‘จีน’ นำหน้า ‘สหรัฐฯ’ ใน ‘เทคโนโลยีสำคัญ’ ถึง 37 จากทั้งหมด 44 แขนง รายงานวิจัยจากออสเตรเลียระบุ

Loading

    หน่วยงานคลังสมองในเครือของรัฐบาลออสเตรเลียระบุในรายงานการวิจัยว่า จีนเป็นผู้นำหน้าใครๆ ในโลกเทคโนโลยีแขนงปัญญาประดิษฐ์ ขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิก โดรน และแบตเตอรี่รถไฟฟ้า ขณะที่สหรัฐฯ ยังครองแชมป์ในแขนงการทำชิป และการประมวลผลของระบบคอมพิวเตอร์สมรรถนะสูง   ประเทศจีนเวลานี้เป็นผู้นำหน้าใครๆ ทั่วโลกในเทคโนโลยีสำคัญๆ ถึง 37 แขนง จากทั้งสิ้น 44 แขนง รวมทั้งทางด้านขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิก ปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) โดรน และแบตเตอรี่รถไฟฟ้า ทั้งนี้ ตามรายงานวิจัยของออสเตรเลียที่นำออกเผยแพร่เมื่อเร็วๆ นี้   จีนยังเป็นอันดับ 1 ของโลกในพวกเทคโนโลยีกลาโหม และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับอวกาศ เมื่อพิจารณาจากแง่ของการทำวิจัยซึ่งมีผลกระทบอย่างสูง สถาบันนโยบายทางยุทธศาสตร์ของออสเตรเลีย (Australian Strategic Policy Institute หรือ ASPI) ระบุในรายงานฉบับดังกล่าว   ทั้งนี้ ASPI เป็นหน่วยงานคลังสมองด้านกลาโหมและนโยบายทางยุทธศาสตร์ ซึ่งตั้งฐานอยู่ในกรุงแคนเบอร์รา ก่อตั้งขึ้นโดยรัฐบาลออสเตรเลีย และได้รับเงินทุนจากพวกรัฐบาลต่างประเทศ ตลอดจนพวกบริษัทด้านกลาโหมและเทคโนโลยีด้วย   รายงานฉบับนี้ของ ASPI ระบุอีกว่า จีนยังมีความยอดเยี่ยมในแขนงอื่นๆ…

จริงหรือที่ TikTok ส่งข้อมูลผู้ใช้ให้รัฐบาลจีน จนหลายประเทศรุมแบน

Loading

    ในช่วงที่ผ่านมา TikTok แพลตฟอร์มสัญชาติจีน เผชิญการปิดกั้นจากหลายประเทศมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกา และสหภาพยุโรป ที่ออกมาตรการห้ามใช้งาน TikTok บนอุปกรณ์ของรัฐ รวมถึงการห้ามไม่ให้มีบัญชีทางการของเจ้าหน้าที่รัฐบนแพลตฟอร์ม   การแบน TikTok ลามไปถึงประเทศอื่น ๆ อย่าง แคนาดาและไต้หวัน ที่ออกมาตรการในลักษณะเดียวกัน ขณะที่ เนเธอร์แลนด์ และเดนมาร์ก ที่ก็กำลังหารือแนวทางการแบน TikTok เช่นกัน ซึ่งกระแสต่อต้าน TikTok จากนักการเมืองและเจ้าหน้าที่รัฐในหลายประเทศมีมากขึ้นทุกวัน     แต่ที่หนักหน่วงที่สุดเห็นทีจะเป็นอินเดียที่แบน TikTok ตั้งแต่ปี 2020 และเป็นการแบนชนิดที่เรียกว่าถอนรากถอนโคน ควบคุมไปยังประชาชนด้วย ไม่เฉพาะแต่ในอุปกรณ์ของรัฐเท่านั้น   เพราะเหตุใดแอปพลิเคชันที่ได้รับความนิยมอย่างผู้คนกว่า 1,000 ล้านคนจากทั่วโลกถึงตกเป็นเป้าจากรัฐบาลทั่วโลก   ทำไมถึงแบน TikTok   ประเด็นหลักที่รัฐบาลประเทศต่าง ๆ ให้เหตุผลในการแบน TikTok ก็คือข้อห่วงกังวลด้านความปลอดภัย สำคัญที่สุดคือความกลัวว่า TikTok ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มของจีน…

