“จีน” เตรียมยิงวัตถุลึกลับ ลอยเหนือน่านน้ำทางตอนเหนือซานตง

Loading

    เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นพบวัตถุไม่ระบุว่าคืออะไร ลอยอยู่เหนือน่านน้ำใกล้กับเมืองท่าในทางตอนเหนือซึ่งติดกับทะเลโป๋ไห่ ประเทศจีน และทางการกำลังเตรียมพร้อมยิงมันให้ตกลงมา   สำนักข่าวเดอะเปเปอร์ของเซี่ยงไฮ้ รายงานเมื่อวันอาทิตย์ (12 ก.พ.) ว่า เจ้าหน้าที่จีนเตรียมการยิงวัตถุต้องสงสัย ซึ่งทางสำนักงานพัฒนาทางทะเลเมืองชิงเต่าส่งข้อความถึงเรือประมงว่า ได้ตรวจพบวัตถุลอยเหนือน่านน้ำใกล้กับท่าเรือรือจ้าว ในมณฑลซานตงทางตอนเหนือของประเทศจีน   เรือประมงได้รับแจ้งให้ “หลีกเลี่ยงพื้นที่เสี่ยง” โดยไม่ได้ระบุว่าข้อความถูกส่งเมื่อใดหรือพบเห็นวัตถุเวลาไหน แต่รายงานได้แนะนำให้ผู้ที่พบเศษซากวัตถุดังกล่าวตกบริเวณใกล้เคียงก็ขอให้ถ่ายรูปหรือเก็บชิ้นส่วน และส่งให้ทางการด้วย   สำนักงานพัฒนาทางทะเลเมืองชิงเต่า ยืนยันกับเดอะเปเปอร์ว่า ได้มีการแจ้งเตือนความปลอดภัยไปยังเรือประมงในบริเวณใกล้เคียงจริง แต่ไม่มีการอัปเดตว่าวัตถุดังกล่าวคืออะไร   การตรวจพบวัตถุดังกล่าวมีขึ้น ขณะที่กองทัพปลดปล่อยประชาชนจัดการฝึกซ้อมทางทหารนานหนึ่งสัปดาห์ในช่องแคบโป๋ไห่ ซึ่งเป็นพื้นที่ ที่เชื่อมระหว่างทะเลโป๋ไห่กับตอนเหนือของทะเลเหลือง โดยการฝึกซ้อมดังกล่าวเริ่มขึ้นในวันอาทิตย์ (12 ก.พ.) ตามประกาศที่ออกโดยหน่วยงานความปลอดภัยทางทะเลในเมืองต้าเหลียน เมืองท่าในมณฑลเหลียวหนิง ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือ   นอกจากนี้ยังเกิดขึ้นหนึ่งสัปดาห์หลังจากที่สหรัฐ ยิงสิ่งที่ระบุว่าเป็นบอลลูนสอดแนมของจีน เหนือมหาสมุทรแอตแลนติก   อย่างไรก็ตาม ในวันนี้รัฐบาลปักกิ่งได้ออกมาเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับบอลลูน หลังสหรัฐยิงบอลลูนต้องสงสัยสอดแนมว่า วอชิงตันส่งบอลลูนเข้าน่านฟ้าจีนกว่า 10 ครั้งตั้งแต่ ม.ค.2565          …

