กองทัพจีนใช้กลยุทธ์ ‘เรือพลเรือน’ ขยายปฏิบัติการทางทหาร
South China Sea จีนเริ่มดำเนินยุทธศาสตร์การขยายอิทธิพลทางทหารของตนอย่างเงียบ ๆ มาสักระยะหนึ่งแล้ว โดยแฝงตัวอยู่ในรูปของเรือที่ไม่ได้เป็นของกองทัพ อย่างเช่น เรือด้านการวิจัยของจีนที่ติดตั้งอุปกรณ์เฝ้าระวังจอดเทียบที่ท่าเรือศรีลังกา หรือเรือประมงจำนวนหลายร้อยที่ทอดสมออยู่พื้นที่หมู่เกาะในทะเลจีนใต้ซึ่งเป็นจุดพิพาทระหว่างจีนกับประเทศเพื่อนบ้านอื่น ๆ ครั้งละหลายเดือน รวมทั้งเรือเฟอร์รีท่องมหาสมุทราที่มีความสามารถในการบรรทุกยานพาหนะหนักและผู้คนจำนวนมาก ซึ่งเดินทางไปทั่วท้องน้ำตลอดช่วงที่ผ่านมา แม้ว่าเรือเหล่านี้จะถูกจัดว่าเป็นเรือพลเรือน แต่ผู้เชี่ยวชาญและรัฐบาลระดับภูมิภาคแสดงความกังวลใจว่า สิ่งนี้อาจจะเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ผสมระหว่างภาคพลเรือนและทหาร ซึ่งรัฐบาลของจีนนำมาใช้เพื่อปกปิดและขยายขีดความสามารถทางทะเล ปัจจุบัน กองทัพเรือจีนถือว่ามีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกอยู่แล้ว และจีนยังคงเพิ่มเรือรบใหม่เพื่อขยายกำลังทางทหารให้กว้างขวางมากยิ่งขึ้น โดยในเดือนมิถุนายน เพิ่งมีการเปิดตัวเรือบรรทุกเครื่องบินลำแรกที่ออกแบบและผลิตในประเทศ และมีแผนที่จะเปิดตัวเรือพิฆาตสัญชาติจีนอีกอย่างน้อย 5 ลำที่อยู่ระหว่างการผลิตด้วย รัฐบาลของจีนพยายามที่จะขยายอิทธิพลในภูมิภาคนี้ โดยการเพิ่มกิจกรรมทางทหารรอบเกาะไต้หวันที่ปกครองตนเอง แสวงหาข้อตกลงด้านความมั่นคงฉบับใหม่กับหมู่เกาะแปซิฟิก รวมถึงสร้างเกาะเทียมในน่านน้ำที่เกิดข้อพิพาท เพื่อที่จะอ้างสิทธิ์ในพื้นที่ทะเลจีนใต้ ซึ่งสหรัฐฯ และประเทศพันธมิตรแสดงจุดยืนคัดค้านอยู่แล้ว การใช้เรือพลเรือนนี้ ถือเป็นกลยุทธ์ที่มากกว่าแค่การเพิ่มจำนวน เพราะเรือเหล่านี้ยังสามารถดำเนินการในสิ่งที่เรือของกองทัพทำได้ยาก South China Sea เกรกอรี โพลลิง ผู้อำนวยการ ศูนย์ Center for Strategic and International…