ผลสอบชี้ไฟไหม้ค่ายผู้อพยพโรฮีนจา มีการวางแผนจงใจก่อวินาศกรรม

Loading

    ทางการบังกลาเทศเผยผลสอบหาสาเหตุของไฟไหม้ครั้งใหญ่ภายในค่ายผู้ลี้ภัยในเมืองค็อกซ์ บาซาร์ ทางตะวันออกเฉียงใต้ของบังกลาเทศ ว่าน่าจะมีการวางแผน และจงใจก่อวินาศกรรม   บังกลาเทศเผยผลการสอบสวนหาสาเหตุเพลิงไหม้ค่ายผู้ลี้ภัยค็อกซ์ บาซาร์ ค่ายผู้ลี้ภัยขนาดใหญ่ที่สุดในโลกในบังกลาเทศ เมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่าน่าจะมีการวางแผนและจงใจก่อวินาศกรรม โดยเพลิงไหม้รุนแรงเมื่อวันที่ 5 มีนาคมที่ผ่านมาได้เผาเพิงพักของผู้ลี้ภัยวอดกว่า 2,800 หลัง ทำให้ผู้อพยพชาวโรฮีนจากว่า 15,000 คนต้องไร้ที่อยู่อาศัย เคราะห์ดีที่ไม่มีใครเสียชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้     เจ้าหน้าที่ภาครัฐของบังกลาเทศระบุว่าไฟไหม้ครั้งนี้น่าจะเป็นการจงใจวางแผนที่จะลอบวางเพลิงโดยกลุ่มติดอาวุธ เห็นได้จากการเกิดไฟไหม้ในหลายๆ จุดพร้อมกัน จากการสอบถามพยานราว 150 ปาก โดยขณะนี้ทางการกำลังเร่งสอบสวนเชิงลึกเพื่อหาว่ากลุ่มกองกำลังกลุ่มใดที่เป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้   ทั้งนี้ค่ายผู้ลี้ภัยค็อกซ์ บาซาร์ มีผู้อพยพที่ลี้ภัยมาจากเมียนมา อาศัยอยู่มากกว่า 1 ล้านคน โดยเพิงพักส่วนใหญ่ล้วนทำมาจากไม้ไผ่ และผ้าใบพลาสติก โดยการอาศัยอยู่รวมกันแบบแออัด ทำให้มีความเสี่ยงที่จะเกิดเพลิงไหม้ได้ง่าย โดยในตอนแรกเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า เหตุที่ไฟลุกลามอย่างรวดเร็วมาจากถังแก๊สในครัวเรือนภายในเขตค่ายที่พักของชาวโรฮีนจา   ในช่วงเดือนมกราคมปี 2021 และธันวาคม 2022 มีรายงานเหตุเพลิงไหม้ในค่ายผู้ลี้ภัยชาวโรฮีนจาถึง 22 ครั้ง ในจำนวนนี้เป็นการลอบวางเพลิง 60 ครั้ง โดยเหตุไฟไหม้ใหญ่เมื่อเดือนมีนาคมปี…

บริษัทญี่ปุ่นกังวลพนักงานใช้ ChatGPT ห่วงข้อมูลรั่ว เตรียมออกกฎป้องกัน

Loading

    บริษัทญี่ปุ่นนำโดย SoftBank Hitachi ได้เริ่มตั้งกฎจำกัดการใช้งานเทคโนโลยี AI ที่สามารถโต้ตอบได้อย่างเช่น ChatGPT ในการดำเนินธุรกิจ ห่วงข้อมูลรั่วไหล สั่งห้ามพนักงานป้อนข้อมูลสำคัญ   ความนิยมของ ChatGPT ความน่าทึ่งในศักยภาพของมัน และมูลค่าทางธุรกิจในอนาคต ทำให้หลายบริษัทยักษ์ใหญ่ทั่วโลกโดยเฉพาะบริษัทเทคโนโลยีเริ่มนำ AI เข้ามาใช้ช่วยงาน ไม่ว่าจะเป็นการตอบข้อความ ร่างอีเมล สรุปประชุม และถามตอบข้อสงสัย อย่างไรก็ตามการใช้งานเทคโนโลยีนี้ยังคงทิ้งข้อกังวลไว้ให้ธุรกิจ โดยเฉพาะเรื่องข้อมูล ซึ่งล่าสุดบริษัทในญี่ปุ่นเริ่มขยับตัวออกมาตรการควบคุมป้องกัน   บริษัทญี่ปุ่นจำกัดการใช้งาน ChatGPT ห่วงข้อมูลรั่ว   เมื่อเดือนที่แล้ว SoftBank ได้เตือนพนักงานเกี่ยวกับการใช้งาน ChatGPT และแอปพลิเคชันทางธุรกิจอื่น ๆ โดยห้ามพนักงานป้อนข้อมูลที่เป็นความลับหรือข้อมูลใด ๆ ที่จะระบุถึงบริษัท และหลังจากนี้บริษัทจะสร้างกฎระเบียบขึ้นมาระบุว่าภาคส่วนใดบ้างในองค์กรที่จะสามารถใช้เทคโนโลยีได้ รวมถึงระบุประเภทแอปพลิเคชันที่อนุญาตให้ใช้   ด้าน Hitachi พิจารณากำหนดกฎจริยธรรมใหม่สำหรับการใช้งาน AI แบบโต้ตอบ เช่นเดียวกับกลุ่มเทคโนโลยีของ Fujitsu ก็ได้เตือนพนักงานเกี่ยวกับการใช้งาน ChatGPT และบริการ AI…

