จีนปัดลอบผุดสถานี ตร.ลับต่างแดนหลังถูกแฉ หวั่นใช้คุกคาม-ตามจับผู้ลี้ภัย

Loading

  จีนปัดลอบผุดสถานีตร.ลับต่างแดนหลังถูกแฉ – วันที่ 27 ต.ค. เอพีรายงานว่า ทางการจีนลักลอบตั้งสถานีตำรวจต่างแดนในหลายประเทศทั่วโลก ส่งผลให้นักสิทธิมนุษยชนหวาดเกรงว่าจะถูกใช้เป็นฐานปฏิบัติการเพื่อคุกคามและติดตามจับกุมผู้ลี้ภัยในประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก   ข้อมูลดังกล่าวถูกเปิดเผยผ่านรายงานของกลุ่ม Safeguard Defenders ชื่อรายงานว่า 110 Overseas. Chinese Transnational Policing Gone Wild ระบุถึงสถานีตำรวจ 110 แห่ง ของทางการจีนที่ตั้งขึ้นในหลายประเทศ   ตำแหน่งที่ตั้งของสถานีตำรวจลับ 110 แห่ง ของทางการจีนทั่วโลกจากรายงานของกลุ่ม Safeguard Defenders   รายงานดังกล่าวสะท้อนถึงกระแสความกังวลของนานาชาติต่ออิทธิพลของพรรคคอมมิวนิสต์จีนที่มีต่อชาวจีนที่พำนักอยู่ในต่างแดน บางครั้งขัดต่อกฎหมายของบางชาติ รวมถึงการกัดเซาะบ่อนทำลายสถาบันในระบอบประชาธิปไตยและการจารกรรมทางเศรษฐกิจตลอดจนความลับอื่น ๆ   การเปิดเผยเกิดขึ้นหลังทางการเนเธอร์แลนด์ ระบุว่า กำลังดำเนินการตรวจสอบถึงตัวตนของสถานีตำรวจจีน 2 แห่ง ที่มีอยู่ในนครอัมสเตอร์ดัมและรอตเทอร์ดาม   กระทรวงการต่างประเทศเนเธอร์แลนด์ ระบุว่า ไม่เคยได้รับการแจ้งเรื่องนี้จากทางการจีนและหากตรวจสอบพบว่ามีสถานีเหล่านี้ของจีนมีอยู่จริงก็จะดำเนินการตามขั้นตอนที่เหมาะสมต่อไป   ทางการเนเธอร์แลนด์ ระบุด้วยว่า หากข้อมูลจากรายงานของกลุ่ม Safeguard…

LinkedIn เริ่มบังคับยืนยันตัวตนด้วยอีเมลทำงาน-เบอร์โทร แก้ปัญหาบัญชีสแปม-หลอกลวง

Loading

  ไม่ได้มีแต่ Twitter ที่มีปัญหาบัญชีปลอมระบาด เพราะโซเชียลมีเดียอย่าง LinkedIn ก็มีปัญหาบัญชีปลอมเพื่อหลอก scam ด้วยเช่นกัน   ล่าสุด LinkedIn เพิ่มมาตรการตรวจสอบตัวตนของผู้ใช้เพิ่ม โดยต้องยืนยันอีเมลทำงาน (work email) หรือหมายเลขโทรศัพท์ ซึ่งจะถูกนำไปแสดงในหน้า About this Profile ว่ายืนยันตัวตนเรียบร้อยแล้วจริง ๆ และยังเพิ่มการระบุวันที่สร้างบัญชี เพื่อให้ตรวจเช็คได้ง่ายขึ้นว่าเป็นบัญชีสร้างใหม่หรือไม่   ฟีเจอร์ตรวจสอบตัวตนยังทยอยปล่อยให้ผู้ใช้ในวงจำกัด และจะค่อย ๆ ขยายในวงกว้างขึ้นต่อไป   ที่มา – CNN     —————————————————————————————————————————————————– ที่มา :                          Blognone by mk   …

