ผู้ร่วมไว้อาลัยชุมนุมกันที่เมืองซามารา ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของรัสเซีย เมื่อวันอังคาร (3 ม.ค.) ในพิธีรำลึกถึงทหารรัสเซีย 63 คน ซึ่งกระทรวงกลาโหมรัสเซียระบุว่า เสียชีวิตในเมืองมาคีอีฟกา ในแคว้นโดเนตสก์ ของยูเครน ภายหลังยูเครนยิงจรวดหลายลำกล้อง HIMARS ถล่มใส่เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม
กลุ่มชาตินิยมและสมาชิกสภารัสเซียบางคนเรียกร้องให้ลงโทษผู้บังคับบัญชาทหารที่ปล่อยให้มีการจัดเก็บเครื่องกระสุนในอาคารเดียวกับที่เป็นค่ายพัก ส่งผลให้ทหารรัสเซียเสียชีวิตถึง 63 นาย หลังถูกยูเครนใช้เครื่องยิงจรวด HIMARS ผลิตในสหรัฐฯ ถล่มใส่ ขณะที่เซเลนสกี ชี้รัสเซียเตรียมเปลี่ยนยุทธวิธีใช้โดรนอิหร่านโจมตียูเครนเพื่อเดินหน้ากดดันเคียฟหลังจากเพลี่ยงพล้ำในการต่อสู้ในสนามรบตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา
ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี กล่าวระหว่างปราศรัยเมื่อคืนวันจันทร์ (2 ม.ค.) ว่า ยูเครนได้รับข้อมูลมาว่า รัสเซียกำลังวางแผนโจมตีระยะยาวด้วยโดรนติดระเบิดที่ผลิตโดยอิหร่าน โดยมีเป้าหมายเพื่อทำลายการต้านทานของยูเครน ด้วยการทำให้ประชาชน กองทัพอากาศ และพลังงานของยูเครนอ่อนล้า
ทั้งนี้ ระบบป้องกันภัยทางอากาศที่ตะวันตกจัดหาให้ยูเครนทำให้เครื่องบินรบของรัสเซียโจมตีด้วยขีปนาวุธได้ยากขึ้น แต่โดรนติดระเบิดที่ผลิตในอิหร่านเป็นอาวุธที่มีต้นทุนต่ำและสร้างความหวาดกลัวทั้งในหมู่ทหารและพลเรือน
ทางด้านสถาบันเพื่อการศึกษาสงครามระบุว่า ปูตินกำลังพยายามเสริมสร้างการสนับสนุนในบรรดาบุคคลสำคัญในรัสเซีย
กลุ่มคลังสมองซึ่งตั้งฐานอยู่ในสหรัฐฯ แห่งนี้สำทับว่า การโจมตีทางอากาศและการโจมตีด้วยขีปนาวุธของรัสเซียไม่ได้ทำให้เกิดผลลัพธ์ในแง่ข้อมูลต่อกลุ่มชาตินิยมในรัสเซียตามที่เครมลินต้องการ และความล้มเหลวของกองทัพรัสเซียจะทำให้ความพยายามของปูตินในการเอาใจชุมชนที่สนับสนุนสงครามซับซ้อนยิ่งขึ้น
นอกจากนั้น เซเลนสกียังเตือนว่า ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้าอาจมีการโจมตีไม่หยุดหย่อนตลอดคืน และสำทับว่า ระหว่าง 2 วันแรกของปีใหม่ที่รัสเซียส่งโดรนโจมตีเมืองต่าง ๆ และโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานตลอดคืนนั้น กองทัพยูเครนสามารถยิงโดรนที่ผลิตในอิหร่านร่วงกว่า 80 ลำ
ขณะเดียวกัน สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน กำลังหาวิธีฟื้นความเชื่อมั่นของสาธารณชนที่มีต่อความพยายามในการทำสงครามที่ผิดพลาด หลังจากในช่วงหลายเดือนมานี้กองกำลังมอสโกถูกยูเครนตอบโต้ด้วยอาวุธที่ตะวันตกจัดหาให้ ส่งผลให้มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับศักยภาพของกองทัพรัสเซีย
เหตุการณ์ที่น่าอับอายล่าสุดสำหรับเครมลินคือ การที่กองกำลังเคียฟยิงจรวดใส่ค่ายทหารรัสเซียในแคว้นโดเนตสก์ทางตะวันออกของยูเครน ทำให้ทหารรัสเซียเสียชีวิต 63 นาย ซึ่งถือเป็นหนึ่งในการโจมตีที่สร้างความเสียหายให้กองทัพรัสเซียมากที่สุดนับจากเปิดฉากบุกยูเครนเมื่อกว่า 10 เดือนที่แล้ว
เหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้นในวันส่งท้ายปีเก่าที่เมืองมาคีอีฟกา สร้างความไม่พอใจอย่างยิ่งให้กลุ่มชาตินิยมและสมาชิกสภารัสเซียบางคนที่เรียกร้องให้ลงโทษผู้บัญชาการทหารที่ละเลยอันตราย เนื่องจากในค่ายทหารที่ถูกโจมตีด้วยระบบจรวดหลายลำกล้อง HIMARS ที่ผลิตในอเมริกานั้น เป็นอาคารเก่าของโรงเรียนอาชีวะ และมีการจัดเก็บเครื่องกระสุนไว้ด้วย ทั้งที่บรรดาผู้บัญชาการรู้ดีว่า ที่ตั้งดังกล่าวอยู่ภายในระยะการโจมตีของจรวดยูเครน
สำหรับสถานการณ์การสู้รบล่าสุดนั้น คีรีโล ทีโมเชนโก รองประธานสำนักงานประธานาธิบดียูเครน อ้างว่า รัสเซียโจมตีเมืองดรุซคิฟกาในแคว้นโดเนตสก์ด้วยขีปนาวุธเมื่อคืนวันจันทร์ ทำให้มีผู้บาดเจ็บ 2 คน และสนามฮอกกี้น้ำแข็งที่เป็นโรงเรียนฮอกกี้และสเก็ตลีลาใหญ่ที่สุดของยูเครนได้รับความเสียหาย
นอกจากนี้ เมื่อคืนวันจันทร์รัสเซียยังโจมตีแคว้นคาร์คีฟทางตะวันออกเฉียงเหนือและดนิโปรเปตรอฟสก์ทางตะวันออกเฉียงใต้ด้วยปืนใหญ่
ยาโรสลาฟ ยานูเชวิช ผู้ว่าการแคว้นเคียร์ซอน เผยว่า รัสเซียยิงปืนใหญ่ถล่มพื้นที่ทางใต้เมื่อวันจันทร์ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 คน และบาดเจ็บ 9 คน เฉพาะเมืองเคียร์ซอนนั้นถูกรัสเซียยิงถล่มถึง 32 ครั้ง
(ที่มา : เอเอฟพี, รอยเตอร์, เอพี)
————————————————————————————————————————————————————————————————–
ที่มา : ผู้จัดการออนไลน์ / วันที่เผยแพร่ 4 ม.ค. 2566
Link : https://mgronline.com/around/detail/9660000000705