รู้ทันภัย Phishing ปลอดภัยได้แค่ไม่ด่วนเชื่อและกด link ซี้ซั้ว

Loading

    แม้ว่าจะมีข่าวที่ประกาศเตือนภัยมิจฉาชีพในรูปแบบต่าง ๆ อยู่ทุกวัน แต่ในขณะเดียวกันก็มีข่าวของคนที่ตกเป็นเหยื่อแก๊งมิจฉาชีพอยู่ทุกวันเช่นเดียวกัน มูลค่าความเสียหายก็มีตั้งแต่ไม่กี่บาท (มักไม่เป็นข่าว แต่เริ่มมีการเตือนกันเองในหมู่คนรู้จัก) ไปจนถึงหลักล้านบาท ส่วนความเคลื่อนไหวของหน่วยงานที่มีหน้าที่รับผิดชอบก็เริ่มออกมาตรการต่าง ๆ เพื่อป้องกันประชาชนไม่ให้ตกเป็นเหยื่อมากขึ้น มาตรการแบบวัวหายแล้วล้อมคอก เพราะขยับตัวออกเดินตามหลังมิจฉาชีพอยู่หลายก้าว เรียกได้ว่าเป็นการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมทางการเงินของภาครัฐที่ทำงานไม่ทันโจรเท่าไรนัก   อย่างไรก็ตาม มาตรการการจัดการภัยทุจริตทางการเงิน ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยเพิ่งจะมีการออกมาตรการที่ชัดเจนเมื่อไม่นานที่ผ่านมาก็ค่อนข้างที่จะมีช่องโหว่อยู่พอสมควร อย่างเช่นมาตรการการให้ผู้ใช้บริการยืนยันตัวตนด้วย biometrics ในกรณีที่ลูกค้าทำธุรกรรมผ่าน mobile banking ในเงื่อนไขที่กำหนดไว้ อย่างการโอนเงินมากกว่า 50,000 บาท หรือปรับเพิ่มวงเงินทำธุรกรรมต่อวันเป็นตั้งแต่ 50,000 บาท ขึ้นไป ตรงจุดนี้ สำหรับคนหาเช้ากินค่ำที่ตกเป็นเหยื่อแก๊งมิจฉาชีพ จำนวนเงินที่ถูกโอนออกไปจากบัญชีอาจไม่มากถึง 50,000 บาท แต่มันก็เป็นเงินที่พวกเขาหามาอย่างยากลำบากและต้องเก็บไว้ใช้ดำรงชีพเหมือนกัน และมันอาจเป็นเงินสุทธิทั้งหมดที่พวกเขามีด้วย   นั่นหมายความว่าหากเหยื่อมีเงินในบัญชีไม่ถึง 50,000 บาท แล้วถูกมิจฉาชีพในกลโกงต่าง ๆ โอนเงินจำนวนนั้นออกไปทั้งหมด พวกเขาก็อาจจะไม่สามารถเข้าถึงมาตรการการยืนยันตัวตนก่อนที่เงินจะถูกโอนออกไป เพราะจำนวนเงินมันไม่ได้มากถึง 50,000 บาท ซึ่งเงินไม่ถึง 50,000 บาทที่โดนโกงไปนั้น มันก็ทำให้พวกเขาหมดตัวได้เช่นกัน…

การ์ทเนอร์เปิดผลสำรวจ ‘เทคคอมพานี’ บนภาวะวิกฤติ ขาดแคลน ‘คนไอที’

Loading

  หลังจากการเลิกจ้างพนักงานจำนวนมากของบริษัทในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี ทำให้ผู้นำธุรกิจและเทคโนโลยีต่างสรุปว่า “ภาวะขาดแคลนบุคลากรไอทีที่มีทักษะสูง หรือ Tech Talent Crunch” นั้นได้ผ่านพ้นไปแล้ว แต่สิ่งที่ปรากฏอาจเป็นเพียงภาพลวงตา   ผลวิจัยล่าสุดของ การ์ทเนอร์ พบว่า 86% ของผู้บริหารเทคโนโลยีสารสนเทศระดับสูง (CIOs) บอกว่า พวกเขากำลังเผชิญกับการชิงตัวบุคลากรที่มีคุณสมบัติอย่างที่ต้องการ และอีก 73% มีความกังวลกับประสิทธิภาพของบุคลากรไอทีที่ลดลง   เอ็มบูล่า เชิร์น ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัย การ์ทเนอร์ อิงค์ วิเคราะห์ว่า ปัญหาขาดแคลน Tech Talent ยังมีอยู่ต่อไป วิกฤติการขาดแคลนบุคลากรไอทีจะยังไม่จบสิ้นในวันนี้   เนื่องจากปัจจุบันยังมีอุปสงค์แรงงานด้านนี้มากกว่าอุปทานที่มีอยู่ในตลาดเป็นอย่างมาก การ์ทเนอร์คาดว่าปัญหานี้จะส่งผลกระทบลากยาวไปถึงปี 2569 เป็นอย่างน้อย สอดคล้องกับปริมาณการใช้จ่ายด้านไอทีตามที่คาดการณ์   ‘งานสายไอที’ โอกาสยังคงเปิดกว้าง   การ์ทเนอร์ระบุว่า พนักงานที่ได้รับผลกระทบจากเหตุเลิกจ้างจำนวนมากนั้นอยู่ในสายงานธุรกิจไม่ใช่สายเทคโนโลยีและงานด้านไอทียังมีโอกาสอยู่อีกมากไม่ได้จำกัดเพียงแค่บริษัทในสายเทคโนโลยี   จากการสำรวจพบว่า การปรับลดแรงงานจำนวนมากในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ส่วนใหญ่เกิดขึ้นจากบริษัทที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ต่าง ๆ พยายามปรับให้ราคาหุ้นอยู่ในระดับที่เหมาะสมและเพื่อลดค่าใช้จ่ายตามโจทย์ของผู้ถือหุ้น   ผลวิจัยการ์ทเนอร์พบด้วยว่า บริษัทที่อยู่เบื้องหลังการเลิกจ้างพนักงานที่มีความสามารถด้านเทคโนโลยีครั้งใหญ่ที่สุด…

