ตอนนี้ นอกจากการต่อสู้ที่ดุเดือดที่เมืองบัคมุตในแคว้นโดเนตสก์แล้ว หลายฝ่ายกำลังให้ความสำคัญกับบทบาทของจีนท่ามกลางความขัดแย้งนี้ หลังจากที่ประกาศจุดยืนด้านสันติภาพไปในวันครบ 1 ปีของสงครามยูเครน
อย่างไรก็ดี ชาติตะวันตกไม่ไว้ใจท่าทีดังกล่าวของจีน เนื่องจากจีนได้ส่งนักการทูตระดับสูงไปเยือนรัสเซียในช่วง 2 วันก่อนครบ 1 ปีของสงคราม และมีกระแสข่าวออกมาเป็นระยะๆ ว่า จีนเตรียมส่งอาวุธช่วยเหลือรัสเซีย ขณะเดียวกัน ก็มีอีกความเคลื่อนไหวหนึ่งของจีนที่ทำให้ชาติตะวันตกไม่ไว้ใจ คือ การเชิญพันธมิตรของปูตินอย่าง ประธานาธิบดีลูคาเชนโก ของเบลารุส เข้าพบกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง
คืนที่ผ่านมา อเล็กซานเดอร์ ลูคาเชนโก ประธานาธิบดีเบลารุสได้เดินทางถึงกรุงปักกิ่งเมืองหลวงของจีน ตามคำเชิญของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ที่เคยตกลงร่วมกันไว้ในที่ประชุมองค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ เมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว
โดยเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ประธานาธิบดีลูคาเชนโกได้เข้าพบกับหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีน ก่อนที่จะเข้าหารือร่วมกัน
ผู้นำเบลารุสได้กล่าวชื่นชมความร่วมมือที่เพิ่มขึ้นระหว่างทั้งสองประเทศ และกล่าวว่า “มิตรภาพของทั้งจีนและเบลารุสไม่ได้มีเป้าหมายเพื่อต่อต้านประเทศอื่น” ขณะที่นายกรัฐมนตรีจีนระบุว่า ความสัมพันธ์ของจีนและเบลารุสกำลังเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ และผู้นำเบลารุสจะได้หารือร่วมกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิงในภายหลัง
ขณะที่ประธานาธิบดีลูคาเชนโกของเบลารุสเดินทางไปเยือนจีน เพื่อกระชับความสัมพันธ์กับจีน ทางสหรัฐฯ ก็ได้ส่งนักการทูตระดับสูงไปเยือนเอเชียกลาง ซึ่งเป็นเขตอิทธิพลของรัสเซียเช่นกัน
แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ได้เดินทางไปยังกรุงอัสตานา ประเทศคาซัคสถาน เพื่อประชุมในระดับภูมิภาคร่วมกับรัฐมนตรีต่างประเทศคาซัคสถาน คีร์กีซสถาน เติร์กเมนิสถาน และอุซเบกิสถาน ซึ่งทั้งหมดล้วนเคยเป็นอดีตประเทศสหภาพโซเวียตและมีความสัมพันธ์ที่ดีกับรัสเซีย
นี่ถือเป็นการเดินทางไปเยือนภูมิภาคเอเชียกลางครั้งแรกของบลิงเคนในฐานะรัฐมนตรีต่างประเทศของรัฐบาลประธานาธิบดีโจไบเดน และการเดินทางครั้งนี้มีขึ้นเพียงไม่กี่วัน หลังจากวันครบรอบการรุกรานยูเครน หลายฝ่ายมองว่าสหรัฐฯ กำลังทดสอบอิทธิพลของรัสเซียในภูมิภาคเอเชียกลาง
โดยขณะที่เข้าร่วมการประชุม รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ได้กล่าวเตือนจีนด้วยว่า ถ้าองค์กรของจีนส่งอาวุธหนักช่วยเหลือรัสเซียหรือละเมิดมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ ทางรัฐบาลสหรัฐฯ จะจัดการทันที
หลังจากการเตือนของรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ เพียงไม่กี่ชั่วโมง สำนักข่าวรอยเตอร์สก็รายงานว่า แดเนียล ไครเทนบริงก์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศด้านกิจการเอเชียตะวันออกและแปซิฟิกกล่าวต่อรัฐสภาว่า สเปซตี้ (Spacety) ซึ่งเป็นบริษัทผู้ให้บริการภาพถ่ายทางดาวเทียมสัญชาติจีน ได้มอบภาพถ่ายทางดาวเทียมให้กับกลุ่มแวกเนอร์ ที่ทำการรบอยู่ในยูเครน
