NASA FINDER เทคโนโลยีช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวในตุรกีและซีเรีย

Loading

    จากสถานการณ์แผ่นดินไหวในตุรกีและซีเรียที่ยังคงมีการค้นหาผู้รอดชีวิตกันอยู่เรื่อย ๆ วันนี้เลยจะพาไปชมการพัฒนาเทคโนโลยีค้นหาผู้ประสบภัยที่น่าสนใจจากนาซา เป็นเครื่องตรวจสัญญาณชีพผู้รอดชีวิตใต้ซากปรักหักพัง ที่ช่วยให้เราหาผู้รอดชีวิตได้ง่ายขึ้น   ในภารกิจช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่ติดอยู่ใต้ซากตึก อย่างเช่นกรณีเหตุการณ์แผ่นดินไหวตุรกี-ซีเรีย ‘ความไว’ คือปัจจัยที่สำคัญที่สุด เพราะยิ่งใช้เวลาค้นหานาน จำนวนผู้รอดชีวิตก็อาจจะลดลงเรื่อย ๆ ซึ่งในปัจจุบันก็มีเทคโนโลยี ที่ช่วยค้นหาผู้รอดชีวิตในสถานการณ์ลักษณะนี้หลายชิ้นด้วยกัน หนึ่งในนั้นคือเครื่องมือชื่อว่า ไฟน์เดอร์ (FINDER)     ไฟน์เดอร์ (FINDER) เป็นอุปกรณ์เรดาร์คลื่นไมโครเวฟ ที่ใช้ตรวจจับการเต้นของหัวใจมนุษย์ โดยมันจะส่งสัญญาณคลื่นไมโครเวฟพลังงานต่ำ ทะลุผ่านเศษซากกองปรักหักพังได้ถึงประมาณ 9 เมตร หรือถ้าเป็นคอนกรีตแข็งจะอยู่ประมาณ 6 เมตร เมื่อเรดาร์ตรวจเจอสัญญาณชีพของผู้รอดชีวิต จากจังหวะการเต้นของหัวใจ หรือแม้แต่จังหวะการหายใจ การขยับตัว ซึ่งจะท้อนกลับมายังเรดาร์ตรวจจับ ตัวเครื่องก็จะคำนวณหาระยะห่างของตำแหน่งของผู้รอดชีวิตได้     ซึ่งทีมพัฒนาระบุว่า ตัวอุปกรณ์สามารถแยกความแตกต่างระหว่างการเคลื่อนไหว ที่เกิดจากคนและเครื่องจักร และแม้กระทั่งความแตกต่างระหว่างการเคลื่อนไหวของคนกับสัตว์ ลดความสับสนที่จะขัดขวางภารกิจกู้ภัย นอกจากนี้ ข้อดีคือ ตัวอุปกรณ์มีขนาดกะทัดรัด สามารถบรรจุลงกระเป๋าเดินทางได้ อีกทั้งยังกันน้ำ สามารถพกพาไปกับทีมนักกู้ภัย ช่วยค้นหาผู้รอดชีวิตในตึกต่าง ๆ ได้ง่ายและสะดวกมากขึ้น…

