สถานทูตไทยให้คนไทยในซูดานลงทะเบียนเพื่อเตรียมอพยพและให้ความช่วยเหลือ

Loading

  กรณีเกิดการสู้รบกันระหว่างกองทัพซูดานกับกลุ่มกองกำลังติดอาวุธ ที่กรุงคาร์ทูม สาธารณรัฐซูดาน ซึ่งสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงไคโร มีประกาศเตือนคนไทยและนักศึกษาไทยในซูดาน ให้เพิ่มความระมัดระวัง หลีกเลี่ยงพื้นที่ปะทะ กักตุนอาหาร ขอให้ติดตามสถานการณ์ข้อมูลข่าวสารอย่างใกล้ชิด รวมทั้งขอให้ปฏิบัติตามคำแนะนำและกฎหมายของทางการซูดาน   ล่าสุด สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงไคโร ขอให้คนไทยในซูดานลงทะเบียน เพื่อเตรียมอพยพและให้ความช่วยเหลือในกรณีฉุกเฉิน   แต่สถานการณ์ขณะนี้ ยังไม่เอื้ออำนวยต่อการอพยพ เนื่องจากท่าอากาศยานยังไม่สามารถใช้การได้ และยังมีความเสี่ยงสูงในการเดินทางภายในประเทศ แต่ขอให้ลงทะเบียนไว้ก่อน หากมีความคืบหน้าในการอพยพ สถานเอกอัครราชทูตฯ จะแจ้งให้ทราบในทันที   ด้านนายชนธัญ แสงพุ่ม รองเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุ ศอ.บต. ได้รับการประสานจากตัวแทนนักศึกษาไทยในซูดาน เพื่อเร่งให้ความช่วยเหลือในส่วนของปัจจัยยังชีพ เนื่องจากทางการซูดานประกาศห้ามประชาชนออกจากเคหสถานในบริเวณพื้นที่ที่กำหนด (เคอร์ฟิว) โดย ศอ.บต.ได้ประสานความร่วมมือไปยังกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ ได้อนุมัติงบประมาณเพื่อนำไปจัดหาปัจจัยยังชีพเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และอยู่ระหว่างการดำเนินการจัดหาเพื่อนำไปแจกจ่ายให้กับคนไทยที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ ส่วนการดำเนินการในขั้นต่อไป ทางกระทรวงการต่างประเทศ ฝ่ายความมั่นคง การบินไทย และส่วนราชการอื่น ๆ จะประชุมเพื่อเตรียมแผนรับมือกับเหตุการณ์ในครั้งนี้ต่อไป  …

“บิ๊กโจ๊ก” เสนอติดตั้งระบบ AI คัดกรองคนเข้าประเทศ

Loading

    กรุงเทพฯ 19 เม.ย. – “พล.ต.อ.สุรเชษฐ์” เสนอให้ติดตั้งระบบ AI ที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง เพิ่มประสิทธิภาพคัดกรองคนเข้าประเทศ หวังลดปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ หลังพบคนจีนเข้ามาก่อเหตุในไทยมากขึ้น พร้อมหารืออุปทูตจีนประจำประเทศไทย วางแนวทางป้องกันเหตุ   พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงคดีการอุ้มตัวคนจีนไปเรียกค่าไถ่ ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ สน.ลุมพินี และ สน.บางโพงพาง ในช่วงนี้ โดยเฉพาะคดีที่ สน.บางโพงพาง ที่พบมีผู้ต้องหาทั้งคนไทย และคนจีนร่วมกัน 11 คน ในการก่อเหตุอุ้มตัวคนจีนไปเรียกค่าไถ่ ขณะนี้สามารถจับตัวผู้ต้องหาได้แล้ว 4 คน และอยู่ระหว่างการติดตามตัวที่เหลือ   ส่วนที่มีเหตุคนจีนเข้ามาก่อเหตุอาชญากรรมในไทยมากขึ้นนั้น วันนี้ได้นัดหมายอุปทูตจีนประจำประเทศไทยเข้ามาร่วมหารือถึงแนวทางการป้องกัน และการกวาดล้างอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับคนจีนให้เข้มงวดมากขึ้น เพราะที่ผ่านมาหลังจากเปิดประเทศก็มีคนจีนเข้ามาอยู่ในไทยด้วยวีซ่านักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น   พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยังยอมรับว่า ประเทศไทยเข้า-ออกได้ง่าย หลังจากที่ก่อนหน้านี้จะอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน ทำให้กลุ่มผู้ต้องหาที่กระทำผิดในจีนเข้ามาในไทย แม้ว่าทางการไทยจะพยายามคัดกรองแล้ว แต่ก็ยังพบมีหลุดรอดเข้ามาได้ ในช่วงนี้ก็ได้สั่งการให้ด่านตรวจคนเข้าเมืองทั่วประเทศเข้มงวดในการตรวจสอบ อีกทั้งกำหนดเป้าหมายการเข้าตรวจค้นในพื้นที่พักอาศัยของคนจีน ทั้งกรุงเทพมหานคร เชียงใหม่ พัทยา ภูเก็ต…

