ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ประกาศว่า รัฐบาลมอสโกบรรลุข้อตกลงกับเพื่อนบ้านอย่างเบลารุส ในการเตรียมประจำการอาวุธนิวเคลียร์ทางยุทธศาสตร์ โดยไม่ได้ละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศฉบับใดก็ตาม ซึ่งเกี่ยวข้องกับการไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์
รัสเซีย ซึ่งรับมรดกอาวุธนิวเคลียร์ของสหภาพโซเวียต มีคลังเก็บหัวรบนิวเคลียร์ขนาดใหญ่ที่สุดในโลก สถิติเมื่อปี 2565 ระบุจำนวนหัวรบประมาณ 5,977 ลูก เมื่อเทียบกับ 5,428 ลูก ที่ควบคุมโดยประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ ตามข้อมูลของสหพันธ์นักวิทยาศาสตร์อเมริกัน (เอฟเอเอส)
จากจำนวนข้างต้นของรัสเซีย แม้ว่าหัวรบประมาณ 1,500 ลูก จะถูกปลดประจำการแล้ว แต่มันน่าจะยังมีสภาพที่สมบูรณ์ ขณะที่หัวรบสำรองมีอยู่ราว 2,889 ลูก และเป็นหัวรบที่ติดตั้งประจำการแล้วประมาณ 1,588 ลูก
อย่างไรก็ตาม จำนวนหัวรบที่ทั้งรัสเซียและสหรัฐมี บ่งชี้ว่า รัฐบาลมอสโก กับรัฐบาลวอชิงตัน สามารถทำลายโลกได้หลายครั้ง ซึ่งกุญแจสำคัญ คือ วิธีการส่งอาวุธไปให้ถึงเป้าหมาย ไม่ว่าจะเป็น ขีปนาวุธ, เรือดำน้ำ และเครื่องบินทิ้งระเบิดที่บรรทุกหัวรบ
รัสเซียดูเหมือนจะมีขีปนาวุธข้ามทวีป (ไอซีบีเอ็ม) ติดอาวุธนิวเคลียร์ประมาณ 400 ลูก ซึ่งประมาณการว่า มันสามารถบรรทุกหัวรบทั้งหมดได้มากถึง 1,185 ลูก ยิ่งไปกว่านั้น รัสเซียยังมีเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ที่ติดอาวุธนิวเคลียร์ 10 ลำ ซึ่งสามารถบรรทุกหัวรบได้สูงสุด 800 ลูก และมีเครื่องบินทิ้งระเบิดนิวเคลียร์อีกราว 60-70 ลำ
สหรัฐระบุในรายงานการทบทวนสถานการณ์นิวเคลียร์ (เอ็นพีอาร์) เมื่อปี 2565 ว่า รัสเซียกับจีนกำลังขยับขยาย และปรับปรุงกองกำลังนิวเคลียร์ของตนให้ทันสมัย ด้วยเหตุนี้ รัฐบาลวอชิงตันจึงจะดำเนินการตามแนวทางที่ยึดตามการควบคุมอาวุธ เพื่อกำจัดการแข่งขันทางอาวุธที่มีค่าใช้จ่ายสูง
กระเป๋าควบคุมอาวุธนิวเคลียร์ของรัสเซีย หรือที่เรียกว่า “เชเกต” (Cheget) จะอยู่กับประธานาธิบดีตลอดเวลา อีกทั้งยังมีความคิดที่ว่า พล.อ.เซอร์เก ชอยกู รมว.กลาโหมรัสเซีย และ พล.อ.วาเลอรี เกราซิมอฟ ประธานคณะเสนาธิการทหารร่วม มีกระเป๋าดังกล่าวเช่นกัน
โดยพื้นฐานแล้ว ตัวกระเป๋าเป็นเครื่องมือสื่อสารที่เชื่อมโยงประธานาธิบดี กับทหารระดับสูงของเขา จากนั้นจึงเชื่อมต่อกับกองกำลังจรวด ผ่านเครือข่ายสั่งการและควบคุมทางอิเล็กทรอนิกส์แบบลับสุดยอด ที่เรียกว่า “คาซเบก”
หากรัสเซียคิดว่ากำลังเผชิญกับการโจมตีทางยุทธศาสตร์ด้วยนิวเคลียร์ ประธานาธิบดีจะใช้กระเป๋าควบคุมใบนี้ ส่งคำสั่งยิงโดยตรง ไปยังกองบัญชาการทั่วไป และหน่วยบัญชาการกำลังสำรองที่มีรหัสนิวเคลียร์ ซึ่งคำสั่งข้างต้น จะถูกส่งต่อผ่านระบบการสื่อสารต่าง ๆ อย่างรวดเร็ว ไปยังหน่วยควบคุมจรวดทางยุทธศาสตร์ ก่อนที่จะยิงใส่สหรัฐ และทวีปยุโรป
หากมีการยืนยันถึงการโจมตีด้วยอาวุธนิวเคลียร์ ปูตินสามารถเปิดใช้งานระบบที่เรียกว่า “เดด แฮนด์” หรือ “เพอริมิเตอร์” ซึ่งเป็นมาตรการสุดท้ายของรัสเซีย โดยจรวดควบคุมจะสั่งการโจมตีด้วยนิวเคลียร์ จากคลังอาวุธขนาดใหญ่ทั่วรัสเซีย
บทความโดย เลนซ์ซูม
————————————————————————————————————————-
ที่มา : เดลินิวส์ออนไลน์ / วันที่เผยแพร่ 31 มี.ค. 2566
Link : https://www.dailynews.co.th/articles/2161283/