วิเคราะห์: ‘วัตถุปริศนา’ กระตุ้นสหรัฐฯ ยกระดับความมั่นคง

Loading

  ไม่กี่สัปดาห์มานี้ สหรัฐฯ ยิง 4 อากาศยานไม่ระบุประเภทที่เคลื่อนผ่านน่านฟ้าอเมริกาเหนือ ทั้งดินแดนสหรัฐฯ และแคนาดา ซึ่งแม้ว่าการวิเคราะห์ซากชิ้นส่วนของอากาศยานเหล่านี้ยังอยู่ระหว่างกระบวนการตรวจสอบอยู่ แต่เรื่องนี้ได้สร้างความกังวลด้านความมั่นคงในอเมริกาเหนือรวมทั้งทำให้ความสัมพันธ์สหรัฐฯ-จีนตึงเครียดขึ้นอีก   อากาศยานทั้ง 4 มีอะไรบ้าง?   ประเด็นอากาศยานปริศนาเริ่มต้นเมื่อปลายเดือนมกราคม เมื่อบอลลูนขนาดใหญ่ของจีน ที่ทางการสหรัฐฯ เรียกว่าเป็นอากาศยานสอดแนม ลอยเหนือน่านฟ้าอเมริกันมาหลายวัน ก่อนสหรัฐฯ จะนำเครื่องบิน F-22 ยิงบอลลูนดังกล่าวตกไปนอกชายฝั่งรัฐเซาท์แคโรไลนา เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ซึ่งฝั่งจีนยืนกรานมาตลอดว่าบอลลูนนี้ใช้เพื่อการสำรวจสภาพอากาศ   ด้านกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ หรือ เพนตากอน ระบุว่าบอลลูนยักษ์นี้มีขนาดเท่ากับรถบัส 3 คัน และมีน้ำหนักมากกว่า 1 ตัน โดยมีเสาอากาศหลายต้น พร้อมแผงพลังงานแสงอาทิตย์ที่ใหญ่เพียงพอสำหรับเป็นแหล่งพลังงานของเซนเซอร์เก็บข้อมูลด้านข่าวกรอง   หลังจากนั้นในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ เครื่องบินขับไล่ของสหรัฐฯ ยิงอากาศยานไม่ระบุประเภท ที่พบทางตอนเหนือของรัฐอลาสกา ตามการเปิดเผยของกองทัพสหรัฐฯ ที่ระบุว่าอยู่ “ภายในน่านฟ้าและน่านน้ำของสหรัฐฯ” แต่วัตถุชิ้นที่สองนี้ไม่มีระบบขับเคลื่อนหรือระบบควบคุมใด ๆ เลย   ต่อมาในวันที่…

“จีน” เตรียมยิงวัตถุลึกลับ ลอยเหนือน่านน้ำทางตอนเหนือซานตง

Loading

    เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นพบวัตถุไม่ระบุว่าคืออะไร ลอยอยู่เหนือน่านน้ำใกล้กับเมืองท่าในทางตอนเหนือซึ่งติดกับทะเลโป๋ไห่ ประเทศจีน และทางการกำลังเตรียมพร้อมยิงมันให้ตกลงมา   สำนักข่าวเดอะเปเปอร์ของเซี่ยงไฮ้ รายงานเมื่อวันอาทิตย์ (12 ก.พ.) ว่า เจ้าหน้าที่จีนเตรียมการยิงวัตถุต้องสงสัย ซึ่งทางสำนักงานพัฒนาทางทะเลเมืองชิงเต่าส่งข้อความถึงเรือประมงว่า ได้ตรวจพบวัตถุลอยเหนือน่านน้ำใกล้กับท่าเรือรือจ้าว ในมณฑลซานตงทางตอนเหนือของประเทศจีน   เรือประมงได้รับแจ้งให้ “หลีกเลี่ยงพื้นที่เสี่ยง” โดยไม่ได้ระบุว่าข้อความถูกส่งเมื่อใดหรือพบเห็นวัตถุเวลาไหน แต่รายงานได้แนะนำให้ผู้ที่พบเศษซากวัตถุดังกล่าวตกบริเวณใกล้เคียงก็ขอให้ถ่ายรูปหรือเก็บชิ้นส่วน และส่งให้ทางการด้วย   สำนักงานพัฒนาทางทะเลเมืองชิงเต่า ยืนยันกับเดอะเปเปอร์ว่า ได้มีการแจ้งเตือนความปลอดภัยไปยังเรือประมงในบริเวณใกล้เคียงจริง แต่ไม่มีการอัปเดตว่าวัตถุดังกล่าวคืออะไร   การตรวจพบวัตถุดังกล่าวมีขึ้น ขณะที่กองทัพปลดปล่อยประชาชนจัดการฝึกซ้อมทางทหารนานหนึ่งสัปดาห์ในช่องแคบโป๋ไห่ ซึ่งเป็นพื้นที่ ที่เชื่อมระหว่างทะเลโป๋ไห่กับตอนเหนือของทะเลเหลือง โดยการฝึกซ้อมดังกล่าวเริ่มขึ้นในวันอาทิตย์ (12 ก.พ.) ตามประกาศที่ออกโดยหน่วยงานความปลอดภัยทางทะเลในเมืองต้าเหลียน เมืองท่าในมณฑลเหลียวหนิง ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือ   นอกจากนี้ยังเกิดขึ้นหนึ่งสัปดาห์หลังจากที่สหรัฐ ยิงสิ่งที่ระบุว่าเป็นบอลลูนสอดแนมของจีน เหนือมหาสมุทรแอตแลนติก   อย่างไรก็ตาม ในวันนี้รัฐบาลปักกิ่งได้ออกมาเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับบอลลูน หลังสหรัฐยิงบอลลูนต้องสงสัยสอดแนมว่า วอชิงตันส่งบอลลูนเข้าน่านฟ้าจีนกว่า 10 ครั้งตั้งแต่ ม.ค.2565          …