สหรัฐฯ แจ้งข้อกล่าวหาอดีตวิศวกร Apple ขโมยข้อมูล Project Titan ให้จีน

Loading

  หน่วยจู่โจมด้านเทคโนโลยีที่รัฐบาลสหรัฐอเมริกาตั้งขึ้นเพื่อคุ้มครองเทคโนโลยีในประเทศได้แจ้งข้อกล่าวหาในคดีที่เกี่ยวกับความพยายามขโมยเทคโนโลยีเพื่อไปให้กับจีน รัสเซีย และอิหร่าน หนึ่งในผู้ต้องหาคืออดีตพนักงานของ Apple   พนักงานรายนี้ชื่อว่า เหวยเป่า หวัง (Weibao Wang) เป็นอดีตวิศวกรของ Apple วัย 35 ปี ถูกตั้งข้อหาพยายามขโมยระบบอัตโนมัติ โดยเฉพาะรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ ก่อนหลบหนีไปจีน   เขาเข้าร่วมงานกับ Apple ในปี 2016 ก่อนที่ในปีต่อมาจะตอบตกลงรับงานใหม่กับบริษัทจีนที่ตั้งอยู่สหรัฐฯ ซึ่งพัฒนารถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ แล้วค่อยไปลาออกจาก Apple ใน 4 เดือนให้หลัง   กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ (DOJ) เผยว่า Apple พบว่าในวันสุดท้ายของการทำงาน หวังได้เข้าไปดูข้อมูลของบริษัทจำนวนมาก   ในเดือนมิถุนายน 2018 เจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางได้เข้าตรวจค้นบ้านของหวัง และพบกับข้อมูลของ Apple จำนวนมหาศาล หลังจากนั้นไม่นาน หวังก็ขึ้นเครื่องบินหลบหนีไปจีน   ข้อมูลนี้เกี่ยวกับ Project Titan โครงการรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติที่ Apple พยายามพัฒนาขึ้นมาตั้งแต่ปี…

ญี่ปุ่นยกระดับความปลอดภัยประชุมผู้นำ G7 หลังเหตุโจมตีนายกฯ เดือนที่แล้ว

Loading

  ญี่ปุ่นยกระดับคุมเข้มมาตรการรักษาความปลอดภัย สำหรับการเป็นเจ้าภาพจัดประชุมสุดยอดผู้นำ G7 ครั้งที่ 49 ที่เมืองฮิโรชิมา ระหว่างวันที่ 19-21 พฤษภาคมนี้   โดยการเพิ่มมาตรการความปลอดภัยที่เข้มงวดดังกล่าวถือเป็นความท้าทายของรัฐบาลญี่ปุ่น หลังจากที่เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมาเกิดเหตุลอบทำร้ายนายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะ ด้วยระเบิดควัน และก่อนหน้านั้นในปี 2022 เกิดกรณีคนร้ายลอบสังหารอดีตนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ   เบื้องต้นมีรายงานว่าทางการญี่ปุ่นได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่กว่า 24,000 นายจากทั่วประเทศ เพื่อดูแลความปลอดภัยรอบสถานที่จัดประชุม และสถานที่สำคัญต่าง ๆ ภายในเมือง ขณะที่มีการลาดตระเวนตรวจสอบความเรียบร้อยอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งติดป้ายแจ้งประชาชนและนักท่องเที่ยวถึงมาตรการต่าง ๆ เช่น การปิดถนน ที่อาจก่อให้เกิดความวุ่นวายและยากลำบากแก่ประชาชน   นอกจากนี้ รัฐบาลญี่ปุ่นยังได้ขยายมาตรการความปลอดภัยไปยังเมืองใหญ่อื่น ๆ รวมถึงกรุงโตเกียว ในช่วงการประชุม โดยมีการส่งข้อความบนระบบรถไฟ แจ้งเตือนประชาชนถึงการปรับเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดยิ่งขึ้น และยกเลิกให้บริการตู้ล็อกเกอร์หยอดเหรียญในสถานีรถไฟต่างๆ ตลอดจนระงับใช้งานเครื่องจำหน่ายอัตโนมัติที่ตั้งอยู่บนชานชาลารถไฟใต้ดิน         ภาพ: Philip Fong / AFP   อ้างอิง: https://www.channelnewsasia.com/asia/japan-ramps-g7-security-fumio-kishida-attack-hiroshima-3494321…