สหรัฐ-กูเกิลบรรลุข้อตกลงปฏิบัติตามคำสั่งศาลเพื่อช่วยสืบสวนคดีอาญา

Loading

  กระทรวงยุติธรรมสหรัฐระบุในวันอังคาร (25 ต.ค.) ว่า ได้บรรลุข้อตกลงกับกูเกิล ยักษ์ใหญ่ด้านการสืบค้นข้อมูลผ่านอินเทอร์เน็ตซึ่งเป็นบริษัทในเครือของอัลฟาเบท อิงค์แล้ว เพื่อแก้ไขข้อพิพาทระหว่างกัน หลังจากที่กูเกิลอาศัยช่องโหว่ทางกฎหมายไม่ปฏิบัติตามหมายค้นเมื่อปี 2559   กระทรวงยุติธรรมสหรัฐระบุว่า ข้อตกลงนี้เป็นการแก้ไขปัญหาในกรณีดังกล่าวเป็นครั้งแรก ซึ่งจะทำให้กูเกิลต้องปฏิรูปด้านการปฏิบัติตามกระบวนการทางกฎหมายเพื่อรับประกันว่า กูเกิลจะปฏิบัติตามกระบวนการทางกฎหมาย เช่น หมายศาลและหมายค้น อย่างทันท่วงทีและสมบูรณ์”   “กระทรวงยุติธรรมสหรัฐมีพันธสัญญาในการรับประกันว่า ผู้ให้บริการด้านการติดต่อสื่อสารทางอิเล็กทรอนิกส์ต้องปฏิบัติตามคำสั่งศาล เพื่อปกป้องและอำนวยความสะดวกด้านการสืบสวนคดีอาญา” นายเคนเนธ โพไลต์ ผู้ช่วยอัยการสูงสุด หัวหน้าแผนกคดีอาญาของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐกล่าว พร้อมเสริมว่า “กรณีดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า การแก้ไขปัญหาของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐในการรับประกันว่า บริษัทเทคโนโลยีต่าง ๆ เช่น กูเกิล นั้น จะปฏิบัติตามกระบวนการทางกฎหมายอย่างรวดเร็วและครบถ้วน เพื่อรับประกันความปลอดภัยสาธารณะ และนำผู้กระทำความผิดเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม”   กระทรวงยุติธรรมสหรัฐระบุว่า จะมีการจ้างมืออาชีพอิสระมารับหน้าที่เป็นบุคคลที่ 3 เพื่อปรับปรุงด้านการปฏิบัติตามกฎหมายของกูเกิล   สำนักข่าวรอยเตอร์รายงาน ในปี 2559 นั้น สหรัฐได้ออกหมายค้นในรัฐแคลิฟอร์เนียเพื่อรวบรวมข้อมูลที่กูเกิลเก็บเอาไว้ ซึ่งเกี่ยวพันกับการสอบสวนคดีของ BTC-e ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซี ซึ่งในเวลาต่อมา ศาลอุทธรณ์สหรัฐวินิจฉัยว่า หมายค้นดังกล่าวไม่ครอบคลุมถึงข้อมูลที่ถูกเก็บอยู่นอกสหรัฐ…

สมช. เคาะแผนรับมือเหตุฉุกเฉินช่วงเอเปก แม้ยังไม่มีเหตุ แต่ต้องรอบคอบ

Loading

  ที่ประชุม สมช. เห็นชอบแผน-มาตรการรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินในห้วงเอเปก “บิ๊กป้อม” รายงานยังไม่มีอะไรน่ากังวล แต่ได้เน้นย้ำให้ดำเนินการให้รัดกุมและละเอียดรอบคอบ   วันที่ 26 ต.ค. 2565 พล.อ.สุพจน์ มาลานิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) แถลงภายหลังการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติครั้งที่ 1/2566 ว่า ตนได้รายงานสถานการณ์ความขัดแย้งรัสเซีย-ยูเครน ช่องแคบไต้หวัน และสถานการณ์ในประเทศเมียนมาร์ โดยไทยมีท่าทีอย่างชัดเจนในการสนับสนุนการแก้ปัญหาด้วยการเจรจาและสันติวิธี การให้การช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมอย่างเต็มที่ และยึดถือตามกฎหมายและพันธกรณีระหว่างประเทศ   นอกจากนี้ ยังรายงานสถานการณ์จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยที่ประชุมได้ให้พยายามแก้ไขปัญหาด้วยสันติวิธี ด้วยความจริงใจ เปิดโอกาสให้คนในพื้นที่ไม่ว่าจะกลุ่มใดก็ตามมามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาทั้งในด้านการรักษาความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินของประชาชน การพัฒนาพื้นที่ ให้ประชาชนมีรายได้มีเศรษฐกิจที่ดีในภาพรวม ส่วนการบริหารจัดการพื้นที่ชายแดนให้เอื้ออำนวยต่อการแก้ไขปัญหา การสนับสนุนธรรมเนียม ประเพณี วัฒนธรรมและการศึกษาภายใต้กรอบกฎหมาย   ขณะที่แนวทางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ให้ใช้แนวทางสันติวิธี ยึดถือกฎหมายอย่างเคร่งครัดและเป็นธรรม แก้ตรงจุด ลดเงื่อนไข สร้างความไว้เนื้อเชื่อใจ ทั้งนี้ ได้ย้ำให้ส่วนราชการทุกภาคส่วนต้องเข้าใจวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน และบูรณาการการทำงานทั้งในเชิงแผนงาน และการปฏิบัติในพื้นที่ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น โดยเฉพาะ กอ.รมน. ศอ.บต. และกระทรวงมหาดไทย   พล.อ.สุพจน์ กล่าวว่า…