เห็นอะไรยิงหมด! สหรัฐฯ สอยร่วงวัตถุบินปริศนาลำที่ 4 คราวนี้มีรูปทรงแปดเหลี่ยม

Loading

    เครื่องบินขับไล่ของกองทัพสหรัฐฯ ในวันอาทิตย์ (12 ก.พ) ยิงร่วงวัตถุบินแปดเหลี่ยมปริศนาลำหนึ่ง เหนือทะเลสาบฮูรอน รัฐมิชิแกน จากการเปิดเผยของเพนตากอน ในเหตุการณ์ล่าสุดนับตั้งแต่บอลลูนลำหนึ่ง ซึ่งต้องสงสัยว่าเป็นบอลลูนสอดแนมของจีน ทำให้กองกำลังด้านความมั่นคงอเมริกาเหนือยกระดับการเฝ้าระวังขั้นสูง   เหตุการณ์ล่าสุดนี้ถือเป็นวัตถุบินปริศนาลำที่ 4 ที่ถูกสหรัฐฯ ใช้ขีปนาวุธยิงตกเหนืออเมริกาเหนือ ในเวลาห่างกันแค่ 1 สัปดาห์เศษ   แพทริค ไรเดอร์ โฆษกของเพนตากอนระบุในถ้อยแถลงอย่างเป็นทางการว่า ตามคำสั่งของประธานาธิบดีโจ ไบเดน เครื่องบินเอฟ-16 ของสหรัฐฯ ได้สอยร่วงวัตถุดังกล่าวตอน 14.42 น.(ตามเวลาท้องถิ่น) เหนือทะเลสาบฮูรอน ตามแนวชายแดนอเมริกา-แคนาดา   แม้ไม่ได้เสี่ยงเป็นภัยคุกคามทางทหาร กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ระบุว่าวัตถุดังกล่าวอาจยุ่มย่ามการสัญจรทางอากาศภายในประเทศ ในระหว่างที่มันเดินทางอยู่ที่ระดับความสูง 20,000 ฟุต (ราว 6,100 เมตร) และบางทีมันอาจเป็นกิจกรรมการสอดแนม   วัตถุนี้ดูเหมือนว่ามีรูปร่างลักษณะ 8 เหลี่ยม มีสายห้อยออกมา แต่จากที่มองเห็นด้วยตาเปล่าไม่บรรทุกอุปกรณ์ใดื ๆ ตามการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ รายหนึ่งซึ่งไม่ประสงค์เอ่ยนาม  …

