ตั้งแต่โปรแกรม ChatGPT หรือ แชตบอตตอบคำถามอัจฉริยะ ออกมาเมื่อปลายปีที่แล้ว ชีวิตการทำงานของผมเปลี่ยนไปมาก เสมือนมีทีมงานที่เก่งมากอีกคนหนึ่งมาช่วยงานในด้านต่าง ๆ ทั้งช่วยคิด ช่วยเขียนเนื้อหาต่าง ๆ สรุปข้อความ ตอบคำถามต่าง ๆ
ตั้งแต่ โปรแกรม ChatGPT หรือ แชตบอตตอบคำถามอัจฉริยะ ออกมาเมื่อปลายปีที่แล้ว ชีวิตการทำงานของผมเปลี่ยนไปมาก เสมือนมีทีมงานที่เก่งมากอีกคนหนึ่งมาช่วยงานในด้านต่าง ๆ ทั้งช่วยคิด ช่วยเขียนเนื้อหาต่าง ๆ สรุปข้อความ ตอบคำถามต่าง ๆ แม้แต่การร่างหลักสูตรในการอบรมเบื้องต้น เตรียมการบรรยาย รวมถึงการเขียนบทความลงในหนังสือพิมพ์นี้ ทำให้ผมสามารถทำงานหลายอย่างได้รวดเร็ว
ChatGPT สามารถทำงานแทนมนุษย์ได้หลายอย่าง ผมได้ลองถาม ChatGPT ให้ช่วยระบุงาน 10 อย่างที่เขาคิดว่าสามารถทำได้ดี ก็ได้คำตอบมาดังนี้ 1. สร้างเนื้อหาและเขียนคำอธิบายสำหรับเว็บไซต์และเอกสารการตลาด 2. ช่วยเขียนบทความ เรียงความต่าง ๆ สำหรับนักข่าว นักเขียนและนักวิจัย 3. ทำหน้าที่เป็นแชตบอตเพื่อตอบคำถามต่าง ๆ 4. เขียนโค้ดสำหรับนักพัฒนาโปรแกรม 5. สรุปและแปลข้อมูลต่าง ๆ ที่มีปริมาณมาก ๆ 6. สร้างและแก้ไขสคริปต์สำหรับบทภาพยนตร์และละคร 7. เขียนนิยายและสารคดีต่าง ๆ 8. สร้างคำอธิบายสินค้าและเนื้อหาอื่น ๆ สำหรับธุรกิจออนไลน์ 9. สร้างเนื้อหาและหลักสูตรต่าง ๆ ในการเรียนหรืออบรม 10. สร้างเนื้อหาและเอกสารการประชาสัมพันธ์สำหรับองค์กร
ทั้งนี้ ไม่ได้หมายความว่า ChatGPT จะสามารถทำงานแทนตัวเราเองได้ทั้งหมด แต่เป็นผู้ช่วยงานที่ดีมากโดยเฉพาะการร่างเนื้อหาหรือช่วยคิดงานต่าง ๆ จำได้ว่าตอนต้นปี ผมไปประชุมร่วมกับหน่วยงานหนึ่ง เพื่อปรึกษาหารือเรื่องของการทำหลักสูตรฝึกอบรมด้วยกัน นอกเหนือจากพาทีมงานไปแล้ว ผมยังเปิดคอมพิวเตอร์ฉายขึ้นจอใหญ่และเปิดโปรแกรม ChatGPT เพื่อให้ช่วยออกแบบและพัฒนาเนื้อหาหลักสูตรไปพร้อมกันด้วย
สิ่งที่น่าทึ่งคือ ChatGPT ช่วยเขียนเนื้อหาหลักสูตร สรุปคำนำ วัตถุประสงค์ของหลักสูตรได้ดีมาก จนผู้บริหารหน่วยงานนั้นตกใจและบอกว่า ต่อไปถ้าเขาสั่งงานลูกน้องในออฟฟิศ แต่ถ้าทีมงานใช้ ChatGPT มาช่วยในการส่งงานเขาจะทำอย่างไรดี เพราะบางอย่างก็ยังมีข้อผิดพลาดไม่สมบูรณ์ทั้งหมด โดยเฉพาะการใช้กับภาษาไทย บางคนคิดไปถึงว่าจะห้ามลูกน้องใช้ในการทำงาน
ล่าสุด โรงเรียนในนิวยอร์ก สั่งบล็อกเว็บไซต์ ChatGPT บนอุปกรณ์และเครือข่ายของโรงเรียน และก็มีโรงเรียนในอีกหลายรัฐในสหรัฐอเมริกาที่ออกกฎแบบเดียวกัน เนื่องจากกังวลเกี่ยวกับผลกระทบด้านลบต่อการเรียนรู้ของนักเรียน ซึ่งก็อาจจะจริงเพราะ ChatGPT สามารถทำงานหลายอย่างแทนเด็กนักเรียนได้ เช่น การเขียนเรียงความ การทำการบ้าน ซึ่งจากการทดสอบก็พบว่า ChatGPT สามารถทำงานเหล่านั้นได้ดีเทียบเท่ากับเด็กระดับต้น ๆ ในชั้นเรียนเลยทีเดียว
