เพลิงพิโรธเผาอาคาร 3 ชั้น กองบังคับการตำรวจนครบาล 5 (บก.น.5) ริมถนนสาทร วอดทั้งหลังรถเสียหาย 7 คัน ไม่มีใครบาดเจ็บหรือเสียชีวิต เผยช่วงเกิดเหตุตำรวจรักษาการณ์ได้ยินเสียงคล้ายไฟฟ้าลัดวงจรที่ห้องเก็บเอกสารชั้นล่าง ก่อนจะมีแสงเพลิงลุกไหม้ ใช้ถังดับเพลิง 2 ถังสกัดไม่อยู่ ไฟลามขึ้นชั้น 2 และ 3 อย่างรวดเร็วเพราะโครงสร้างเป็นอาคารเก่าทำด้วยไม้และมีอายุมากกว่า 60 ปี ผบก.น.5 ยัน เอกสารสำคัญคดีต่างๆ ไม่ได้รับความเสียหาย ส่วนตึกที่เกิดเหตุรอกองโยธาฯประเมิน ขณะที่โฆษก ตร. เผย ผบ.ตร.สั่งกองโยธาฯ เร่งปรับปรุงอาคาร 9 ชั้น หลังที่เกิดเหตุเป็นที่ทำการชั่วคราว ส่วนสาเหตุ พฐ.รายงานมาจากคอมเพรสเซอร์แอร์ลัดวงจร
เหตุไฟไหม้กองบังคับการตำรวจนครบาล 5 (บก.น.5) ครั้งนี้ เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 04.00 น. วันที่ 4 มี.ค. ร.ต.อ.มัสโรจน์ เมฆวิเชียรเจริญ รอง สว. (สอบสวน) สน.ทุ่งมหาเมฆ รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้สำนักงานกองบังคับการตำรวจนครบาล 5 (บก.น.5) ใกล้ปากซอยสาทร 8 ถนนสาทร แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กทม. ไปตรวจสอบพร้อม พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.ธวัชเกียรติ จินดาควรสนอง ผบก.น.5 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. และประสานรถน้ำสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพมหานครกว่า 50 คัน เจ้าหน้าที่การไฟฟ้านครหลวง และอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณถนนสาทรขาเข้าใกล้กับแยกนรินทร พบแสงเพลิงกำลังลุกไหม้อาคารสูง3ชั้น เปลวไฟสูงกว่า 10 เมตร มีเสียงระเบิดดังออกมาเป็นระยะ เจ้าหน้าที่ต้องปิดการจราจรที่สี่แยกนรินทรผ่านหน้าจุดเกิดเหตุเป็นระยะทางกว่า 1 กิโลเมตร พร้อมระดมเจ้าหน้าที่พร้อมสายฉีดน้ำกว่า 50 หัวฉีด เข้าควบคุมเพลิงที่กำลังลุกไหม้อย่างรุนแรง เจ้าหน้าที่ดับเพลิงไม่สามารถเข้าไปภายในได้ เนื่องจากหลังคาถล่มลงมา
ขณะเกิดเหตุไม่มีผู้ติดค้างหรือพักอาศัยอยู่ภายใน แต่มีรถยนต์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จอดไว้รอบอาคารได้รับความเสียหาย 7 คัน หนึ่งในนั้นเป็นรถยนต์ประจำตำแหน่ง พล.ต.ต.ธวัชเกียรติ จินดาควรสนอง ผบก.น.5 หมายเลขทะเบียน ตราโล่ 09806 เจ้าหน้าที่ใช้เวลาดับไฟกว่า 1 ชั่วโมงเพลิงสงบ ที่เกิดเหตุเสียหายเกือบทั้งอาคาร
ด้านนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ที่ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุระบุว่า สอบถามตำรวจเวรยามรักษาการหน้าอาคารทราบว่า ก่อนเกิดเหตุได้ยินเสียงระเบิดคล้ายไฟฟ้าลัดวงจรที่ชั้นล่างของอาคาร และมีไฟลุกไหม้เอกสารในห้องเก็บเอกสาร รีบนำถังดับเพลิงวิ่งเข้าไปฉีด แต่ไม่สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ รีบโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ดับเพลิงให้เข้ามาช่วยเหลือ โดยไฟลุกไหม้เต็มพื้นที่ ทำให้ส่วนของหลังคาและพื้นที่มีไม้เป็นส่วนประกอบเป็นเชื้อเพลิงอย่างดีถูกไฟเผาจนหมดสิ้น อยากฝากให้ประชาชนระมัดระวังเนื่องจากช่วงนี้อากาศแห้ง ขอให้ระวังเรื่องไฟฟ้า เศษขยะอันจะก่อให้เกิดเหตุเพลิงไหม้ได้
ขณะที่ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ที่รุดมาตรวจที่เกิดเหตุเช่นกัน เปิดเผยว่า จากการสอบถามเวรยามรักษาการทราบว่ามีเพลิงลุกไหม้ที่บริเวณชั้นหนึ่ง รีบนำถังดับเพลิงมาฉีดสกัด 2 ถัง แต่จุดที่ไฟไหม้เป็นกองเอกสารไม่สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ รีบโทร.แจ้งรถดับเพลิงก่อนที่ไฟจะลุกลามไปยังชั้น 2 และ 3 อย่างรวดเร็ว จนหลังคาพังลงมาเสียหายทั้งหลัง สำหรับอาคารดังกล่าวใช้เก็บเอกสารทางธุรการ และเอกสารราชการ ส่วนจะมีเอกสารคดีสำคัญถูกเก็บไว้ด้วยหรือไม่ ต้องใช้เวลาตรวจสอบ หลังจากนี้จะต้องตั้งคณะกรรมการตรวจสอบสาเหตุ รวมทั้งตรวจสอบโครงสร้างอาคารว่าจะเสียหายถึงระดับโครงสร้างจนต้องทุบทิ้งหรือไม่