ขณะที่สหรัฐฯ เดินทางไปเยือนภูมิภาคเอเชียกลางและเพ่งเล็งไปที่ท่าทีของจีน ล่าสุดวันนี้มีความเคลื่อนไหวจากทางฝั่งรัสเซียออกมาว่ามีการโจมตีโครงสร้างพื้นฐานด้านพลเรือนบนแผ่นดินรัสเซีย
สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น (CNN) รายงานว่า กระทรวงกลาโหมรัสเซียออกมากล่าวโทษยูเครนว่าพยายามใช้โดรนเพื่อล็อกเป้าและโจมตีโครงสร้างพื้นฐานบนแผ่นดินรัสเซีย รวมถึงพื้นที่ใกล้กรุงมอสโกด้วย
อันเดร โวโรเบียฟ ผู้ว่าการแคว้นมอสโกอ้างว่า โดรนของยูเครนได้ไปตกในหมู่บ้านทางตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองหลวง โดยทางรัสเซียคาดการณ์ว่าโดรนลำนี้อาจพุ่งเป้าโจมตีไปที่โรงก๊าซของบริษัทก๊าซพรอม (Gazprom) ที่อยู่ใกล้เคียง
อย่างไรก็ดี หน่วยงานที่รับผิดชอบด้านพลังงานประจำภูมิภาคให้สัมภาษณ์กับสื่อท้องถิ่นว่า โรงงานดังกล่าวไม่ได้รับความเสียหาย แต่ทางการรัสเซียได้สั่งปิดน่านฟ้าและสนามบินนครเซนต์ปีเตอร์เบิร์กส์ เพื่อความปลอดภัย
หลังจากนั้น สื่อรัสเซียได้โพสต์รูปถ่ายของสิ่งที่ระบุว่าเป็นอุปกรณ์ที่ถูกยิงตก ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับโดรนพลีชีพรุ่น UJ-22 ที่ผลิตในยูเครน โดยโดรนรุ่นนี้สามารถเดินทางผ่านสภาพอากาศที่เลวร้ายได้ไกลถึง 800 กิโลเมตร
นอกจากนี้สื่อรัสเซียยังรายงานว่า ทางการได้ยิงสกัดโดรนอีกหลายลำที่พยายามเข้ามาโจมตีหลายพื้นที่ของรัสเซีย เช่น ภูมิภาคคราสโนดาร์ และสาธารณรัฐอะดีเกยา ทางตะวันตกเฉียงใต้ของรัสเซีย
ขณะเดียวกัน วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ได้กล่าวกับหน่วยงานความมั่นคงกลางรัสเซีย (FSB) เมื่อวานนี้ว่าให้เพิ่มกิจกรรมต่างๆ เพื่อตอบโต้ปฏิบัติการจารกรรมและการก่อวินาศกรรมที่เพิ่มขึ้นในรัสเซีย ซึ่งเป็นฝีมือของยูเครนและชาติตะวันตก
ก่อนที่จะกำชับว่าหน่วยงานจะต้องหยุด “กลุ่มก่อวินาศกรรม” ที่เข้ามาในรัสเซียจากชายแดนยูเครน รวมถึงเพิ่มการป้องกันให้กับโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญต่างๆ และเร่งยกระดับคุณภาพหน่วยข่าวกรองรัสเซีย เนื่องจากหน่วยข่าวกรองของชาติตะวันตกมุ่งเป้าโจมตีมาที่รัสเซีย
นอกจากนี้ ผู้นำรัสเซียยังได้ลงนามแก้กฎหมายฉบับใหม่ที่มีเนื้อหาสาระ “ห้ามเจ้าหน้าที่รัฐใช้คำภาษาต่างประเทศขณะที่ปฏิบัติหน้าที่” โดยระบุเหตุผลว่าเป็นการปกป้องรัสเซียจากความเสื่อมทรามของชาติตะวันตก กฎหมายฉบับนี้ถูกแก้ไขเพิ่มเติมจาก “กฎหมายการใช้ภาษารัสเซียอย่างเป็นทางการฉบับปี 2005”
โดยจะไม่อนุญาตให้ใช้เจ้าหน้าที่ใช้คำและสำนวนที่ไม่สอดคล้องกับบรรทัดฐานของภาษารัสเซียสมัยใหม่ ยกเว้นคำศัพท์ที่ยังไม่มีคำที่มีความหมายใกล้เคียงหรือเหมือนกัน
ทั้งนี้ รัฐบาลรัสเซียจะประกาศเอกสารที่แสดงคำภาษาต่างประเทศที่เจ้าหน้าที่รัฐยังสามารถใช้ได้ออกมาเป็นเอกสารแยกในภายหลัง อย่างไรก็ดี กฎหมายฉบับดังกล่าวที่ผู้นำรัสเซียเพิ่งจะลงนามไป ไม่ได้ระบุโทษของเจ้าหน้าที่ที่ไม่ยอมปฏิบัติตามเอาไว้ รัสเซียเผยยูเครนอาจใช้ระเบียงมนุษยธรรมขนส่งวัตถุกัมมันตรังสี
