนั้นเกิดระเบิดตูมสนั่น แฟลตเก่า 2 ชั้นพังทั้งแถบ เพลิงลุกท่วม รถที่จอดอยู่ใกล้เคียงเสียหายเพียบ สารวัตรปราบปรามโชคร้าย เสียชีวิตคาที่ ยอดผู้บาดเจ็บพุ่ง 31 ราย   ความคืบหน้าเหตุระเบิดคาร์บอมบ์ที่แฟลตตำรวจ สภ.เมืองนราธิวาส ตรงข้ามโรงเรียนนราสิกขาลัย ถนนสุริยะประดิษฐ์ เทศบาลเมืองนราธิวาส อ.เมือง จ.นราธิวาส แรงระเบิดทำให้เกิดเพลิงไหม้ จนเจ้าหน้าที่ต้องส่งรถดับเพลิงเข้าฉีดน้ำสกัดเพลิง   หลังจากเพลิงสงบลง เจ้าหน้าที่ชุด อีโอดี หรือชุดเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุอย่างละเอียด พร้อมเจ้าหน้าที่ผู้ที่เกี่ยวข้อง พบอาคารแฟลต 2 ชั้นหลังเก่าด้านขวามือที่มีการต่อเติมเป็นเพิงหน้าบ้านพักเพื่อให้เจ้าหน้าที่ใช้จอดรถ ถูกอานุภาพของระเบิด ทำให้เพิงและอาคารแฟลตได้รับความเสียหาย 8 หลัง จากทั้งหมด 10 หลัง และอานุภาพของระเบิดยังส่งผลให้หลังคากระเบื้องชั้น 2 ได้รับความเสียหายไปด้วย โดยมีรถยนต์และรถจักรยานยนต์ของเจ้าหน้าที่ได้รับความเสียหายอีกหลายคัน     จากการตรวจสอบพบว่า รถยนต์ที่คนร้ายนำมาทำเป็น “คาร์บอมบ์” เป็นรถกระบะ 4…