ห้ามหรือยุ? สหรัฐฯ เตือนรัสเซียอย่าแตะต้อง ‘เทคโนโลยีเซนซิทีฟ’ ของอเมริกาในโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ยูเครน

Loading

    กระทรวงพลังงานสหรัฐฯ ส่งจดหมายแจ้งเตือนไปยังรัฐวิสาหกิจพลังงานนิวเคลียร์ Rosatom ของรัสเซียว่า “อย่าได้แตะต้อง” เทคโนโลยีนิวเคลียร์ที่มีความเปราะบางของอเมริกาภายในโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริซเซียของยูเครน ซึ่งถูกกองทัพรัสเซียเข้าไปยึดเอาไว้เมื่อหลายเดือนก่อน   สำนักข่าว CNN รายงานว่า แอนเดรีย เฟอร์ไคล์ ผู้อำนวยการฝ่ายสำนักงานนโยบายไม่แพร่กระจายนิวเคลียร์ของกระทรวงพลังงานสหรัฐฯ ได้ส่งจดหมายลงวันที่ 17 มี.ค. ปี 2023 ไปถึงผู้อำนวยการใหญ่ของ Rosatom โดยระบุว่า โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริซเซีย “มีฐานข้อมูลทางเทคนิคด้านนิวเคลียร์ที่ผลิตในสหรัฐฯ และถูกส่งออก (ไปยังยูเครน) ภายใต้การควบคุมของรัฐบาลสหรัฐอเมริกา”   ทั้งนี้ สหรัฐฯ มีกฎหมายควบคุมเข้มงวดสำหรับการส่งออกสินค้า ซอฟต์แวร์ หรือเทคโนโลยีใด ๆ ก็ตามซึ่งอาจจะถูกนำไปใช้งานในลักษณะที่บ่อนทำลายความมั่นคงของอเมริกา   โรงไฟฟ้าซาปอริซเซียซึ่งเป็นโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ขนาดใหญ่ที่สุดในยุโรปถูกกองกำลังรัสเซียบุกยึดไว้ตั้งแต่เดือน มี.ค.ปีที่แล้ว และเคยถูกตัดการเชื่อมต่อกับโครงข่ายไฟฟ้าของยูเครนบ่อยครั้งเนื่องจากรัสเซียยิงถล่มอย่างหนักในพื้นที่ จนทำให้ทั่วยุโรปหวาดกลัวว่าอาจจะเกิดหายนะนิวเคลียร์ขึ้น   แม้รัสเซียจะยังคงอนุญาตให้เจ้าหน้าที่ยูเครนปฏิบัติหน้าที่ภายในโรงไฟฟ้าได้ตามเดิม ทว่าการบริหารจัดการทั้งหมดอยู่ภายใต้การดูแลของ Rosatom   กระทรวงพลังงานสหรัฐฯ เตือน Rosatom ว่า การอนุญาตให้พลเมืองหรือองค์กรของรัสเซียเข้าไปจัดการเทคโนโลยีของสหรัฐฯ จะถือว่า “ผิดกฎหมาย”  …

มีผู้บุกรุกทำเนียบขาว เจ้าหน้าที่พบ เป็น “เด็ก 2 ขวบ”

