ส่องเทรนด์ ‘ภัยคุกคาม’ รับมือ อาชญากรรมไซเบอร์ทวีคูณ

Loading

  ไซเบอร์ซิเคียวริตี้ เป็นสิ่งที่องค์กรต้องรับมืออย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ การขับเคลื่อนป้องกันต้องมี 3 องค์ประกอบที่สำคัญคือ People, Process และ Technology   ช่วง 2 ปีที่ผ่านมา การทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันเติบโตอย่างรวดเร็ว เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญในการช่วยพัฒนาธุรกิจให้เติบโตแบบก้าวกระโดด   ขณะเดียวกัน มีการนำข้อมูลมาวิเคราะห์เพื่อส่งเสริมการตลาด ทำความเข้าใจลูกค้า อีกทางหนึ่งการทำงานของคนก็เปลี่ยนไปเป็นแบบรีโมทมากขึ้น ส่งผลทำให้องค์กรทุกขนาดต้องปรับตัววางแผนการทำงานผ่านคลาวด์   ข้อมูลโดยบริษัทวิจัยการ์ทเนอร์ ระบุว่า ปี 2568 องค์กรทั่วโลกจะใช้จ่ายกับคลาวด์มากขึ้น 20.4% ขณะที่ประเทศไทยจะเติบโตขึ้นถึง 36.6%   ปิยธิดา ตันตระกูล ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท เทรนด์ไมโคร (ประเทศไทย) จำกัด เปิดมุมมองว่า ไซเบอร์ซิเคียวริตี้จะเป็นกลจักรสำคัญในการขับเคลื่อนองค์กรในอนาคต   เมื่อโครงสร้างพื้นฐานเดินหน้าไปสู่การใช้คลาวด์ ระบบซิเคียวริตี้จะยื่งเข้ามามีบทบาทมากขึ้น เนื่องจากองค์กรต่างต้องรักษาความปลอดภัยข้อมูลซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการดำเนินธุรกิจ     รับมือภัยคุกคามไร้ขอบเขต   องค์กรที่จะย้ายไปสู่คลาวด์ จะต้องมีการวางแผนและพร้อมวางรากฐานด้านความปลอดภัยไว้ตั้งแต่เริ่มต้น พร้อมเตรียมรับมือความท้าทายใหม่ๆ ด้านซิเคียวริตี้ที่จะเกิดขึ้นในปี 2566 ดังนี้…

ยูเครนจับกุมสายลับสองหน้า ขายความลับทางทหารให้รัสเซีย

Loading

  หน่วยความมั่นคงยูเครนจับกุมเจ้าหน้าที่ข่าวกรองยศนายพัน พบถ่ายภาพเอกสารรายละเอียดที่ตั้งโครงสร้างทางทหารในภูมิภาคซาโปริซเซียให้รัสเซีย   เมื่อวานนี้ (26 ม.ค.) หน่วยความมั่นคงยูเครน (SBU) รายงานว่า ได้ทำการจับกุมเจ้าหน้าที่ข่าวกรองยศนายพันของ SBU นายหนึ่ง ฐานต้องสงสัยว่า “ก่อกบฏ” ด้วยการเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นความลับทางทหารให้กับผู้ที่อาจมีส่วนเกี่ยวพันกับรัสเซีย   SBU ยังพบของกลางในบ้านของเจ้าหน้าที่ข่าวกรองรายนี้ ทั้งซิมการ์ดที่ออกโดยผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือของรัสเซีย ห่อเงินสดสกุลเงินต่างประเทศ สนับมือ มีด 2 เล่ม และคู่มือเรียนภาษาอังกฤษสำหรับชาวรัสเซีย     เจ้าหน้าที่ข่าวกรองรายนี้ได้ใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายภาพเอกสารที่มีรายละเอียดที่ตั้งของโครงสร้างทางทหารในภูมิภาคซาโปริซเซีย หนึ่งในพื้นที่แนวหน้าของยูเครนที่มีการสู้รบกับรัสเซีย และส่งข้อมูลผ่านบัญชีอีเมลที่ลงทะเบียนในโดเมนของรัสเซีย   พล.ต.วิกเตอร์ ยาฮุน อดีตรองหัวหน้า SBU กล่าวว่า กรณีที่เกิดขึ้นนี้บ่งชี้ว่า ทางการยูเครนจำเป็นต้องตรวจสอบหน่วยงาน SBU อย่างละเอียดถี่ถ้วนและกวาดล้างคนทรยศทั้งหมด ทั้งนี้ เขามองว่า SBU มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดมากเกินไปกับหน่วยความมั่นคงรัสเซีย (FSB) มาอย่างยาวนาน ทำให้ถูกแทรกซึมได้ง่าย   นับตั้งแต่การรุกรานของรัสเซียเมื่อวันที่ 24 ก.พ. ปีที่แล้ว ยูเครนพบเจ้าหน้าที่กว่า 60…

