สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า จีนได้เริ่มแคมเปญต่อต้านสายลับโดยมุ่งเป้าไปที่บรรดาบริษัทที่ปรึกษา โดยมีการเผยชื่อว่าหนึ่งในบริษัทกลุ่มนี้สนับสนุนให้ข้อมูลลับของรัฐบาลจีนรั่วไหล ขณะที่บริษัทอื่น ๆ ในกลุ่มกำลังถูกสอบสวนว่าได้ข้อมูลละเอียดอ่อนมาโดยมิชอบด้วยกฎหมาย
ช่องทีวีของมณฑลเจียงซูรายงานว่า จีนได้เปิดตัวแคมเปญทั่วประเทศเพื่อต่อต้านการละเมิดความมั่นคงของชาติในหมู่บริษัทที่ปรึกษาต่าง ๆ ที่นักลงทุนต่างชาติและบริษัทข้ามชาติมักใช้บริการเพื่อดำเนินการวิจัยและสอบทานธุรกิจในจีน
ด้านหน่วยงานความมั่นคงของรัฐในเมืองซูโจวได้ไปเยี่ยมสาขาท้องถิ่นของแคปวิชั่น (Capvision) ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาที่มีสำนักงานใหญ่ในนิวยอร์กและเซี่ยงไฮ้ โดยทางการสอบปากคำพนักงานและมีการยึดสิ่งของต่าง ๆ
รัฐบาลกลางของจีนสั่งให้ตำรวจออกปฏิบัติการในลักษณะเดียวกันนี้พร้อมกันในหลายเมือง รวมถึงปักกิ่ง, เซี่ยงไฮ้ และเซินเจิ้น ซึ่งแคปวิชั่นมีออฟฟิศอยู่ในเมืองเหล่านั้น
รายงานระบุว่า บางบริษัทได้ข้อมูลละเอียดอ่อนมาอย่างผิดกฎหมายผ่านการติดต่อกับบุคคลที่ทำงานในหน่วยงานรัฐบาลและในภาคกลาโหมที่เข้าถึงข้อมูลลับของรัฐได้ ซึ่งก่อให้เกิดความเสี่ยงครั้งใหญ่ต่อความมั่นคงของชาติ
บริษัทอื่น ๆ ที่ได้รับผลกระทบเมื่อเร็ว ๆ นี้ รวมถึงบริษัทที่ปรึกษาเบน แอนด์ คัมพานี (Bain & Company) ของสหรัฐ ซึ่งยืนยันว่าทางการจีนสอบปากคำพนักงานของบริษัท และมินทซ์ กรุ๊ป (Mintz Group) ซึ่งเป็นองค์กรในนิวยอร์กที่ดำเนินงานด้านการสอบทานธุรกิจ นอกจากนี้ พนักงานของบริษัทแอสเทลลัส ฟาร์มา (Astellas Pharma Inc) ผู้ผลิตยาของญี่ปุ่น ก็ถูกทางการจีนควบคุมตัวด้วย
นายกาเบรียล วิลเดา กรรมการผู้จัดการของบริษัทที่ปรึกษาเทนีโอ โฮลดิ้งส์ (Teneo Holdings) กล่าวว่า “บริษัทต่างชาติจำเป็นต้องประเมินว่างานที่ตัวเองทำในจีนอาจถูกมองว่าสนับสนุนวาระที่ไม่เป็นมิตรหรือไม่ ข้อมูลที่อาจดูเหมือนไม่ละเอียดอ่อนหรือไม่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงของชาติ อาจถูกมองว่าละเอียดอ่อนได้หากใช้ในบริบทของการให้คำปรึกษาที่สนับสนุนวาระการต่อต้านจีนหรือหนุนการลดสายสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจกับจีน”
นายวิลเดาเสริมว่า งานใด ๆ ที่ดูคลุมเครือว่ามีความละเอียดอ่อนหรือไม่นั้นควรจะดำเนินการนอกประเทศจีนเนื่องจากไม่ชัดเจนว่าเส้นแบ่งความละเอียดอ่อนอยู่ตรงไหน
“ความรู้สึกของผมจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้ก็คือ พนักงานชาวจีนและชาวต่างชาติที่มาทำงานระยะยาวในจีนมีความเสี่ยงมากกว่าผู้บริหารที่มาเยือนในช่วงสั้น ๆ” นายวิลเดากล่าว
ขณะเดียวกัน สถานีโทรทัศน์ CCTV ของรัฐบาลจีนรายงานว่า บริษัทที่ปรึกษาบางแห่ง รวมถึงแคปวิชั่นเพิกเฉยต่อความเสี่ยงด้านความมั่นคงของชาติ และจงใจ “เลือก ล่อลวง และหลอกผู้เชี่ยวชาญและนักวิชาการในอุตสาหกรรมที่ละเอียดอ่อนให้จัดหาข้อมูลภายใน” ซึ่งทำให้บริษัทต่าง ๆ เหล่านี้กลายเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดกับหน่วยข่าวกรองต่างชาติในการสอดแนมความลับและข่าวกรองของรัฐบาลจีน
——————————————————————————————————————————————
ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์ / วันที่เผยแพร่ 9 พ.ค. 2566
Link : https://www.infoquest.co.th/2023/298788