โอมชินริเกียว กลุ่มก่อการร้ายคราบลัทธิคลั่ง “วันสิ้นโลก” กับนิวเคลียร์หลังสงครามเย็น

Loading

  โอมชินริเกียวโจมตีญี่ปุ่นด้วยการใช้ก๊าซซารินในกรุงโตเกียว เมื่อวันที่ 20 มีนาคม ค.ศ. 1995 / AFP PHOTO / Junji KUROKAWA   โอมชินริเกียว หรือเรียกสั้น ๆ ว่าลัทธิโอมฯ ก่อตั้งขึ้นโดย โชโกะ อาซาฮาร่า มีชื่อจริงว่า ชิซูโอะ มัตสึโมโตะ ชายผู้นี้คือเจ้าลัทธิโอมฯ ที่ได้ก่อวินาศกรรม “ก๊าซซาริน” ในกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อปี ค.ศ. 1995 ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก (อ่านประวัติของอาซาฮาร่า และเหตุการณ์วินาศกรรมเพิ่มเติ่มได้ คลิกที่นี่)   ลัทธิโอมฯ ได้ผสมผสานแนวคิดความเชื่อต่าง ๆ เข้ามาเป็นแก่นของลัทธิตนเอง โดยมีความเชื่อเกี่ยวกับ “วันสิ้นโลก” ที่จะมาถึงในไม่ช้า แนวคิดนี้อาซาฮาร่านำมาจากหลากหลายความเชื่อ ทั้งจากแนวคิดทางศาสนาและไม่เกี่ยวกับศาสนา เช่น แนวคิดพระศิวะกับการทำลายล้างโลก คำทำนายของนอสตราดามุส และวันพิพากษาของศาสนาอื่น ๆ โดยอาซาฮาร่าสั่งสอนลูกศิษย์ของเขาว่าหากต้องการหลีกเลี่ยงวันสิ้นโลกจะต้องหันมานับถือลัทธิโอมฯ   อย่างไรก็ตาม อาซาฮาร่าไม่ได้ทำให้ลัทธิโอมฯ…

‘ปัญญาประดิษฐ์’ พ่วง ‘ภาพถ่ายดาวเทียม’ ฮีโร่ช่วยคนยากยามวิกฤต

Loading

Targeting Aid with AI and Satellites   ด้วยขุมพลังของภาพถ่ายดาวเทียม ประสานกับเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ กลายเป็นเครื่องมือที่ประเทศต่าง ๆ สามารถนำมาใช้ในการระบุพิกัดและช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยากในช่วงวิกฤตได้   ผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์พายุเฮอร์ริเคนในฟลอริดาและเปอร์โตริโกได้รับเงินช่วยเหลือเยียวยา โดยมีการใช้ข้อมูลจากดาวเทียมและระบบปัญญาประดิษฐ์เพื่อช่วยกำหนดเป้าหมายของผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือมากที่สุด ซึ่งเป็นวิธีเดียวกันที่เคยใช้ในประเทศโตโก ในช่วงที่เกิดการระบาดของโควิด-19 มาแล้ว   อีไล โควมาโค ช่างก่อสร้าง จากประเทศโตโก เล่าว่าเมื่อเกิดการระบาดใหญ่ของโควิด-19 ในปี 2020 ธุรกิจในเมืองหลวงโลเมต้องหยุดชะงัก เขาบอกว่าในตอนนั้น “หากไม่มีงานจากลูกค้า เราไม่สามารถทำงาน รวมถึงหารายได้เล็กน้อยเพื่อเลี้ยงครอบครัวได้ สิ่งนี้สร้างความเสียหายให้กับเราอย่างมาก”   ผู้คนนับล้านทั่วโลกต้องเผชิญกับปัญหาความยากจนไม่ต่างจากโควมาโค รัฐบาลพยายามหาวิธีเพื่อบรรเทาและมอบความช่วยเหลือ   แต่คำถามสำคัญสำหรับประเทศโตโก ที่มีประชากรจำนวนมากกว่า 8 ล้านคน คือ ภาครัฐจะระบุตำแหน่งของผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือมากที่สุดได้อย่างไร?   Terran Orbital Aids Successful Demonstration of Record-Breaking 1.4 Terabyte Single-Pass Optical Downlink…