นอกจากความเคลื่อนไหวจากผู้นำรัสเซียแล้ว วันนี้มีความเคลื่อนไหวกระทรวงต่างประเทศรัสเซียออกมาด้วยเช่นกัน
สำนักข่าวอาร์ไอเอ (RIA Novosti) ของรัสเซียรายงานว่า มาเรีย ซาคาโรวา โฆษกกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียออกมาระบุว่า
รัฐบาลมีความกังวลว่ายูเครนอาจใช้ระเบียงมนุษยธรรมเพื่อการขนส่งธัญพืช บริเวณท่าเรือโอเดสซาและเชียร์โนมอร์สก์ในทะเลดำ ในการขนส่งวัตถุที่ปนเปื้อนกัมมันตรังสีเข้าไปในประเทศ เพื่อใช้ในการกล่าวหาว่ารัสเซียละเมิดอนุสัญญาว่าด้วยความปลอดภัยทางนิวเคลียร์
ขณะที่สหรัฐฯ จีน และรัสเซียกำลังปะทะคารมกันในเวทีระหว่างประเทศ การสู้รบในยูเครนยังคงเป็นไปอย่างดุเดือด โดยแนวรบที่สำคัญในเวลานี้คือ แนวรบที่เมืองบัคมุตในแคว้นโดเนตสก์ ทางภาคตะวันออกของยูเครน
โวโลดิมีร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครนได้พูดถึงสถานการณ์การสู้รบในเมืองบัคมุตว่ายังเป็นไปอย่างดุเดือด และความตึงเครียดจากการปะทะกันของทั้งสองฝ่ายมีแต่จะเพิ่มขึ้น เพราะรัสเซียกำลังรุกคืบเข้ามาในเมืองเรื่อย ๆ
โดยกองกำลังที่รบอยู่ในเมืองบัคมุตตอนนี้คือ กลุ่มแวกเนอร์ ซึ่งเป็นนักรบรับจ้างของเยฟเกนี ปริโกชิน มหาเศรษฐีชาวรัสเซียและคนสนิทของประธานาธิบดีปูติน ตอนนี้กลุ่มแวกเนอร์รายงานว่าสามารถรุกคืบพื้นที่ต่างๆ รอบเมืองบัคมุตได้มากขึ้น เพื่อเตรียมตีวงล้อมทหารยูเครนกว่าหมื่นนายที่อยู่ในเมืองบัคมุต
อย่างไรก็ดี มีรายงานล่าสุดว่ากลุ่มแวกเนอร์อาจยึดพื้นที่รอบเมืองบัคมุตได้ช้าลงเรื่อย ๆ เนื่องจากกระสุนใกล้หมดคลัง และทางกลุ่มแวกเนอร์เองก็มีปัญหากับเจ้าหน้าที่ระดับสูงในกระทรวงกลาโหม ทำให้ทางการรัสเซียยังไม่ส่งกระสุนเพิ่มเติมมาให้
ด้วยเหตุนี้ หลายฝ่ายจึงประเมินว่า กลุ่มแวกเนอร์จะยังไม่สามารถยึดเมืองบัคมุตได้ในเร็วๆ นี้ หรืออย่างน้อยก็จนกว่ากระทรวงกลาโหมรัสเซียจะส่งกระสุนมาให้เพิ่มเติม ทำให้กองทัพยูเครนมีเวลาถอนกำลังออกจากพื้นที่เพื่อรักษาชีวิตทหาร หรือเตรียมเปิดปฏิบัติการโต้กลับในพื้นที่
อย่างไรก็ดี มีความเป็นไปได้ว่ายูเครนอาจตัดสินใจถอนทหารออกจากพื้นที่แทนการเปิดปฏิบัติการโต้กลับ หลังจากที่อเล็กซานเดอร์ โรเดียนสกี
ที่ปรึกษาของประธานาธิบดียูเครนให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นว่า รัสเซียกำลังเตรียมปิดล้อมเมืองบัคมุตโดยใช้กลุ่มนักรบแวกเนอร์ที่ผ่านการฝึกฝนอย่างเชี่ยวชาญที่สุด ดังนั้นถ้ามีความจำเป็น ยูเครนจะถอยกลับอย่างมีกลยุทธ์และจะไม่ยอมเสียสละทหารในสนามรบไปโดยเปล่าประโยชน์
ด้านทหารยูเครนที่อยู่ในเขตชาร์ซิฟ ยาร์ ในเมืองบัคมุตได้ให้สัมภาษณ์ว่า พวกเขาจะไม่ยอมแพ้และจะสู้จนกว่าจะถึงที่สุด
ขณะที่ประชาชนกลุ่มสุดท้ายในเมืองบัคมุตที่ต้องอาศัยอยู่ท่ามกลางการต่อสู้กันอย่างดุเดือดยืนยันว่าจะอยู่ในพื้นที่ต่อไป เพราะไม่สามารถลี้ภัยออกจากพื้นที่ได้ เนื่องจากไม่มีที่ไป
——————————————————————————————————————————————
ที่มา : PPTV Online / วันที่เผยแพร่ 1 มี.ค. 2566
Link : https://www.pptvhd36.com/news/191608