อิหร่านจับผู้ต้องสงสัยกว่า 100 คน โยงเหตุวางยานักเรียนหญิง

Loading

    อิหร่านจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องกับเหตุวางยาพิษปริศนาที่เกิดขึ้นตามโรงเรียนมากกว่า 200 แห่ง รวมผู้ที่ถูกจับกุมกว่า 100 คน   เป็นเวลาหลายเดือนมาแล้วที่อิหร่านเผชิญปัญหาการวางยาพิษเด็กนักเรียนหญิงตามโรงเรียนต่าง ๆ ทั่วประเทศ มีนักเรียนได้รับผลกระทบมากกว่า 5,000 คน โดยเหตุวางยาพิษปริศนาเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ช่วงปลายเดือน พ.ย. และกระจายไปใน 230 โรงเรียน 25 จังหวัด จากทั้งหมด 31 จังหวัดของอิหร่าน   สำนักข่าว IRNA ของทางการอิหร่าน รายงานว่า เจ้าหน้าที่กระทรวงมหาดไทยอิหร่าน ประกาศว่า ได้จับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องกับเหตุวางยาพิษปริศนาที่เกิดขึ้นตามโรงเรียนมากกว่า 200 แห่ง รวมผู้ที่ถูกจับกุมมากกว่า 100 คน ซึ่งคนเหล่านี้ถูกระบุตัว จับกุม และสอบสวนแล้ว โดยในจำนวนนี้พบว่า เป็นผู้ที่มีเจตนาประสงค์ร้ายเพื่อสร้างความหวาดกลัวให้แก่ประชาชนและบรรดานักเรียน เพื่อให้เกิดการปิดโรงเรียนขึ้น   กระทรวงมหาดไทยอิหร่าน ระบุเพิ่มเติมว่า ตั้งแต่กลางสัปดาห์ก่อน เหตุวางยาพิษในโรงเรียนลดลงอย่างชัดเจน และไม่มีรายงานเด็ก ๆ ล้มป่วยเพิ่ม   อาการที่เกิดขึ้นกับเด็กผู้หญิงจำนวนมากมีทั้งเป็นลมหมดสติ คลื่นไส้…

ไล่ไทม์ไลน์ติดบึ้มใต้ท้องรถอุสตาซพ่อมิ่ง

Loading

    เจอระเบิดติดใต้ท้องรถอุซตาสปอเนาะพ่อมิ่ง เจ้าหน้าที่อีโอดีเข้าเก็บกู้ทำลาย คาดระเบิดถูกสั่งทำงานแล้วแต่สายไฟหลุดไม่ครบวงจร เชื่อคนร้ายหวังสังหารเป้าหมายโดยตรง ด้าน ผบช.ภ.9 สั่งตรวจเข้มยานพาหนะเฝ้าระวังเหตุ ครบรอบ 63 ปี บีอาร์เอ็น   มีรายงานจากเจ้าหน้าที่หน่วยความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ถึงกรณีเหตุเมื่อวันที่ 12 มี.ค.66 ที่เจ้าหน้าที่กำลังผสมพร้อมด้วยหน่วยเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิดได้ทำการเข้าตรวจสอบวัตถุต้องสงสัยคาดว่า เป็นระเบิดลักษณะเป็นถังดับเพลิงสีดำ ติดอยู่กับแผ่นแคร้งใต้ท้องรถยนต์ มิตซูบิชิ รุ่นปาเจโร่ สีขาว ป้ายทะเบียน 1 กท 5307 กทม. ระหว่างกลางคนนั่งและคนขับ เหตุเกิดภายในโรงจอดรถ ภายในบ้านเลขที่ 1/1 ม.3 ต.ถนน อ.มายอ จ.ปัตตานี ซึ่งเป็นบ้านของนายสายูตี หะยีตาเห อุซตาสโรงเรียนปอเนาะพ่อมิ่ง อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี และเป็นหนึ่งในคณะพูดคุยสันติสุข รวมทั้งยังเป็นผู้ที่ร่วมก่อตั้งมูลนิธิฮีลาลอะห์มัรอีกด้วย โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำการปลดระเบิดออกจากใต้ท้องรถและทำให้ปลอดภัย โดยใช้ปืนแรงดันน้ำยิงเพื่อแยกชนวนการจุดระเบิดออกจากดินระเบิดหลัก   ต่อมาเจ้าหน้าที่หน่วยความมั่นคงในพื้นที่ เผยข้อมูลว่า จากตรวจสอบอย่างละเอียดพบเป็นถังน้ำยาเคมี ยี่ห้อ POWDER (มาเลเซีย) ขนาดเล็ก น้ำหนักประมาณ…