ผู้เชี่ยวชาญพบ “ซากประตูลับ” มากกว่า 130 บานบนกำแพงเมืองจีน

Loading

  ทีมวิจัยระบบการป้องกันของกำแพงเมืองจีน ซึ่งถูกยกให้เป็นหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ของโลก เผยการค้นพบซากประตูที่ถูกซ่อนอยู่กว่า 130 บานบนกำแพงเมืองจีน เมื่อไม่นานมานี้ ผ่านการถ่ายภาพต่อเนื่อง ที่มีความละเอียดเกือบระดับเซนติเมตร   สำนักข่าวซินหัวรายงานเทศบาลนครเทียนจิน เมื่อวันที่ 5 ม.ค. ว่า ทีมงานทำการวิเคราะห์รูปภาพเพิ่มเติมและลงพื้นที่สำรวจประตูลับดังกล่าว และพบว่าประตูลับแต่ละบานออกแบบมาให้เข้ากันได้ดีกับภูมิประเทศในท้องถิ่น ในอดีตเส้นทางลับเหล่านี้มีไว้เป็นทางผ่านของทหารสอดแนม ขณะที่บางเส้นทางถูกสร้างขึ้น เพื่อเป็นช่องทางติดต่อสื่อสารระหว่างพื้นที่ภายในและภายนอกกำแพงเมืองจีน หรือเพื่อการค้าและการพาณิชย์สมัยโบราณ   เอกสารทางการบางฉบับที่มีอายุย้อนกลับไปสมัยราชวงศ์หมิง (ปี 1368-1644) ระบุว่า ชนเผ่าเร่ร่อนได้รับอนุญาตให้ใช้งานประตูลับข้างต้น เพื่อการเลี้ยงปศุสัตว์ระหว่างภูมิภาคชิงไห่และเหอเท่า ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีน ซึ่งเป็นพื้นที่ซึ่งมีทรัพยากรน้ำและหญ้าอุดมสมบูรณ์ในห้วงเวลานั้น       จางอวี้คุน ศาสตราจารย์ประจำมหาวิทยาลัยเทียนจิน ซึ่งเป็นหัวหน้าทีมวิจัย กล่าวว่า การเลี้ยงปศุสัตว์ข้างต้น มีหลักฐานยืนยันเป็นประตูลับขนาดใหญ่บางส่วน ที่สามารถให้ม้าสองตัวเดินผ่านจากทั้งสองทิศทาง ซึ่งทั้งหมดนี้ช่วยพิสูจน์ว่า กำแพงเมืองจีนไม่ได้ปิดสนิท แต่จะ “เปิด” อย่างเป็นระบบ   ก่อนหน้านี้ จีนมีการศึกษาเกี่ยวกับทางลับดังกล่าวน้อยมาก ทว่าการค้นพบครั้งใหม่ สามารถช่วยนำเสนอกลไกทางสถาปัตยกรรมที่สมบูรณ์และเด่นชัดของกำแพงเมืองจีน   ทีมงานยังพบประตูทางออกที่ลึกลับที่สุดของเส้นทางลับเหล่านี้ ซึ่งถูกบันทึกไว้โดยเหล่านักวิชาการในสมัยราชวงศ์ถัง ซ่ง หมิง…

กองทัพเกาหลีใต้ยอมรับ โดรนเกาหลีเหนือล้ำเขตห้ามบินรอบทำเนียบ ปธน.

Loading

  กองทัพเกาหลีใต้ยอมรับว่า โดรนของเกาหลีเหนือรุกล้ำเขตห้ามบินรอบทำเนียบประธานาธิบดีในกรุงโซล ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์เรื่องประสิทธิภาพของระบบป้องกันทางอากาศของประเทศ   เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 5 ม.ค. 2566 กองทัพของประเทศเกาหลีใต้ออกมายอมรับว่า อากาศยานไร้พลขับ หรือ โดรน ของเกาหลีเหนือลำหนึ่ง บินเข้าสู่พื้นที่ทางตอนเหนือของเขตห้ามบินรัศมี 3.7 กม. รอบทำเนียบประธานาธิบดีในกรุงโซล ในตอนที่มันรุกล้ำน่านฟ้าของประเทศเมื่อปลายเดือนก่อน   เจ้าหน้าที่กองทัพบอกกับสำนักข่าว ยอนฮัป ของเกาหลีใต้ว่า โดรนลำนี้บินรุกล้ำชายขอบทางตอนเหนือของเขตห้ามบินเป็นระยะเวลาสั้นๆ แต่ไม่ได้เข้าใกล้อาคารความมั่นคงสำคัญใด ๆ   ทั้งนี้ โดรนดังกล่าวเป็นหนึ่งในอากาศยานไร้คนขับของเกาหลีเหนือ 5 ลำ ที่บินรุกล้ำชายแดนเข้าสู่น่านฟ้าของเกาหลีใต้เมื่อ 26 ธ.ค. 2565 จนทำให้กองทัพเกาหลีใต้ต้องส่งเครื่องบินขับไล่และเฮลิคอปเตอร์จู่โจมออกปฏิบัติการ อย่างไรก็ตาม กองทัพไม่ได้ยิงทำลายโดรนฝูงนี้ และปล่อยให้มันบินในน่านฟ้าของประเทศนานหลายชั่วโมง   การรุกล้ำน่านฟ้าของโดรนฝูงนี้ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ระบบป้องกันทางอากาศของประเทศขึ้นในเกาหลีใต้ ในขณะที่เกาหลีเหนือแสดงท่าทีคุกคามมากขึ้นด้วยการเร่งพัฒนาเทคโนโลยีขีปนาวุธ และทดสอบยิงมิสไซล์มากครั้งที่สุดในประวัติศาสตร์เมื่อปีที่ผ่านมา   “การรุกล้ำเขตแดนของโดรนเปิดเผยให้เห็นความไม่พร้อมของเกาหลีใต้ในการตรวจจับ, ติดตาม และยิงทำลายโดรนขนาดเล็กเช่นนี้” ยอนฮัประบุ   เหตุการณ์ดังกล่าวยังทำให้ประธานาธิบดี ยูน ซุก-ยอล ขู่ระงับสนธิสัญญาทางทหารที่ทั้งสองฝ่ายทำไว้ในปี 2561 ซึ่งกำหนดให้หยุดพฤติกรรมเป็นปรปักษ์,…