Loading

    เกิดเหตุผู้บุกรุกทำเนียบขาว เจ้าหน้าที่หน่วยสืบราชการลับเร่งเข้าควบคุมตัว พบเป็น “เด็กชายวัย 2 ขวบ” ที่คลานลอดรั้วเข้ามา   เมื่อวานนี้ (18 เม.ย.) เกิดเหตุมีผู้บุกรุกทำเนียบขาวของสหรัฐฯ ทำให้เจ้าหน้าที่หน่วยสืบราชการลับเร่งเข้าควบคุมตัวผู้บุกรุกอย่างรวดเร็ว แต่เมื่อไปถึง ก็พบว่า ผู้ที่บุกรุกเข้ามาเป็นเพียง “เด็กชายวัย 2 ขวบ” เท่านั้น และสั่งยกเลิกระบบแจ้งเตือนด้านความปลอดภัยทันที   แอนโทนี กูกลิเอลมี หัวหน้าฝ่ายสื่อสารของหน่วยสืบราชการลับ รายงานว่า ผู้บุกรุกตัวน้อยแทรกซึมเข้ามาในบริเวณทำเนียบขาวโดยการคลานผ่านช่องว่างของรั้วทางด้านทิศเหนือของทำเนียบขาว     “วันนี้หน่วยสืบราชการลับในเครื่องแบบพบอาคันตุกะอายุน้อยที่อยากรู้อยากเห็นบริเวณแนวรั้วด้านทิศเหนือของทำเนียบขาว โดยรุกล้ำเข้ามาในพื้นที่ทำเนียบขาวเพียงช่วงสั้น ๆ” กูกลิเอลมีกล่าว   เขาเสริมว่า หลังจากพบตัวเด็กน้อย ก็ได้ดำเนินการส่งคืนให้กับพ่อแม่ซึ่งอยู่ที่ถนนเพนซิลเวเนียติดกับทำเนียบขาวอย่างรวดเร็ว พ่อแม่ของเด็กชายถูกสอบปากคำสั้น ๆ ก่อนจะถูกปล่อยตัวไป   นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดเหตุมีเด็กน้อยคลานผ่านรั้วของทำเนียบขาว เคยมีเหตุการณ์ที่คล้ายกันนี้ในปี 2014 เมื่อเด็กวัยหัดเดินเบียดตัวผ่านรั้วทำเนียบขาวก่อนที่ประธานาธิบดี บารัก โอบามา จะกล่าวปราศรัย การบุกรุกนั้นทำให้ต้องปิดทำเนียบขาวชั่วคราว และทำให้การปราศรัยล่าช้า   รั้วของทำเนียบขาวที่เด็กวัยหัดคลานผ่านเข้าไปได้นี้มีความสูงเกือบ 4…

องค์การสหประชาชาติ ตำหนิสหรัฐอเมริกาเรื่องเอกสารลับที่รั่วไหล

Loading

    หลายสัปดาห์หลังจากมีการเผยแพร่เอกสารลับของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ จำนวนมากบนสื่อสังคมออนไลน์ องค์การสหประชาชาติ ออกถ้อยแถลงตำหนิสหรัฐฯ กรณีที่มีการสอดแนมเลขาธิการและเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหประชาชาติ   นายสเตฟาน ดูจาร์ริก โฆษกสหประชาชาติ กล่าวว่า สหประชาชาติมีความเห็นว่า การสอดแนมเจ้าหน้าที่บุคลากรของสหประชาชาติ ไม่สอดคล้องกับพันธกรณีของสหรัฐอเมริกาที่ระบุไว้ในกฎบัตรของสหประชาชาติและอนุสัญญาว่าด้วยเอกสิทธิ์และความคุ้มกันของสหประชาชาติ และสหประชาชาติได้ส่งบันทึกไปยังคณะผู้แทนทางการทูตของสหรัฐฯ ในสหประชาชาติเกี่ยวกับเอกสารลับแล้ว   โดยในเอกสารลับส่วนที่เกี่ยวข้องกับสหประชาชาติ ที่ถูกนำมาเผยแพร่ เป็นการสอดแนมการสนทนาและการทำงานของนายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ รวมถึงเจ้าหน้าที่ระดับสูง โดยมีการแสดงความเห็นว่า นายกูเตอร์เรส “อ่อนข้อ” ให้กับรัสเซียมากเกินไป จนส่งผลกระทบต่อการใช้มาตรการคว่ำบาตร ทั้งมีรายละเอียดการสนทนาส่วนตัวระหว่างนายกูเตอร์เรสกับนางอมินา โมฮัมเหม็ด รองเลขาธิการสหประชาชาติ   อย่างไรก็ตาม สำนักงานของนายกูเตอร์เรส ระบุว่า การทำงานของเขาอยู่ในสายตาของสาธารณชนมาเป็นเวลานาน จึงไม่แปลกใจหากจะมีการสอดแนมและดักฟังการสนทนาส่วนตัว แต่สิ่งที่น่าประหลาดใจคือความบกพร่องหรือไร้ความสามารถที่ทำให้การสนทนาส่วนตัวถูกนำไปเผยแพร่ และถูกบิดเบือน               —————————————————————————————————————————————— ที่มา :           …