เห็นอะไรยิงหมด! สหรัฐฯ สอยร่วงวัตถุบินปริศนาลำที่ 4 คราวนี้มีรูปทรงแปดเหลี่ยม

Loading

    เครื่องบินขับไล่ของกองทัพสหรัฐฯ ในวันอาทิตย์ (12 ก.พ) ยิงร่วงวัตถุบินแปดเหลี่ยมปริศนาลำหนึ่ง เหนือทะเลสาบฮูรอน รัฐมิชิแกน จากการเปิดเผยของเพนตากอน ในเหตุการณ์ล่าสุดนับตั้งแต่บอลลูนลำหนึ่ง ซึ่งต้องสงสัยว่าเป็นบอลลูนสอดแนมของจีน ทำให้กองกำลังด้านความมั่นคงอเมริกาเหนือยกระดับการเฝ้าระวังขั้นสูง   เหตุการณ์ล่าสุดนี้ถือเป็นวัตถุบินปริศนาลำที่ 4 ที่ถูกสหรัฐฯ ใช้ขีปนาวุธยิงตกเหนืออเมริกาเหนือ ในเวลาห่างกันแค่ 1 สัปดาห์เศษ   แพทริค ไรเดอร์ โฆษกของเพนตากอนระบุในถ้อยแถลงอย่างเป็นทางการว่า ตามคำสั่งของประธานาธิบดีโจ ไบเดน เครื่องบินเอฟ-16 ของสหรัฐฯ ได้สอยร่วงวัตถุดังกล่าวตอน 14.42 น.(ตามเวลาท้องถิ่น) เหนือทะเลสาบฮูรอน ตามแนวชายแดนอเมริกา-แคนาดา   แม้ไม่ได้เสี่ยงเป็นภัยคุกคามทางทหาร กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ระบุว่าวัตถุดังกล่าวอาจยุ่มย่ามการสัญจรทางอากาศภายในประเทศ ในระหว่างที่มันเดินทางอยู่ที่ระดับความสูง 20,000 ฟุต (ราว 6,100 เมตร) และบางทีมันอาจเป็นกิจกรรมการสอดแนม   วัตถุนี้ดูเหมือนว่ามีรูปร่างลักษณะ 8 เหลี่ยม มีสายห้อยออกมา แต่จากที่มองเห็นด้วยตาเปล่าไม่บรรทุกอุปกรณ์ใดื ๆ ตามการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ รายหนึ่งซึ่งไม่ประสงค์เอ่ยนาม  …

ยามฝั่งปินส์โวยถูกเรือรบจีนคุกคาม ฉายแสงเลเซอร์ทางทหารใส่จนหน้ามืด

Loading

    ยามฝั่งปินส์โวยถูกเรือรบจีนคุกคาม – วันที่ 13 ก.พ. เอพีรายงานว่า ทางการฟิลิปปินส์เปิดเผยว่าเรือยามฝั่งถูกเรือรบของจีนฉายแสงเลเซอร์ทางทหารใส่เพื่อคุกคามในพื้นที่พิพาททะเลจีนใต้ ถือเป็นการละเมิดอธิปไตยของฟิลิปปินส์อย่างชัดเจน   แถลงการณ์ของหน่วยยามฝั่งฟิลิปปินส์ ระบุว่า เรือรบลำดังกล่าวของจีนยังแล่นเข้ามาใกล้ในระดับอันตราย โดยห่างจากเรือลาดตระเวนของยามฝั่งฟิลิปปินส์ไปเพียง 137 เมตร เพื่อขัดขวางไม่ให้เรือยามฝั่งปฏิบัติหน้าที่ต่อ     เหตุข้างต้นเกิดขึ้นเมื่อ 6 ก.พ. บริเวณแนวสันดอนโทมัสที่ 2 เป็นแนวปะการังใต้น้ำที่อยู่ภายใต้การดูแลของกองทัพฟิลิปปินส์ โดยพฤติกรรมรุกล้ำของจีนนั้นทางการฟิลิปปินส์เคยยื่นจดหมายประท้วงไปแล้วเกือบ 200 ครั้ง เฉพาะเมื่อปี 2565   รายงานระบุว่า ทางการจีนอ้างว่าทะเลจีนใต้ทั้งหมดนั้นอยู่ภายใต้อำนาจอธิปไตยของจีนส่งผลให้เกิดข้อพิพาทกับชาติใกล้เคียงหลายชาติ แม้ประธานาธิบดีเฟอร์ดินันด์ มากอส จูเนียร์ ผู้นำฟิลิปปินส์จะมีจุดยืนส่งเสริมความสัมพันธ์กับจีน แต่ก็ยังรักษาสมดุลสัมพันธ์กับสหรัฐอเมริกาไว้   พลเรือจัตวาอาร์มันด์ บาลิโล โฆษกยามฝั่งฟิลิปปินส์ กล่าวว่า เรือของฝ่ายจีนเคยพยายามขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของเรือยามฝั่งฟิลิปปินส์มาตลอดหลายครั้ง แต่ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่เรือจีนใช้แสงเลเซอร์ทางทหารฉายเข้าใส่ทำให้เจ้าหน้าที่ยามฝั่งได้รับผลกระทบทางร่างกาย       “เรือจีนฉายแสงเลเซอร์สีเขียวเข้าใส่เรือ บีอาร์พี มาลาปาสกัว เป็นจำนวน 2 ครั้ง…