สิงคโปร์บังคับองค์กรต้องลงทะเบียนก่อนส่ง SMS แบบมีชื่อผู้ส่ง ไม่เช่นนั้นจะแสดงชื่อว่า likely-scam

Loading

  สิงคโปร์ขีดเส้นตายว่าทุกองค์กรที่ต้องการส่งข้อความไปยังโทรศัพท์มือถือโดยชื่อผู้ส่งเป็นข้อความ   ดังเช่นที่เราเห็นข้อความจากธนาคารต่าง ๆ จะต้องลงทะเบียนในฐานข้อมูลผู้ส่ง SMS แห่งชาติ (Singapore SMS Sender ID Registry – SSIR)   ไม่เช่นนั้นเครือข่ายโทรศัพท์มือถือจะแสดงชื่อผู้ส่งว่าต้องสงสัยว่าจะเป็นข้อความหลอกลวง หรือ likely-scam แทน มาตรการนี้มีผลวันที่ 31 มกราคมนี้   ตอนนี้มีองค์กรลงทะเบียน SSIR แล้วกว่า 1,200 องค์กร รวมชื่อผู้ส่ง 2,600 ราย โดยก่อนหน้านี้ระบบ SSIR เป็นทางเลือกสำหรับการจองชื่อผู้ส่งเป็นหลัก ทำให้สามารถบล็อก SMS หลอกลวงได้บางส่วน เพราะพยายามใช้ชื่อตรงกับองค์กรในประเทศ และทาง IMDA ระบุว่ากำลังพิจารณาว่าจะเปิดตัวเลือกให้ประชาชนปิดรับ SMS จากต่างประเทศไปทั้งหมดเลยหรือไม่   แนวทางการเปลี่ยนชื่อผู้ส่ง SMS ของสิงคโปร์ คล้ายกับการเติมเลข 697 สำหรับเบอร์โทรศัพท์จากต่างประเทศในไทย อย่างไรก็ดีคนร้ายมักจะเปลี่ยนเทคนิคเพื่อให้หลองลวงได้แนบเนียนยิ่งขึ้น เช่นในไทยเองโทรศัพท์หลอกลวงจำนวนมากก็เป็นเลขหมายในประเทศแล้ว    …

“Hive” แก๊งแรนซัมแวร์ ถูกแฮ็ก โดย “FBI”