จีนกลายเป็นภัยคุกคามเจ้าเทคโนโลยีสหรัฐฯ ได้อย่างไร

Loading

ภาพโกลบอลไทมส์   เมื่อ 7 ปีที่แล้ว จีนประกาศแผนยุทธศาสตร์แห่งชาติ “เมดอินไชน่า 2025” ตั้งเป้าหมายการพัฒนา 10 ภาคอุตสาหกรรมการผลิตของแดนมังกร ให้ผงาดทัดเทียมบนเวทีการแข่งขันระดับโลกภายในปี พ.ศ.2568   หากย้อนดูเส้นทางการพัฒนาด้านเทคโนโลยีของจีน ก็จะเข้าใจได้ว่า จีนกลายเป็นภัยอันน่ากลัวต่อผู้นำด้านเทคโนโลยีอย่างสหรัฐฯ ในทุกวันนี้ได้อย่างไร   ความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีของสหรัฐฯ กำลังถูกจีนไล่ตามมาเหลือระยะห่างกันมากน้อยแค่ไหน และเหตุใดรัฐบาลของประธานาธิบดี โจ ไบเดน จึงรู้สึกถูกคุกคามถึงขนาดต้องยกระดับมาตรการจำกัดการส่งออกเทคโนโลยีแก่จีนเมื่อเร็ว ๆ นี้ อธิบายได้จากสิ่งต่อไปนี้   1.ความเฟื่องฟูด้านการวิจัย   จีนมีการลงทุนด้านเทคโนโลยีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา ตอนนั้นเศรษฐกิจแดนมังกรกำลังบูม หลังจากการฟื้นฟูเปิดประเทศและเศรษฐกิจของผู้นำ “เติ้ง เสี่ยวผิง” ในช่วงต้นคริสต์ทศวรรษ 1990 (พ.ศ.2533-2542)   เมื่อดูการใช้จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนาทั้งหมด (Gross R&D spending) ของแต่ละฝ่าย พบว่า จีนไล่ตามมาชนิดหายใจรดต้นคอในปัจจุบัน โดยจีนมีโอกาสลดช่องว่างให้แคบลงในช่วงที่สหรัฐฯ เผชิญวิกฤตเศรษฐกิจ ทั้งภาวะเศรษฐกิจฟองสบู่ด็อตคอมในปี 2540-2543 และวิกฤตการเงินโลกระหว่างปี 2551-2552 ซึ่งทำให้การใช้จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนาของสหรัฐฯ ชะลอ…

สั่งตั้งวอร์รูมรวมทุกหน่วยการข่าวสกรีนเข้ม กลุ่มเคลื่อนไหวช่วงประชุมเอเปก

Loading

  วงถกสภากลาโหม “หน่วยงานข่าวกรอง” รายงานจับตาทุกกลุ่มเคลื่อนไหวอาจก่อความรุนแรงช่วงประชุมเอเปก ตั้งวอร์รูมรวมทุกหน่วยการข่าวสกรีนเข้ม พร้อมวาง 3 แผนรักษาความปลอดภัย   เมื่อวันที่ 26 ต.ค. 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมสภากลาโหม ครั้งที่ 10/2565 ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธาน หน่วยงานด้านการข่าวได้สรุปกลุ่มเฝ้าระวัง กลุ่มที่เคลื่อนไหวอาจจะกระทบภาพลักษณ์ประเทศ เป็นกลุ่มที่ต้องจับตา รวมถึงกลุ่มที่เคยก่อความรุนแรงทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ เป็นกลุ่มเสี่ยงที่ต้องจับตาด้วยเช่นกัน ในการประชุมเอเปก   ทั้งนี้ จะมีการตั้งศูนย์ปฏิบัติการด้านการข่าวส่วนหน้า โดยมีสำนักงานข่าวกรองแห่งชาติ (สขช.) เป็นแกนหลัก กองบัญชาการตำรวจสันติบาล หน่วยข่าวกรองทางทหาร (ขกท.) และศูนย์รักษาความปลอดภัย (ศรภ.) ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเตรียมแผนรักษาความปลอดภัยโดยแบ่งเป็น 3 ส่วน คือ 1.เส้นทาง 2.สถานที่ และ 3.ผู้นำ ทั้งนี้ ขณะนี้สถานการณ์ในภาพรวมยังไม่พบการเคลื่อนไหวที่ผิดปกติ   ด้าน พ.อ.จิตนาถ ปุณโณทก รองโฆษกกระทรวงกลาโหม แถลงผลการประชุมสภากลาโหม…