ชาติแรก! ญี่ปุ่นประกาศอพยพพลเมือง หนีแดนมิคสัญญีซูดาน

Loading

    เมื่อวันที่ 19 เมษายน สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า รัฐบาลญี่ปุ่นประกาศเตรียมอพยพพลเมืองของตนเองออกจากประเทศซูดาน ที่ยังคงเต็มไปด้วยการปะทะสู้รบระหว่างกองทัพซูดานกับกองกำลังกึ่งทหารอย่างรุนแรงต่อเนื่องมาเป็นวันที่ 5 นับเป็นชาติแรกที่ประกาศแผนจะอพยพพลเมืองของตนออกจากประเทศที่เต็มไปด้วยความขัดแย้งแห่งนี้   นายฮิโรคาซุ มัตสึโนะ โฆษกรัฐบาลญี่ปุ่น แถลงกับผู้สื่อข่าวว่า มีพลเมืองญี่ปุ่นราว 60 คนที่อยู่ในประเทศซูดานขณะนี้ รวมถึงเจ้าหน้าที่ของสถานทูตญี่ปุ่นด้วย และระบุว่า กระทรวงกลาโหมได้เริ่มเตรียมการที่จำเป็นสำหรับการอพยพแล้ว โดยสถานการณ์ความมั่นคงในขณะนี้กำลังเลวร้ายลง ซึ่งรัฐบาลจะทำอย่างเต็มที่ในการรักษาความปลอดภัยให้กับชาวญี่ปุ่นที่อยู่ในต่างประเทศ     ขณะที่ประเทศอื่น ๆ ได้ร้องขอให้พลเมืองของตนเองที่พำนักอยู่ในประเทศซูดาน ติดต่อแจ้งชื่อและรายละเอียดต่าง ๆ ให้กับทางสถานทูตของตนเองเอาไว้   โดยสถานทูตสหรัฐในกรุงคาร์ทูม ได้เริ่มรวบรวมรายละเอียดข้อมูลของพลเมืองชาวอเมริกัน พร้อมขอให้พวกเขาเหล่านั้นอยู่ภายในอาคารและอยู่ให้ห่างจากหน้าต่าง   “เนื่องจากสถานการณ์ความมั่นคงที่ไม่แน่นอนในกรุงคาร์ทูมและการปิดสนามบิน ยังไม่มีแผนสำหรับการอพยพที่มีการประสานกับรัฐบาลสหรัฐ” สถานทูตสหรัฐประกาศผ่านทางทวิตเตอร์   ขณะที่นานาชาติเรียกร้องให้ยุติท่าทีเป็นปฏิปักษ์กันในซูดาน โดยที่ประชุมของรัฐมนตรีต่างประเทศกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ 7 ชาติ (จี 7) ได้เรียกร้องในวันอังคาร (18 เม.ย.) ให้คู่ขัดแย้งทั้งสองฝ่ายหยุดยิงในทันที   ขณะที่ในวันพุธ (19 เม.ย.) มีรายงานว่าประชาชนหลายพันคนพากันอพยพออกจากกรุงคาร์ทูม…