Loading

Image Credit : cyware.com   สามารถช่วยเหลือเหยื่อกว่า 300 ราย ซึ่งมีมูลค่ามากกว่า 130 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ให้หลุดพ้นจากกลอุบายจากกลุ่มแรนซัมแวร์ Hive ได้สำเร็จ   ในการแถลงข่าวถึงการปฏิบัติการครั้งนี้ นำโดย Merrick Garland อัยการสูงสุดสหรัฐฯ, Christopher Wray ผู้อำนวยการ FBI และ Lisa Monaco รองอัยการสูงสุดสหรัฐฯ ร่วมกันแถลงว่า   “แฮกเกอร์ของรัฐบาลได้บุกเข้าไปในเครือข่ายของ Hive และทำให้แก๊งนี้อยู่ภายใต้การเฝ้าระวัง โดยปฏิบัติการครั้งนี้เราได้แอบขโมยกุญแจดิจิทัลที่ Hive ใช้เพื่อปลดล็อกข้อมูลขององค์กรที่กำลังตกเป็นเหยื่อ”   หลังปฏิบัติการสำเร็จ เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการแจ้งเตือนผู้ที่ตกเป็นเหยื่อทราบล่วงหน้า เพื่อให้เร่งดำเนินการป้องกันระบบของตนก่อนที่ Hive จะเรียกร้องเงินค่าไถ่ โดยทางเจ้าที่หน้าได้ส่งมอบคีย์สำหรับถอดรหัสแก่เหยื่อในการปลดล็อก ซึ่งหนึ่งในนั้นคือโรงเรียนในเขตเท็กซัส ซึ่งสามารถช่วยได้ทันโดยที่ไม่ต้องจ่ายเงินค่าไถ่จำนวน 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และโรงพยาบาลหลุยเซียน่าจำนวน 3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ นี่เป็นเพียงแค่เหยื่อในบางส่วนเท่านั้นที่ได้รับการช่วยเหลือได้ทัน   Hive เป็นหนึ่งในกลุ่มอาชญากรไซเบอร์ที่มีจำนวนและมีการเคลื่อนไหวมากที่สุดกลุ่มหนึ่งซึ่งขู่กรรโชกธุรกิจระหว่างประเทศด้วยการเข้ารหัสข้อมูลและเรียกร้องการชำระเงินด้วยสกุลเงินดิจิทัลจำนวนมหาศาล ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา…

สหรัฐคว่ำบาตรบริษัทอวกาศจีน ข้อหาส่งภาพดาวเทียมพื้นที่ยูเครนให้รัสเซีย

Loading

    กระทรวงการคลังของสหรัฐประกาศมาตรการคว่ำบาตรรอบใหม่เมื่อวานนี้ (26 ม.ค.) ซึ่งรวมถึงการคว่ำบาตรบริษัทสเปซตี ไชน่า และบริษัทในเครือที่ประเทศลักเซมเบิร์กในข้อหา “จัดหาภาพถ่ายดาวเทียมตำแหน่งที่ตั้งในยูเครน” ให้แก่บริษัทเทคโนโลยีของรัสเซีย ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการทำศึกของกลุ่มวากเนอร์ องค์กรทหารรับจ้างของรัสเซีย ที่ส่งกองกำลังทหารและอดีตนักโทษหลายพันรายบุกยูเครน   แหล่งข่าววงในเปิดเผยกับสำนักข่าวบลูมเบิร์กว่า เจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐเกิดความวิตกมากขึ้นว่า บริษัทจีนหลายแห่งกำลังช่วยเหลือรัสเซียในการโจมตียูเครน โดยสหรัฐได้กล่าวโทษรัฐบาลจีนเกี่ยวกับปัญหาดังกล่าว   นายเจคอบ สโตกส์ อดีตที่ปรึกษาด้านนโยบายการต่างประเทศในรัฐบาลสมัยประธานาธิบดีบารัก โอบามากล่าวว่า เจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐยังคงหยั่งเชิงดูอยู่ว่า จีนจะตอบสนองอย่างไรต่อหลักฐานที่บ่งชี้ว่า บริษัทจีนหลายแห่งกำลังช่วยรัสเซียทำสงคราม   “การที่บริษัทจีนส่อเค้าจะทำอะไรล้ำเส้น ทำให้เกิดคำถามว่าจีนกำลังตั้งใจลองดีกับนโยบายของอเมริกาหรือไม่ หรือจริง ๆ แล้วแค่รัฐบาลจีนไม่มีขีดความสามารถในการกำกับดูแลบริษัทจีนในอุตสาหกรรมต่าง ๆ” นายสโตกส์ กล่าว   อย่างไรก็ดี ไม่มีอะไรบ่งชี้ว่ารัฐบาลจีนรับรู้ถึงบทบาทของบริษัทสเปซตี (หรืออีกชื่อหนึ่งคือ บริษัทสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอวกาศฉางชาเทียนอี้) ในสงครามรัสเซีย-ยูเครน โดยข้อมูลเอกสารทางออนไลน์ของบริษัทระบุว่า สเปซตีเป็น “บริษัทเอกชนแห่งใหม่ด้านอวกาศที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว” ซึ่งผลิต “ดาวเทียมนาโน/ไมโคร/ขนาดเล็กราคาประหยัด” ออกมาเป็นจำนวนมาก       ——————————————————————————————————————————————————————– ที่มา :     …

