นักรบต่างชาติ “วากเนอร์” เตรียมถอนกำลังทั้งหมดออกจากเมืองบัคมุต ภายในอีกไม่กี่วันข้างหน้า เนื่องจาก “ไม่ได้รับความสนับสนุนเพียงพอ” จากกระทรวงกลาโหมรัสเซีย ซึ่ง “ผิดสัญญา”
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย เมื่อวันที่ 7 พ.ค. ว่า นายเยฟเกนี พริโกซิน มหาเศรษฐีนักธุรกิจชาวรัสเซีย ที่เป็นหนึ่งในบุคคลใกล้ชิดของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน เผยแพร่แถลงการณ์ในฐานะผู้นำวากเนอร์ ส่งหนังสือถึงพล.อ.เซอร์เก ชอยกู รมว.กลาโหมรัสเซีย แจ้งการยุติปฏิบัติการทั้งหมดที่เมืองบัคมุต ในภูมิภาคดอนบาส ในวันที่ 10 พ.ค.นี้ เนื่องจาก “ไม่ได้รับการตอบสนองอย่างน่าพึงพอใจ” จากรัฐบาลมอสโก “ที่ให้คำมั่นสัญญา” ว่าจะส่งมอบเครื่องกระสุนปืนเพิ่มเติมให้แก่วากเนอร์
Wagner boss announces ‘withdrawal from Bakhmut’
Details: https://t.co/PZlhEVLxQh pic.twitter.com/2N5uL3FsAc
— RT (@RT_com) May 5, 2023
ขณะเดียวกัน พริโกซิน ระบุในจดหมายถึง พล.อ.ชอยกู เกี่ยวกับการเตรียมถ่ายโอนภารกิจทั้งหมดให้กับกองพันอัคห์มัต ของนายรัมซาน คาดีรอฟ ผู้นำสาธารณรัฐเชชเนีย
ด้านกระทรวงกลาโหมรัสเซีย ยังไม่มีปฏิกิริยาอย่างเป็นทางการ ต่อการประกาศของผู้นำวากเนอร์ อย่างไรก็ตาม ฟริโกซินออกคลิปหลายชิ้น เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ประณาม พล.อ.ชอยกู และพล.อ.วาเลอรี เกราซิมอฟ ประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมรัสเซีย ว่า “ความไม่เป็นมืออาชีพ” ของรัฐบาลมอสโก เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้นักรบวากเนอร์ “หลายหมื่นคนเสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บ” จากการสู้รบในยูเครน
ทั้งนี้ วากเนอร์ มีบทบาทมากขึ้นอย่างต่อเนื่องในสงครามยูเครน นับตั้งแต่ต้นปีนี้ โดยเฉพาะการเดินหน้ากระชับพื้นที่ทางฝั่งตะวันออก แต่กลับกลายเป็น “การงัดข้อ’ กับกระทรวงกลาโหมในกรุงมอสโก โดยพริโกซิน เคยกล่าวว่า พล.อ.เซอร์เก ชอยกู “ทรยศชาติ” จากการไม่ยอมมอบความสนับสนุนแก่วากเนอร์ ทั้งที่ร่วมสู้รบเคียงบ่าเคียงไหล่กับทหารรัสเซียในยูเครน
แม้ บัคมุต จัดเป็นเมืองขนาดเล็ก แต่รัสเซียถือว่า มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์ เนื่องจากเป็นเส้นทางหลัก เชื่อมต่อไปยังเมืองใหญ่กว่าที่อยู่ใกล้กัน คือ ครามาทอร์สค์ และสโลเวียนสค์ นอกจากนี้ เมืองบัคมุต ซึ่งเป็นเมืองเอกของภูมิภาคบัคมุต เป็นแหล่งเหมืองเกลือและยิปซัมที่สำคัญของยูเครนด้วย
เครดิตภาพ : AFP
——————————————————————————————————————————————
ที่มา : เดลินิวส์ออนไลน์ / วันที่เผยแพร่ 7 พ.ค. 2566
Link : https://www.dailynews.co.th/news/2301982/