ซีย์มอร์ เฮิร์ช นักข่าวอาวุโสชื่อดังชาวอเมริกัน แฉตะวันตกรู้ดีว่าอาวุธจำนวนมากที่ส่งให้เคียฟถูกพวกผู้บังคับบัญชาทหารยูเครนแอบส่งขายให้พ่อค้าอาวุธในโปแลนด์ โรมาเนีย และอีกหลายประเทศ ขณะเดียวกัน เขาด้วยชี้ว่า นิวยอร์กไทมส์ซึ่งเขาเคยทำงานด้วยตอนนี้กลายพันธุ์เป็นสื่อโปรไบเดนเต็มตัว
เฮิร์ช เจ้าของรางวัลพูลิตเซอร์ กล่าวในการให้สัมภาษณ์กับแอฟชิน แรตแทนซี ในรายการ “โกอิ้ง อันเดอร์กราวด์” ว่า ตะวันตกรับรู้เรื่องการซื้อขายอาวุธในตลาดมืดนี้ และสื่ออเมริกันก็เคยรายงานข่าวการสูญหายของอาวุธที่จัดส่งไปให้ยูเครนตั้งแต่เมื่อปีที่แล้ว
นักข่าวอาวุโสผู้นี้อ้างว่า เกือบจะทันทีหลังจากความขัดแย้งระหว่างเคียฟกับมอสโกระเบิดขึ้นเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2022 อาวุธที่ตะวันตกและพันธมิตรส่งให้เคียฟใช้ในสงคราม กลับหลั่งไหลท่วมตลาดมืดในโปแลนด์ โรมาเนีย และประเทศอื่นๆ ซึ่งบ่อยครั้งเป็นฝีมือทหารยูเครนระดับนายพัน และระดับอื่นๆ ที่เอาอาวุธที่ได้รับมาไปขายในตลาดมืดหาเงินเข้ากระเป๋าตัวเอง
เฮิร์ชตั้งข้อสังเกตว่า ปีที่ผ่านมามีความกังวลในตะวันตกว่า อาวุธบางส่วนที่ส่งให้ยูเครน เช่น ขีปนาวุธแบบประทับบ่า “สตริงเกอร์” อาจถูกนำไปใช้ในการยิงเครื่องบินที่กำลังบินอยู่ในระดับสูงมากๆ
เขาเสริมว่า เครือข่ายโทรทัศน์ซีบีเอสเคยนำเสนอข่าวนี้แต่ถูกบีบให้ดัดแปลงแก้ไข เนื่องจากสื่อรายนี้สนับสนุนจุดยืนของอเมริกาในการ “ยืนข้างยูเครน และจงเกลียดจงชังรัสเซีย”
สิ่งที่เฮิร์ชพาดพิงถึงนี้น่าจะเป็นสารคดีเรื่อง “การติดอาวุธยูเครน” ที่ซีบีเอสแพร่ภาพเมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว โดยปรากฏว่าเนื้อหาบางตอนที่ตัดมาโปรโมต ซึ่งรวมถึงคำพูดเปิดเผยของโจนาส โอห์แมน ผู้ก่อตั้งกลุ่มบลู-เยลโลว์ องค์การพัฒนาเอกชน (เอ็นจีโอ) โปรยูเครน ที่บอกว่า ความช่วยเหลือทางทหารที่ส่งถึงแนวหน้าจริงๆ มีเพียง 30% เท่านั้น ได้ถูกตัดทิ้งไปจากสารคดีซึ่งนำมาเผยแพร่ออกอากาศ ขณะที่ตัวสารคดีเองถูกแก้ไขเรียบเรียงใหม่
นอกจากนั้น เจ้าหน้าที่รัสเซียยังออกมาเตือนหลายครั้งว่า อาวุธของตะวันตกที่ถูกส่งไปขายนอกยูเครน บ่อนทำลายสถานการณ์ความมั่นคงทั่วโลก
มาเรีย ซาคาโรวา โฆษกกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย กล่าวเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้วว่า อาวุธที่องค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) จัดหาให้เคียฟ สุดท้ายกลับตกไปอยู่ในมือผู้ก่อการร้าย กลุ่มหัวรุนแรง และอาชญากรในตะวันออกกลาง แอฟริกาใต้ และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ซาคาโรวายังคาดว่า ยอดขายอาวุธตะวันตกในตลาดมืดขณะนั้นมีมูลค่าถึงเดือนละ 1,000 ล้านดอลลาร์
