หน่วยความมั่นคงยูเครนจับกุมเจ้าหน้าที่ข่าวกรองยศนายพัน พบถ่ายภาพเอกสารรายละเอียดที่ตั้งโครงสร้างทางทหารในภูมิภาคซาโปริซเซียให้รัสเซีย
เมื่อวานนี้ (26 ม.ค.) หน่วยความมั่นคงยูเครน (SBU) รายงานว่า ได้ทำการจับกุมเจ้าหน้าที่ข่าวกรองยศนายพันของ SBU นายหนึ่ง ฐานต้องสงสัยว่า “ก่อกบฏ” ด้วยการเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นความลับทางทหารให้กับผู้ที่อาจมีส่วนเกี่ยวพันกับรัสเซีย
SBU ยังพบของกลางในบ้านของเจ้าหน้าที่ข่าวกรองรายนี้ ทั้งซิมการ์ดที่ออกโดยผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือของรัสเซีย ห่อเงินสดสกุลเงินต่างประเทศ สนับมือ มีด 2 เล่ม และคู่มือเรียนภาษาอังกฤษสำหรับชาวรัสเซีย
เจ้าหน้าที่ข่าวกรองรายนี้ได้ใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายภาพเอกสารที่มีรายละเอียดที่ตั้งของโครงสร้างทางทหารในภูมิภาคซาโปริซเซีย หนึ่งในพื้นที่แนวหน้าของยูเครนที่มีการสู้รบกับรัสเซีย และส่งข้อมูลผ่านบัญชีอีเมลที่ลงทะเบียนในโดเมนของรัสเซีย
พล.ต.วิกเตอร์ ยาฮุน อดีตรองหัวหน้า SBU กล่าวว่า กรณีที่เกิดขึ้นนี้บ่งชี้ว่า ทางการยูเครนจำเป็นต้องตรวจสอบหน่วยงาน SBU อย่างละเอียดถี่ถ้วนและกวาดล้างคนทรยศทั้งหมด ทั้งนี้ เขามองว่า SBU มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดมากเกินไปกับหน่วยความมั่นคงรัสเซีย (FSB) มาอย่างยาวนาน ทำให้ถูกแทรกซึมได้ง่าย
นับตั้งแต่การรุกรานของรัสเซียเมื่อวันที่ 24 ก.พ. ปีที่แล้ว ยูเครนพบเจ้าหน้าที่กว่า 60 คนของ SBU และสำนักงานอัยการสูงสุด ยังคงอยู่ในพื้นที่ที่ถูกยึดครองและร่วมมือกับกองกำลังรัสเซีย ทำให้เห็นว่ารัสเซียมีการแทรกซึมเข้าในหน่วยงานความมั่นคงของยูเครนมากแค่ไหน
นอกจากนี้ ยังมีการจับกุมเจ้าหน้าที่ SBU หลายครั้งในข้อหากบฏในช่วง 11 เดือนที่ผ่านมา หนึ่งในนั้นคือ โอเล็ก คูลินิช ซึ่งได้รับการแต่งตั้งจากประธานาธิบดียูเครนในปี 2020 ให้ดูแลปฏิบัติการในภูมิภาคไครเมีย ซึ่งถูกรัสเซียยึดเอาไปตั้งแต่ปี 2014
ในเดือน ต.ค. ยูเครนยังร้องขอให้มีการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน แอนดรีย์ นาอูมอฟ จากเซอร์เบีย เขาเป็นอดีตหัวหน้าแผนกความมั่นคงภายในของหน่วยงานความมั่นคงของรัฐยูเครน แต่หลบหนีออกจากประเทศก่อนการรุกรานของรัสเซีย
ยาฮุนกล่าวว่า “คูลินิชและนาอูมอฟเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูง และพวกเขาสามารถเข้าถึงข้อมูลที่เป็นความลับที่สุดได้”
ยาฮุนกล่าวว่า ภายใน SBU เคยมีการเฉลิมฉลองวันก่อตั้ง KGB หน่วยสืบราชการลับของรัสเซียในยุคคอมมิวนิสต์ และเชื่อว่ายังคงมีสายลับที่สนับสนุนรัสเซียอยู่ในหน่วยความมั่นคง โดยเกรงว่าหลายคนในกองทัพยังคงคิดว่าตนเองเป็นชาวรัสเซียอยู่
แม้เจ้าหน้าที่ความมั่นคงสนับสนุนโซเวียตหรือรัสเซียจะเกษียณไปแล้ว แต่แนวทางสรรหาบุคลากรของ SBU ที่เปิดโอกาสให้ทายาทของเจ้าหน้าที่เข้ามาทำงานรับใช้ชาติได้ถือเป็นความเสี่ยงที่จะทำให้มีคนทรยศเข้ามาอยู่ในหน่วยงาน
“ทายาทเหล่านี้อาจเติบโตมาด้วยค่านิยมเดียวกับพ่อแม่ … ยูเครนทำผิดพลาดครั้งใหญ่ที่ไม่ทำตามผู้นำของกลุ่มประเทศบอลติกหลังจากได้รับเอกราชในการปฏิรูปบริการรักษาความปลอดภัยจากศูนย์” ยาฮุนกล่าว
ยาฮุนกล่าวว่า เจ้าหน้าที่ SBU บางคนถูกติดสินบนและแบล็กเมล์ให้ทำงานให้กับรัสเซีย ขณะที่บางคนก็เป็นสายลับสองหน้าเพราะ “มองว่าตัวเองยังเป็นคนรัสเซีย”
เรียบเรียงจาก The Guardian
ภาพจาก AFP
————————————————————————————————————————-
ที่มา : PPTV Online / วันที่เผยแพร่ 27 ม.ค.66
Link : https://www.pptvhd36.com/news/ต่างประเทศ/189220