สหรัฐประณามรัสเซีย จับอดีตเจ้าหน้าที่สถานกงสุลฐานเป็นสายลับ

Loading

    รัฐบาลวอชิงตันแสดงความไม่พอใจอย่างหนัก เมื่อพลเมืองรัสเซียซึ่งเคยทำงานให้กับสถานกงสุลสหรัฐ ถูกจับกุมฐานเป็นจารชน   สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 17 พ.ค. ว่า กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ ออกแถลงการณ์เมื่อวันอังคารว่า การที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของรัฐบาลมอสโกจับกุม นายโรเบิร์ต โชนอฟ อดีตพนักงานชาวรัสเซียของสถานกงสุลใหญ่สหรัฐประจำเมืองวลาดีวอสตอค ซึ่งระงับภารกิจ เมื่อปี 2564 และดำเนินคดีเกี่ยวกับ “ความร่วมมือลับกับรัฐต่างชาติ” นั้น “ไม่เป็นความจริงอย่างสิ้นเชิง” Former employee of US consulate charged by Russia with espionage https://t.co/DkNRTJYWMW — The Guardian (@guardian) May 15, 2023 อย่างไรก็ตาม นายเซอร์เก ริบคอฟ รมช.การต่างประเทศรัสเซีย กล่าวถึงการจับกุมโชนอฟ ว่า สะท้อนให้เห็นถึง “รัฐไม่เป็นมิตรยังคงไม่หยุดกิจกรรมที่ยากเกินรับได้” ขณะที่สื่อท้องถิ่นหลายแห่งของรัสเซียรายงานว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของรัฐบาลมอสโกจับกุมโชนอฟ ซึ่งเคยทำงานให้กับสถานกงสุลใหญ่ของสหรัฐเป็นเวลานานถึง 25…

คนสิงคโปร์ทำแบบสอบถามออนไลน์หวังรับชานมไข่มุกฟรี สุดท้ายโดนแฮ็กเอาเงินกว่า 5 แสนบาท

Loading

    ระวังให้ดี! ลูกค้าร้านชานมไข่มุกที่สิงคโปร์ทำแบบสอบถามออนไลน์เพื่อรับชานมฟรีหนึ่งแก้ว   ลูกค้าร้านชานมไข่มุกที่สิงคโปร์คนหนึ่งเห็นสติกเกอร์ที่ประตูกระจกของร้าน ชวนทำแบบสอบถามออนไลน์เพื่อรับชานมฟรีหนึ่งแก้ว เธอเห็นว่าเป็นการสำรวจของทางร้านก็น่าจะไม่มีปัญหาอะไร สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อให้ได้ลิงก์เข้าไปโหลดและติดตั้งแอปฯ เพื่อทำแบบสอบถาม   แต่คืนนั้นขณะที่เธอนอนหลับอยู่ จู่ ๆ โทรศัพท์มือถือของเธอก็สว่างขึ้นมีแฮ็กเกอร์เข้ามาย้ายเงินจากบัญชีของเธอออกไป 20,000 เหรียญ (ประมาณ 512,000 บาท) จากแอปฯ ที่เธอติดตั้งไปเพื่อทำแบบสอบถามชิงรางวัล   เธอไม่ใช่รายเดียวที่ถูกหลอกให้โหลด “แอปขโมยเงิน” ตำรวจไซเบอร์ของสิงคโปร์บอกว่า ในเดือนเมษายน ตำรวจและหน่วยงานความมั่นคงทางไซเบอร์ของสิงคโปร์เตือนประชาชนเกี่ยวกับการดาวน์โหลดแอปจากเว็บไซต์ที่น่าสงสัยซึ่งอาจนำไปสู่การติดตั้งมัลแวร์บนโทรศัพท์มือถือของเหยื่อ มีคนถูกหลอกขโมยเงินในรูปแบบนี้ไปแล้ว 113 ราย มูลค่าความเสียหายรวมกันไม่ต่ำกว่า 445,000 เหรียญ หรือประมาณ 11.4 ล้านบาท   นอกจากแบนเนอร์ในเว็บไซต์ต่างๆ ตอนนี้มิจฉาชีพเริ่มใช้วิธีนำสติกเกอร์ไปติดตามร้านอาหาร ร้านเครื่องดื่ม ทำเนียน ๆ ว่าเป็นของทางร้าน   ตำรวจยังบอกอีกว่าเหตุลักษณะนี้มักจะเกิดกับผู้ใช้โทรศัพท์ในระบบแอนดรอยด์ด้วย จึงขอให้ระมัดระวังเป็นพิเศษ         ที่มา: asiaone    …