ถ้าเด็กนักเรียนนำ ChatGPT มาใช้งานและส่งการบ้านทันทีโดยไม่มีการเรียบเรียงใหม่ ก็อาจถือว่าเป็นการทุจริตและไม่เป็นประโยชน์ต่อนักเรียนในระยะยาว เพราะจะทำให้นักเรียนไม่ได้เรียนรู้ด้วยตัวเอง เหมือนเป็นการคัดลอกข้อความที่ได้จากการค้นหาและพบเจอใน Google แล้วนำมาส่งงานโดยทันที ขาดการคิดวิเคราะห์ที่ดี หรือบางคนไม่แม้แต่จะอ่านข้อความที่คัดลอกมา
อย่างไรก็ตาม เราคงไม่สามารถที่จะหยุดยั้งนักเรียนหรือพนักงานในออฟฟิศของเราให้ใช้ ChatGPT แม้เราจะบล็อกเว็บไซต์ในโรงเรียนหรือที่ทำงาน แต่เขาก็สามารถใช้งานจากที่บ้านหรือที่อื่น ๆ หรือแม้แต่จากมือถือผ่านเครือข่ายอื่น ๆ ได้ สุดท้ายแล้วเราควรจะต้องสอนให้นักเรียนหรือพนักงานทำงานร่วมกันกับ ChatGPT เราต้องคิดว่า ChatGPT เป็นเครื่องมือช่วยในการเรียนรู้และการทำงานให้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
เมื่อครั้งที่ กูเกิล เข้ามาบางคนก็อาจไม่ชอบเพราะข้อมูลที่ค้นหามามีทั้งผิดและถูก โดยหลายเรื่องมีที่ผิดอยู่จำนวนมาก แต่สุดท้ายแล้วเราก็ต้องสอนทักษะให้กับนักเรียน เพื่อให้สามารถคิดเชิงวิพากษ์ และแยกแยะข้อมูลให้ได้ว่าข้อมูลชุดใดถูกต้อง เช่นกันกับ Wikipedia เมื่อมาใหม่ ๆ คนก็กังวลที่จะใช้งานเพราะห่วงเรื่องความถูกต้องของข้อมูล แต่เวลาผ่านไปมีคนเข้ามาใช้งานเพิ่มขึ้น มีคนมาช่วยกันตรวจสอบความถูกต้องและแก้ไขให้ดีขึ้นเรื่อย ๆ จนในปัจจุบันกลายเป็นคลังความรู้ขนาดใหญ่ที่มาแทนที่สารานุกรม (Encyclopedia) แบบเดิม
ChatGPT ยังสร้างเนื้อหาที่ไม่ถูกต้องอยู่มาก และบางครั้งเราสามารถสร้างเนื้อหาที่ผิด ๆ ตามที่เราคิดได้ เพราะถ้าเราตั้งคำถามหรือป้อนข้อมูลที่ผิดเข้าไป ChatGPT ก็จะพยายามตอบคำถามให้สอดคล้องกับสิ่งที่เราต้องการ ChatGPT เป็นโปรแกรมเอไอยังขาดการคิดเชิงวิพากษ์ที่ดี ยังขาดชีวิตจิตใจที่เหมือนมนุษย์
ดังนั้นทักษะที่สำคัญที่เราควรจะสอนนักเรียนหรือพนักงานในหน่วยงานให้สามารถทำงานร่วมกับเทคโนโลยีในอนาคต ก็คือทักษะทางสังคม (Soft Skill) ต่าง ๆ ทั้งความฉลาดทางอารมณ์ ทักษะการสื่อสาร ทักษะการพูดโน้มน้าวจิตใจ ทักษะการฟัง ทักษะการบริหารคน ภาวะผู้นำ การปรับตัว ความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น ทักษะการทำงานเป็นทีม และที่สำคัญยิ่งคือ ทักษะการคิดเชิงวิพากษ์และการแก้ปัญหา ซึ่งจำเป็นสำหรับความสำเร็จทางวิชาการและการใช้ชีวิต
และเราคงต้องยอมรับว่า โลกได้เปลี่ยนไปแล้ว มนุษย์ต้องใช้ชีวิตและทำงานร่วมกับเทคโนโลยีเอไออย่าง ChatGPT เราไม่สามารถหยุดยั้งการพัฒนาเหล่านี้ได้ เราต้องสอนทักษะให้ทุกคนอยู่ร่วมกับความก้าวหน้าเทคโนโลยีให้ได้ และต้องเน้นสอนให้เด็ก ๆ มีทักษะในด้านที่เทคโนโลยีเอไอไม่สามารถทำได้ดีเท่ามนุษย์แล้วพวกเขาจะเป็นคนทำงานที่เก่งในอนาคต
บทความโดย ธนชาติ นุ่มนนท์
————————————————————————————————————————————————————————
ที่มา : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ / วันที่เผยเเพร่ 20 ม.ค. 2566
Link : https://www.bangkokbiznews.com/tech/gadget/1048911