ฮุน เซน สั่งปิดสื่ออิสระกัมพูชา “วีโอดี” อ้างทำลายชื่อเสียงรัฐบาล

Loading

    สมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชาสั่งปิดหนึ่งในสื่ออิสระแห่งสุดท้ายของประเทศ เพียงไม่กี่เดือนก่อนการเลือกตั้งของประเทศ นายฮุน เซน กล่าวในโพสต์บนเฟซบุ๊กเมื่อวันอาทิตย์ว่า “วีโอดี” (VOD) หรือ “วอยซ์ ออฟ เดโมเครซี” (Voice of Democracy) ได้เผยแพร่เรื่องราวที่ทำลายชื่อเสียงของรัฐบาลเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยปฏิเสธที่จะยอมรับคำขอโทษของกลุ่ม และสั่ง ยกเลิกใบอนุญาตในวันจันทร์   ผู้สนับสนุนกล่าวว่าการสูญเสียวีโอดี ได้สร้างผลกระทบครั้งใหญ่ต่อสื่อมวลชนของประเทศ บรรณาธิการของวีโอดียืนยันว่า ตำรวจมาถึงสำนักงานในกรุงพนมเปญในเช้าวันจันทร์ พร้อมกับคำสั่งเพิกถอนใบอนุญาตประกอบกิจการ เจ้าหน้าที่ยืนยันว่า การเข้าถึงเนื้อหาที่ผ่านมาในเว็บไซต์ภาษาเขมรและภาษาอังกฤษของวีโอดีก็ถูกบล็อกโดยผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตบางราย   อานันธ์ บาลิกา รองบรรณาธิการกล่าวกับบีบีซีเมื่อวันจันทร์ว่า ผู้คนต่างตกตะลึงกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น เพราะทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก นับตั้งแต่เมื่อเรื่องราวถูกเผยแพร่ไปจนถึงการระงับใบอนุญาต   เมื่อวันอาทิตย์ ฮุน เซน กล่าวว่า เขากำลังดำเนินการปิดเว็บไซต์วีโอดี หลังจากเผยแพร่เรื่องราวเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือของกัมพูชาต่อเหตุแผ่นดินไหวที่ตุรกี โดยรายงานเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ ระบุว่า นายฮุน มาเนต ลูกชายคนโตของเขาได้เซ็นชื่อปิดท้ายการส่งสิ่งของให้ความช่วยเหลือมูลค่า 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ   ฮุน…

ธปท.ชงมาตรการเพิ่ม Biometric บนโมบายแบงกิ้ง ป้องกันบัญชีม้า-ฟอกเงิน

Loading

    ธนาคารแห่งประเทศไทยและสถาบันการเงินเห็นพ้องเรื่องการเพิ่มมาตรการยืนยันตัวตน ผ่านเทคโนโลยี Biometric Comparison หลังพบข้อมูลการทุจริตจากบัญชีม้าและธุรกรรมต้องสงสัย แต่จะจัดทำโดยไม่ขัดต่อกฏหมาย PDPA   นางสาวสิริธิดา พนมวัน ณ อยุธยา ผู้ช่วยผู้ว่าการสายนโยบายระบบการชำระเงินและเทคโนโลยีทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศ (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท. และสถาบันการเงินอยู่ระหว่างเตรียมการเพื่อให้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลการทุจริต และบัญชีม้าระหว่างกัน   โดยคาดว่าจะสามารถเริ่มดำเนินการได้ หลังจากร่างพระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี มีผลบังคับใช้ โดยร่าง พ.ร.ก. ดังกล่าว กำหนดให้สถาบันการเงินและผู้ประกอบธุรกิจ สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับบัญชีและธุรกรรมของลูกค้าที่ต้องสงสัยได้ โดยไม่ขัดตาม พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล   ทั้งนี้ ธปท. ยังมีมาตรการป้องกันเพิ่มเติมด้วยคือมีการเพิ่มเงื่อนไขในกระบวนการยืนยันตัวตน โดยให้ธนาคารเพิ่มเทคโนโลยี biometric comparison บนโมบายแบงกิ้งเข้าไป หากพบว่ามีการโอนเงินที่ผิดเงื่อนไขตามที่กำหนด   ไม่ว่าจะเป็น การโอนเงินจำนวนมาก ทั้งจำนวนเงิน และความถี่ รวมถึงการปรับเพิ่มวงเงินต่อวัน โดยกำหนดตามพฤติกรรมหรือระดับความเสี่ยงของลูกค้าของธนาคาร รวมทั้งให้มีช่องทางติดต่อเร่งด่วน (Hotlines) อย่างเพียงพอตลอด 24 ชม. เพื่อเป็นช่องทางให้ลูกค้าสามารถแจ้งเหตุหลอกลวงได้โดยตรง…