ญี่ปุ่นตามล่ามือป่วน ส่งแฟกซ์ขู่วางระเบิดโรงเรียนทั่วประเทศ

Loading

    ตำรวจญี่ปุ่นกำลังพยายามระบุตัวบุคคลที่ขู่วางระเบิดโรงเรียนหลายร้อยแห่งทั่วประเทศ รวมถึงขู่สังหารนักเรียนและครูด้วยอาวุธที่ทำเอง   การคุกคามดังกล่าวถูกส่งผ่านทางแฟกซ์เมื่อวันจันทร์และวันอังคารที่ผ่านมา ไปยังโรงเรียนต่าง ๆ ตั้งแต่จังหวัดฮอกไกโดทางตอนเหนือสุดไปจนถึงเมืองฮิโรชิมา ผู้ก่อเหตุยังเรียกร้องค่าไถ่จากโรงเรียนต่าง ๆ เป็นเงิน 3 ล้านเยน (ราว 750,000 บาท) และมหาวิทยาลัย 300,000 เยน (ราว 75,000 บาท) และโอนไปยังบัญชีธนาคารที่ระบุ   ตำรวจเข้าตรวจค้นอาคารเรียนและมหาวิทยาลัย ขณะที่เจ้าหน้าที่ประจำการอยู่นอกทางเข้าสถานที่ต่าง ๆ ตำรวจไม่พบวัตถุระเบิด และไม่มีรายงานการทำร้ายนักเรียน หรือเจ้าหน้าที่   ตำรวจยังเปิดเผยว่า แฟกซ์ทั้งหมดมาจากหมายเลขเดียวกันในกรุงโตเกียว และส่งระหว่างเวลา 03.00-04.00 น.   ขนาดของการขู่กรรโชกได้สร้างความสนใจให้กับหลายฝ่าย แม้ว่าการใช้แฟกซ์จะชี้ให้เห็นว่าความพยายามครั้งนี้ค่อนข้างไม่ซับซ้อน ผู้แสดงความคิดเห็นทางออนไลน์บางคนถึงกับเยาะเย้ยผู้ขู่กรรโชกรายดังกล่าวที่พึ่งพาเทคโนโลยีจากทศวรรษ 1970   ข้อความหนึ่งบนเว็บไซต์ข่าว “เจแปน ทูเดย์” ระบุว่า “การใช้เครื่องแฟกซ์เพื่อขู่วางระเบิดแสดงให้เห็นถึงความเป็นญี่ปุ่น และเป็นสิ่งที่งี่เง่าที่สุดที่เคยพบมาในช่วงเวลาหนึ่ง ฉันไม่สงสัยเลยว่าการสอบสวนจะสิ้นสุดในเวลาอันสั้น และพบว่าผู้ก่อเหตุเป็นบุคคลที่น่ารำคาญ”   จากการให้สัมภาษณ์ในรายการข่าวทางโทรทัศน์ นักเรียนบางคนกล่าวว่า พวกเขากังวลเกี่ยวกับการคุกคาม…