เชื่อว่าคงเป็นหนึ่งในข้อสงสัยของหลายๆ คนที่นิยมใช้งานแอปพลิเคชันธนาคารหรือวอลเลต เพื่อใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน เพราะทุกวันนี้เรามี true money, rabbit line pay หรือแอปของธนาคารต่างๆ สแกนจ่ายกันอย่างสะดวกสบาย
ยังไม่รวมแอปพลิเคชันที่เชื่อมต่อกับบัตรเครดิตหรือหักเงินจากบัตรธนาคารต่างๆ เพื่อใช้จ่ายให้สะดวกขึ้น
แล้วถ้าเกิดวันหนึ่งสมาร์ทโฟนของคุณเกิดหายไป สิ่งแรกที่กังวลอาจจะไม่ใช่แค่ข้อความในแชทหาย แต่เป็นจะจัดการกับแอปธนาคารต่างๆ อย่างไรดี
สิ่งแรกที่ควรต้องทำคือ ตั้งสติให้ดีก่อน จากนั้นก็ยกหูโทรหาผู้ให้บริการเครือข่ายเพื่อแจ้งระงับซิมที่อยู่ในมือถือก่อน เมื่อไม่มีการเชื่อมต่อสัญญาณโทรศัพท์กับแอปธนาคาร ก็ลดความเสี่ยงในการใช้แอปบนมือถือถอนเงินออกไปได้
เบอร์ติดต่อ Call Center แต่ละเครือข่าย
– AIS โทร. 1175
– DTAC โทร. 1678
– True โทร. 1242
ระงับบริการออนไลน์กับธนาคาร
เมื่อโทรแจ้งเครือข่ายแล้ว สิ่งที่ต้องรีบทำเร่งด่วนคือ แจ้งธนาคารของทุกบัญชีที่ผูกไว้กับแอปฯ ในโทรศัพท์ โดยให้แจ้งการระงับบริการออนไลน์หรือ Mobile Banking ทั้งหมด แต่ยังสามารถทำธุรกรรมที่ธนาคาร หรือตู้เอทีเอ็มได้เช่นเดิม
นอกจากนี้ ต้องระบุด้วยว่ายังสามารถใช้จ่ายผ่านตัวบัตรเดบิต/บัตรเครดิตได้เช่นเดิม
สำหรับเบอร์ Call Center ของธนาคารต่างๆ ก็เตรียมจดไว้ได้เลย
-ธนาคารไทยเครดิต โทร. 0-2697-5454
-ธนาคารทิสโก้ โทร. 0-2633-6000
-ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด โทร. 0-2724-4000
-ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย โทร. 0-2169-9999
-ธนาคารออมสิน โทร. 1115
-ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย โทร. 0-2626-7777
-ธนาคารทหารไทยธนชาต โทร. 1428
ยังไม่หมดแค่นั้น เบอร์ธนาคารที่ต้องใช้งานยังมีอีกมาก ตามรายชื่อด้านล่างนี้เลย
-ธนาคารซิตี้แบงก์ โทร. 1588
-ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย โทร. 1357
-ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร โทร. 0-2555-0555
-ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ โทร. 1327
-ธนาคารกรุงเทพ โทร. 1333
-ธนาคารกรุงไทย โทร. 0-2111-1111
-ธนาคารอาคารสงเคราะห์ โทร. 0-2645-9000
-ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย โทร. 1302
-ธนาคารไอซีบีซี โทร. 0-2629-5588
-ธนาคารกรุงศรีอยุธยา โทร. 1572
-ธนาคารกสิกรไทย โทร. 0-2888-8888
-ธนาคารเกียรตินาคินภัทร โทร. 0-2165-5555
-ธนาคารไทยพาณิชย์ โทร. 0-2777-7777
-ธนาคารยูโอบี โทร. 0-2285-1555
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่จัดการแจ้งระงับการใช้บริการเครือข่ายและธนาคารแล้ว สิ่งที่ต้องทำต่ออีกก็คือการค้นหาโทรศัพท์ที่หายไป
หากใช้ iPhone ก็อาจจะค้นหาด้วยการใช้ฟีเจอร์ Find My Device หรือ Find My iPhone เพื่อเช็กตำแหน่งบนแผนที่ดูว่าโทรศัพท์ของเราอยู่ที่ไหน ส่วนคนใช้แอนดรอยด์อาจจะต้องเข้าเว็บ android.com/find ในเว็บจะอธิบายขั้นตอนได้อย่างชัดเจน
อย่างไรก็ตาม ถ้าอยู่ในกรณีหาโทรศัพท์เครื่องเก่าไม่เจอจริงๆ และต้องซื้อเครื่องใหม่ เราก็ไปติดต่อที่ผู้ให้บริการเครือข่าย ยืนยันตัวตนและหนังสือแจ้งความ เพื่อยืนยันความเป็นเจ้าของเบอร์ไว้ก่อน เผื่อว่าคนที่ขโมยมือถือของเรานำเครื่องไปใช้ทำสิ่งผิดกฏหมาย
เมื่อได้ซิมมาแล้วก็ให้เปิดการใช้งานและล็อกอินเข้าแอปธนาคารอีกครั้ง ซึ่งอาจจะไปทำเรื่องที่ธนาคารเพื่อยืนยันขอเปิดการใช้งานทำธุรกรรมออนไลน์ใหม่ หรือโทรไปที่ Call Center เพื่อยืนยันตัวตนอีกครั้งก็ได้
อย่างไรก็ตาม มือถือไม่หายคือดีที่สุด เพราะยุคสมัยนี้มือถือทำแทนเราได้ทุกอย่างและก็ต้องใช้เวลาอีกสักพักกว่าจะจัดการเครื่องใหม่ให้ทำได้เช่นเดิม
บทความโดย ทีมข่าว SPRiNG NEWS
————————————————————————————————————————————————————————
ที่มา : SPRiNG NEWS / วันที่เผยเเพร่ 27 ม.ค. 2566
Link : https://www.springnews.co.th/digital-tech/technology/834807