รู้จัก HeroRATS หนูกู้ภัย ผสานเทคโนโลยีเข้ากับสัตว์ เพื่อช่วยเหลือมนุษย์

Loading

    รู้จัก HeroRATS หนูกู้ภัย หนึ่งในทางเลือกใหม่สำหรับกู้ภัยในอนาคต เพราะเมื่อเกิดภัยพิบัติ หนึ่งในสิ่งมีชีวิตที่เล็กและไปได้ทุกที่มากกว่า “สุนัข” ก็ “หนู” นี่แหละ นักวิจัยจึงพัฒนาอุปกรณ์และฝึกหนูให้ช่วยกู้ภัยขึ้น   HeroRATS คือ หนูกู้ภัย โดยเป็นหนูยักษ์แอฟริกันที่ถูกฝึกฝนด้านการค้นหาโดยเฉพาะ พัฒนาโดย องค์กร Apopo ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงผลกำไรจากประเทศแทนซาเนีย   ที่ผ่านมาองค์กร Apopo ได้ทำงานร่วมกับหนูมานานกว่าทศวรรษเพื่อใช้สำหรับ “ตรวจจับทุ่นระเบิด” ในแอฟริกา โดยอาศัยประสาทรับกลิ่นที่ไม่ธรรมดาของหนูมาเป็นข้อได้เปรียบในการค้นหาระเบิด และต่อมาในช่วงไม่กี่ปีก่อนหน้านี้ GEA (กลุ่มอาสาสมัครค้นหาและกู้ภัยจากภัยพิบัติ) ซึ่งเป็นองค์กรด้านมนุษยธรรม ได้ติดต่อกับ Apopo เพื่อเสนอให้ฝึกหนูสำหรับทำงานในภารกิจค้นหาและกู้ภัยด้วย ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ระหว่างขั้นตอนการฝึกฝน   ผสานเทคโนโลยีเข้ากับสัตว์ เพื่อช่วยเหลือมนุษย์   อุปกรณ์สำคัญที่ต้องมีติดตัวเจ้าหนูกู้ภัยเหล่านี้ไปด้วยเสมอก็คือ “กระเป๋าเป้ที่มีกล้องขนาดเล็กติดอยู่” ซึ่งสามารถส่งภาพวิดีโอไปยังโทรศัพท์ของผู้ช่วยชีวิตที่อยู่ด้านนอก นอกจากนี้ยังมีไมโครโฟนแบบสองทาง ทำให้ทีมกู้ภัยสามารถพูดคุยกับเหยื่อได้ด้วย   โดยหนูเหล่านี้จะถูกฝึกให้ดึงสวิตช์ไมโครโฟนบนเสื้อกั๊กเมื่อพวกมันค้นพบใครบางคน เมื่อครูฝึกได้รับเสียงสัญญาณว่ามีการค้นพบผู้รอดชีวิต ครูฝึกก็จะส่งเสียงบี๊บกลับไปยังหนู เพื่อบอกให้พวกมันกลับออกมา พร้อมรับรางวัลเป็นถั่วลิสง อะโวคาโด หรือกล้วย  …