ยามฝั่งปินส์โวยถูกเรือรบจีนคุกคาม ฉายแสงเลเซอร์ทางทหารใส่จนหน้ามืด

Loading

    ยามฝั่งปินส์โวยถูกเรือรบจีนคุกคาม – วันที่ 13 ก.พ. เอพีรายงานว่า ทางการฟิลิปปินส์เปิดเผยว่าเรือยามฝั่งถูกเรือรบของจีนฉายแสงเลเซอร์ทางทหารใส่เพื่อคุกคามในพื้นที่พิพาททะเลจีนใต้ ถือเป็นการละเมิดอธิปไตยของฟิลิปปินส์อย่างชัดเจน   แถลงการณ์ของหน่วยยามฝั่งฟิลิปปินส์ ระบุว่า เรือรบลำดังกล่าวของจีนยังแล่นเข้ามาใกล้ในระดับอันตราย โดยห่างจากเรือลาดตระเวนของยามฝั่งฟิลิปปินส์ไปเพียง 137 เมตร เพื่อขัดขวางไม่ให้เรือยามฝั่งปฏิบัติหน้าที่ต่อ     เหตุข้างต้นเกิดขึ้นเมื่อ 6 ก.พ. บริเวณแนวสันดอนโทมัสที่ 2 เป็นแนวปะการังใต้น้ำที่อยู่ภายใต้การดูแลของกองทัพฟิลิปปินส์ โดยพฤติกรรมรุกล้ำของจีนนั้นทางการฟิลิปปินส์เคยยื่นจดหมายประท้วงไปแล้วเกือบ 200 ครั้ง เฉพาะเมื่อปี 2565   รายงานระบุว่า ทางการจีนอ้างว่าทะเลจีนใต้ทั้งหมดนั้นอยู่ภายใต้อำนาจอธิปไตยของจีนส่งผลให้เกิดข้อพิพาทกับชาติใกล้เคียงหลายชาติ แม้ประธานาธิบดีเฟอร์ดินันด์ มากอส จูเนียร์ ผู้นำฟิลิปปินส์จะมีจุดยืนส่งเสริมความสัมพันธ์กับจีน แต่ก็ยังรักษาสมดุลสัมพันธ์กับสหรัฐอเมริกาไว้   พลเรือจัตวาอาร์มันด์ บาลิโล โฆษกยามฝั่งฟิลิปปินส์ กล่าวว่า เรือของฝ่ายจีนเคยพยายามขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของเรือยามฝั่งฟิลิปปินส์มาตลอดหลายครั้ง แต่ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่เรือจีนใช้แสงเลเซอร์ทางทหารฉายเข้าใส่ทำให้เจ้าหน้าที่ยามฝั่งได้รับผลกระทบทางร่างกาย       “เรือจีนฉายแสงเลเซอร์สีเขียวเข้าใส่เรือ บีอาร์พี มาลาปาสกัว เป็นจำนวน 2 ครั้ง…

ฮุน เซน สั่งปิดสื่ออิสระกัมพูชา “วีโอดี” อ้างทำลายชื่อเสียงรัฐบาล

Loading

    สมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชาสั่งปิดหนึ่งในสื่ออิสระแห่งสุดท้ายของประเทศ เพียงไม่กี่เดือนก่อนการเลือกตั้งของประเทศ นายฮุน เซน กล่าวในโพสต์บนเฟซบุ๊กเมื่อวันอาทิตย์ว่า “วีโอดี” (VOD) หรือ “วอยซ์ ออฟ เดโมเครซี” (Voice of Democracy) ได้เผยแพร่เรื่องราวที่ทำลายชื่อเสียงของรัฐบาลเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยปฏิเสธที่จะยอมรับคำขอโทษของกลุ่ม และสั่ง ยกเลิกใบอนุญาตในวันจันทร์   ผู้สนับสนุนกล่าวว่าการสูญเสียวีโอดี ได้สร้างผลกระทบครั้งใหญ่ต่อสื่อมวลชนของประเทศ บรรณาธิการของวีโอดียืนยันว่า ตำรวจมาถึงสำนักงานในกรุงพนมเปญในเช้าวันจันทร์ พร้อมกับคำสั่งเพิกถอนใบอนุญาตประกอบกิจการ เจ้าหน้าที่ยืนยันว่า การเข้าถึงเนื้อหาที่ผ่านมาในเว็บไซต์ภาษาเขมรและภาษาอังกฤษของวีโอดีก็ถูกบล็อกโดยผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตบางราย   อานันธ์ บาลิกา รองบรรณาธิการกล่าวกับบีบีซีเมื่อวันจันทร์ว่า ผู้คนต่างตกตะลึงกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น เพราะทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก นับตั้งแต่เมื่อเรื่องราวถูกเผยแพร่ไปจนถึงการระงับใบอนุญาต   เมื่อวันอาทิตย์ ฮุน เซน กล่าวว่า เขากำลังดำเนินการปิดเว็บไซต์วีโอดี หลังจากเผยแพร่เรื่องราวเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือของกัมพูชาต่อเหตุแผ่นดินไหวที่ตุรกี โดยรายงานเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ ระบุว่า นายฮุน มาเนต ลูกชายคนโตของเขาได้เซ็นชื่อปิดท้ายการส่งสิ่งของให้ความช่วยเหลือมูลค่า 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ   ฮุน…