สมาชิกสันนิบาตโซเชียลเดโมแครตฮ่องกงถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจกันออกจากพื้นที่ หลังจากถือป้ายประท้วงและพยายามตะโกนนอกศาลในฮ่องกง ขณะมีการพิจารณาคดีความมั่นคงแห่งชาติครั้งใหญ่ที่มีผู้ถูกกล่าวหา 47 คน เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ (Photo by Peter PARKS / AFP)
การพิจารณาคดีด้านความมั่นคงแห่งชาติครั้งใหญ่ที่สุดของฮ่องกงเปิดฉากขึ้นในวันจันทร์ โดยมีบุคคลผู้ฝักใฝ่ประชาธิปไตยหลายสิบคนถูกกล่าวหาว่าพยายามโค่นล้มรัฐบาลและอาจได้รับโทษประหนึ่งอาชญากร
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันจันทร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ 2566 กล่าวว่า ศาลฮ่องกงเปิดพิจารณาคดีความมั่นคงแห่งชาติครั้งใหญ่ที่มีผู้ถูกกล่าวหาถูกไต่สวน 47 คน และอาจต้องโทษจำคุกตลอดชีวิตหากถูกตัดสินว่ามีความผิด
ผู้เห็นต่างในดินแดนของจีน ซึ่งรวมถึงนักเคลื่อนไหวทางประชาธิปไตยที่มีชื่อเสียงในเกาะฮ่องกง ถูกเรียกมาขึ้นศาลเพื่อไต่สวน โดยมีการเปิดเผยภายหลังว่า ผู้ถูกดำเนินคดี 16 คนปฏิเสธความผิดในข้อหา “สมรู้ร่วมคิดในการกระทำเพื่อโค่นล้มรัฐบาลจากการจัดการเลือกตั้งขั้นต้นอย่างไม่เป็นทางการ”
ขณะที่อีก 31 คนสารภาพผิดตามข้อกล่าวหาและจะถูกตัดสินโทษหลังกระบวนการพิจารณาคดีเสร็จสิ้น
ชาวฮ่องกงจำนวนหนึ่งทำการชุมนุมประท้วงเล็ก ๆ บริเวณหน้าศาลฮ่องกง ท่ามกลางการดูแลความปลอดภัยอย่างเข้มงวดของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ด้านกลุ่มสิทธิมนุษยชนและผู้สังเกตการณ์กล่าวว่า การพิจารณาคดีนี้แสดงให้เห็นว่าระบบกฎหมายถูกใช้เพื่อบดขยี้ฝ่ายตรงข้ามด้วยข้ออ้างด้านความมั่นคง ทั้ง ๆ ที่การต่อต้านเผด็จการไม่ใช่อาชญากรรม
ผู้ถูกดำเนินคดีต้องเผชิญกับการพิจารณาคดีที่คาดว่าจะใช้เวลานานกว่า 4 เดือน โดยผู้พิพากษาที่ถูกคัดเลือกจากรัฐบาลฮ่องกง
คดีนี้เป็นคดีที่ใหญ่ที่สุดภายใต้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติ ซึ่งจีนบังคับใช้กับฮ่องกง หลังจากการประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยครั้งใหญ่ในปี 2562 ที่มีการใช้แก๊สน้ำตาและการปะทะด้วยความรุนแรงกับเจ้าหน้าที่ตำรวจตามท้องถนน
การใช้กฎหมายความมั่นคงกับบรรดานักศึกษา, แรงงานภาคประชาชน และผู้สื่อข่าว ได้เปลี่ยนโฉมหน้าของศูนย์กลางการเงินเอเชียไปอย่างสิ้นเชิง
การพิจารณาคดีครั้งนี้กระทำในศาลเปิด แต่ไม่มีคณะลูกขุน ซึ่งผิดไปจากหลักกฎหมายทั่วไปของฮ่องกง ยิ่งทำให้เกิดกระแสโจมตีกระบวนการยุติธรรมอย่างรุนแรงในวงกว้าง และเรียกเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากนานาชาติและนักการทูตจาก 12 ประเทศ รวมทั้งสหรัฐฯ, อังกฤษ, ออสเตรเลีย และฝรั่งเศส
ผู้ที่ถูกพิจารณาคดีซึ่งมีทั้งนักเคลื่อนไหวอย่างโจชัว หว่อง, นักวิชาการ และอดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติ จำนวน 34 คนจาก 47 คนถูกปฏิเสธการประกันตัว ขณะที่ผู้ที่ได้รับการปล่อยตัวจากการควบคุมตัวมีเพียงไม่กี่คน และต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขที่เข้มงวด ซึ่งรวมถึงคำสั่งห้ามพูดเกี่ยวกับการพิจารณาคดีที่ครอบครัวของผู้ต้องหาเรียกมาตรการเหล่านี้ว่า ‘ความตายทางสังคม’
กลุ่มคนเหล่านี้ถูกตั้งข้อหาร่วมกันในเดือนมีนาคม ปี 2564 หลังมีความพยายามจัดการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการขึ้นเอง โดยมีเป้าหมายที่ระบุไว้คือการได้รับเสียงข้างมากในสภานิติบัญญัติของเมือง ซึ่งจะทำให้พวกเขาสามารถผลักดันข้อเรียกร้องของผู้ประท้วงและอาจบีบให้ผู้นำฮ่องกงลาออก ซึ่งอัยการผู้ฟ้องคดีกล่าวว่าเทียบเท่ากับการพยายามล้มล้างรัฐบาล
“คดีนี้เกี่ยวข้องกับกลุ่มนักเคลื่อนไหวที่รวมหัวกันวางแผนและมีส่วนร่วมในการแทรกแซง, ก่อกวน หรือบ่อนทำลาย (รัฐบาล) อย่างร้ายแรง โดยมีจุดประสงค์เพื่อล้มล้างอำนาจรัฐ” อัยการระบุในรายงาน
ขณะที่ผู้สังเกตการณ์ด้านประชาธิปไตยกลับมองว่า “นี่เป็นการตอบโต้ชาวฮ่องกงทุกคนที่สนับสนุนประชาธิปไตย โดยรัฐบาลปักกิ่งจะทำทุกอย่าง แม้กระทั่งการใช้กฎหมายและศาลเป็นอาวุธ เพื่อให้แน่ใจว่าการเมืองประชาธิปไตยในฮ่องกงจะไม่สามารถก้าวข้ามเส้นที่ตีกรอบไว้ได้”.
————————————————————————————————————————————————————————————————–
ที่มา : ไทยโพสต์ / วันที่เผยแพร่ 6 ก.พ.66
Link : https://www.thaipost.net/abroad-news/318459/