ป่วนรับ 19 ปีไฟใต้ วางระเบิด 6 ลูกบึ้มเสาไฟฟ้าแรงสูง

Loading

  คนร้ายลอบวางระเบิดแสวงเครื่องผูกติดขาเสาไฟฟ้าแรงสูงในพื้นที่ อ.ยะรัง ปัตตานี ระเบิดไปแล้ว 2 ลูก ที่เหลืออีก 4 ลูก เจ้าหน้าที่เข้าเก็บกู้ได้สำเร็จ พบเป็นระเบิดถังแก๊สขนาดเล็ก จุดระเบิดด้วยการตั้งเวลา คาดตั้งใจป่วนวันครบรอบ 19 ปีไฟใต้ ส่วนที่ อ.ทุ่งยางแดง คนร้ายซุ่มยิง ผอ.กองช่าง อบต.ตะโละแมะนา ได้รับบาดเจ็บ ขณะเดินทางไปเยี่ยมบ้านแม่ พร้อมภรรยาและลูก   สถานการณ์ความรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ยังคงเกิดขึ้นต่อเนื่อง โดยเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 5 ม.ค.66 เจ้าหน้าที่กำลังผสม พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดอีโอดี (ชุดเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด) ได้เข้าสอบตรวจสอบตามที่รับแจ้งมีวัตถุระเบิดแสวงเครื่องที่ผูกติดกับเสาไฟฟ้าแรงสูง จำนวน 2 ต้นในพื้นที่บ้านกาแลสะนอ หมู่ 3 ต.คลองใหม่ อ.ยะรัง จ.ปัตตานี   โดยจุดแรกที่เสาไฟฟ้าต้นที่ 1 หมายเลข 28/2 พบร่องรอยการระเบิดขาเสาไฟฟ้า จำนวน 2 ขา และพบระเบิดแสวงเครื่อง 1 ลูก ถูกมัดอยู่ที่ขาเสาไฟฟ้าที่ยังไม่ระเบิด เนื่องจากระเบิดทำงานไม่สมบูรณ์…

หน่วยงานฝรั่งเศส สั่งปรับ Apple 8 ล้านยูโร เหตุใช้ Targeted Ad ใน App Store โดยไม่ขอผู้ใช้งานก่อน

Loading

  หน่วยงานกำกับดูแล National Commission for Informatics and Liberty ของฝรั่งเศส หรือ CNIL สั่งปรับแอปเปิล เป็นเงิน 8 ล้านยูโร ระบุว่าทำผิดแอปเปิล เนื่องจากแอปเปิลไม่มีการขออนุญาต (consent) ผู้ใช้งานในฝรั่งเศสก่อน เพื่อแสดงโฆษณาแบบเจาะจง (Targeted Ad)   รายละเอียดระบุว่าแอปเปิลเก็บข้อมูลผู้ใช้งาน เพื่อใช้แสดงโฆษณา ซึ่งกำหนดไว้เป็นค่าเริ่มต้น และหากต้องการปิดการทำงาน จะต้องทำหลายขั้นตอนมากในส่วน Settings และ Privacy ทั้งนี้ปัญหาดังกล่าวพบใน App Store บน iOS เวอร์ชันต่ำกว่า 14.6   อย่างไรก็ตามตัวแทนของแอปเปิล ได้ชี้แจงต่อ Fortune ว่าบริษัทผิดหวังกับคำตัดสิน และเตรียมยื่นอุทธรณ์ โดยยืนยันว่าการแสดงโฆษณาสำหรับผู้ใช้งานแต่ละคนนั้น บริษัทใช้ข้อมูลของแอปเปิลเองเท่านั้นในการเลือกโฆษณาแสดง ไม่ได้ใช้ข้อมูลผู้ใช้งาน รวมทั้งไม่ได้ใช้ข้อมูลแทร็กจาก 3rd party ผู้ใช้งานสามารถเลือกเปิดให้ใช้ข้อมูลส่วนตัวประมวลผลได้โดยกำหนดเอง ซึ่งความเป็นส่วนตัวเป็นสิ่งที่แอปเปิลให้ความสำคัญเป็นพื้นฐาน     ที่มา:…