ทั้งนี้ การตรวจสอบของสำนักข่าวอาร์ทีของรัสเซียในช่วงฤดูร้อนที่แล้วพบว่า มีอาวุธหลากหลายประเภทที่ตะวันตกจัดหาให้เคียฟ ขายอยู่ในตลาดมืดในอินเทอร์เน็ต โดยผู้สื่อข่าวของอาร์ทีได้ต่อรองขอซื้อโดรน กามิกาเซ่ ที่ผลิตในอเมริกากับผู้ลักลอบค้าอาวุธ แต่ไม่สามารถยืนยันได้ว่าผู้ขายมีอาวุธในสต๊อกจริงหรือไม่ เนื่องจากไม่ได้ทำการสั่งซื้อต่อจนจบ
ระหว่างการให้สัมภาษณ์คราวนี้ เฮิร์ชยังประณามนิวยอร์กไทมส์ว่า โปรคณะบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดน อย่างออกนอกหน้า รวมถึงวิธีปฏิบัติต่อแหล่งข่าวและการช่วยสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐฯ (เอฟบีไอ) ตามล่าแจ็ค เทเซรา ผู้ต้องสงสัยปล่อยเอกสารลับของเพนตากอน
เทเซรา นายทหารชั้นผู้น้อยสังกัดกำลังทางอากาศของกองทหารรักษาดินแดนรัฐแมสซาชูเซตส์ ที่โพสต์ข้อมูลข่าวกรองของอเมริกาเกี่ยวกับความขัดแย้งในยูเครนและประเด็นอื่นๆ บนฟอรัมเกมออนไลน์ถูกเอฟบีไอจับกุมเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลังจากนิวยอร์กไทมส์และวอชิงตันโพสต์ ร่วมมือกับเบลลิงแคต ซึ่งเป็นกลุ่มนักหนังสือพิมพ์แนวสืบสวน ค้นหาติดตามแหล่งที่มาของเอกสารข่าวกรองสหรัฐฯ ซึ่งรั่วไหลออกมา จนกระทั่งถึงตัวเทเซรา แล้วยังระบุตัวตนของเทเซราให้ทางการสหรัฐฯ ทราบ
เฮิร์ชบอกว่า เขาเคยทำงานให้นิวยอร์กไทมส์มานานหลายปีและคว้ารางวัลมากมายในช่วงเวลาที่หนังสือพิมพ์ฉบับนี้ยังปกป้องแหล่งข่าวดีกว่านี้มาก เขายังยกตัวอย่างว่า หนึ่งในข่าวสำคัญที่สุดที่เขาเขียน (ในปี 1974) เกี่ยวกับการที่สำนักงานข่าวกรองกลางของสหรัฐฯ (ซีไอเอ) สอดแนมพลเมืองอเมริกันนั้นไม่ได้เอ่ยชื่อแหล่งข่าวแม้แต่คนเดียว
เฮิร์ชวิจารณ์ว่า นิวยอร์กไทมส์เผยธาตุแท้ของตัวเองว่า “โปรไบเดน” เต็มคราบ ดังจะเห็นได้จากการที่สื่อรายนี้ไม่แตะต้องผู้นำสหรัฐฯ แม้แต่นิดเดียว อีกทั้งไม่เคยรายงานเรื่องข้อกล่าวหาคณะบริหารของไบเดนอยู่เบื้องหลังการระเบิดท่อก๊าซนอร์ดสตรีม ในทะเลบอลติกเมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว แต่เผยแพร่เฉพาะรายงานตอบโต้หักล้างที่พวกหน่วยงานข่าวกรองจัดทำขึ้นมาเท่านั้น
ที่มา : อาร์ที, เอเจนซีส์
——————————————————————————————————————————————
ที่มา : ผู้จัดการออนไลน์ / วันที่เผยแพร่ 25 เม.ย. 2566
Link : https://mgronline.com/around/detail/9660000037933