ทั้งนี้ ในพื้นที่กองบังคับการตำรวจนครบาล5 มีคดีสำคัญต่างๆหลายคดี อาจมีการรวบรวมพยานหลักฐานมาเก็บไว้ที่อาคารดังกล่าว อาทิ คดีอดีตรองหัวหน้าพรรคการเมืองข่มขืนและอนาจารผู้เสียหายหลายราย ในพื้นที่ สน.ลุมพินี คดีบ่อนการพนันในพื้นที่ สน.คลองตัน รวมถึงคดีต่างๆอีกหลายคดี
มีรายงานว่า อาคารดังกล่าวก่อสร้างมาแล้วกว่า 42 ปี เคยใช้เป็นที่ทำการของกองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ หรือ บก.ปอศ. ก่อนจะย้ายที่ทำการไปที่ตึกกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ถนนพหลโยธิน และให้กองบังคับการตำรวจนครบาล 5 เข้ามาใช้งานต่อ เมื่อเดือนสิงหาคม ปี 65 ก่อนจะเกิดเหตุดังกล่าว
ภายหลังจากควบคุมเพลิงไหม้อาคาร บก.น.5 ได้ทั้งหมดแล้ว ตำรวจได้ประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบหาสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ อาคารที่เกิดเหตุเป็นอาคารสูง 3 ชั้น เพลิงได้ลุกไหม้เสียหายทั้งหลัง ยังมีกลุ่มควันพุ่งออกมาเป็นระยะ เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยยังต้องใช้น้ำเลี้ยงไว้ไม่ให้ไฟกลับมาลุกไหม้อีก โครงสร้างของอาคารที่เป็นพื้นไม้พังถล่มเสียหายหมดเหลือแต่โครงปูน นอกจากนี้พบรถยนต์เสียหายจำนวน 6 คัน รถ จยย. 1 คัน มี 2 คันที่เสียหายมาก เนื่องจากจอดอยู่ใต้อาคาร
ด้าน พล.ต.ต.ธวัชเกียรติ จินดาควรสนอง ผบก.น.5 เปิดเผยว่า หลังตรวจสอบเบื้องต้นในเรื่องของเอกสารที่นำมาเก็บไว้ในอาคารที่ถูกไฟไหม้ พบว่าส่วนหนึ่งได้รับความเสียหาย แต่อีกส่วนไม่ได้รับความเสียหาย เป็นเอกสารไม่ส่งผลต่อคดีต่างๆแต่อย่างใด เนื่องจากไม่อยู่ในส่วนที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ ในส่วนจุดที่เกิดเหตุเป็นส่วนของสำนักงาน ส่วนใหญ่เป็นคอมพิวเตอร์ที่ได้รับความเสียหายและทรัพย์สินส่วนตัว ทั้งนี้ อาคารดังกล่าวเป็นอาคารเก่าก่อสร้างมานานแล้วกว่า 60 ปี สาเหตุอยู่ระหว่างการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง
วันเดียวกัน พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง โฆษก ตร. กล่าวว่า พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. สั่งการให้ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น เร่งหาสาเหตุที่แท้จริงของการเกิดเพลิงไหม้ครั้งนี้ รวมทั้งสภาพโครงสร้างอาคารที่มีความเสียหายจะเกิดอันตรายหรือไม่ เบื้องต้นได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานที่ลงตรวจสอบที่เกิดเหตุว่าสาเหตุไฟไหม้เกิดจากกระแสไฟในคอมเพรสเซอร์แอร์ลัดวงจร นอกจากนี้ยังสั่งการให้ตรวจความเสียหายของทรัพย์สินที่เกิดเพลิงไหม้ทุกชนิดโดยละเอียด ทั้งเอกสารทางราชการ รถยนต์ หรือทรัพย์สินอื่นๆ พร้อมกับให้กองโยธาธิการสำนักงานส่งกำลังบำรุง ตร.เร่งเข้าปรับปรุงอาคาร 9 ชั้น ด้านหลังเพื่อเป็นที่ทำการชั่วคราวให้พร้อมบริการพี่น้องประชาชน และดูแลความเป็นอยู่ สวัสดิการ ขวัญกำลังใจของข้าราชการตำรวจที่ได้รับผลกระทบ ตร.พร้อมจะสนับสนุนให้ความช่วยเหลือ
——————————————————————————————————————————————
ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์ / วันที่เผยแพร่ 5 มี.ค. 2566
Link :https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/2645568