“กรมการขนส่งทางบก” เตือน!!! ประชาชนอย่าหลงเชื่อเพจมิจฉาชีพรับทำหรือต่ออายุใบขับขี่ออนไลน์ อย่าโอนเงินและอย่าโพสต์ใบขับขี่ของตนเองลงสื่อโซเชียลมีเดียเด็ดขาด เผยดำเนินการทางกฎหมายกับเพจแล้ว 146 ราย พร้อมเปิดรายชื่อเพจมิจฉาชีพทำใบขับขี่ปลอมทางออนไลน์กว่า 271 เพจ สามารถตรวจสอบได้ที่คิวอาร์โค้ด
นายเสกสม อัครพันธุ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) และโฆษก ขบ. เปิดเผยว่า ยังคงตรวจสอบเพจมิจฉาชีพรับทำหรือต่ออายุใบขับขี่ออนไลน์และดำเนินการทางกฎหมายในเรื่องดังกล่าวอย่างจริงจังและต่อเนื่อง โดยประชาชนได้มีส่วนร่วมในการแจ้งเรื่องร้องเรียนหรือเบาะแสมายัง ขบ. และ ขบ. ได้แจ้งความดำเนินคดีไปแล้ว 146 ราย ทั้งนี้ จากการตรวจสอบยังพบกลุ่มเพจมิจฉาชีพอีกกว่า 271 เพจ (สามารถตรวจสอบได้ที่คิวอาร์โค้ด)
โดยขอเตือนประชาชนว่าอย่าหลงเชื่อเด็ดขาด และแนะนำสังเกตพฤติกรรมของกลุ่มมิจฉาชีพจะนำรูปตราสัญลักษณ์ ขบ. มาใส่ในรูปโปรไฟล์ หรือนำรูปภาพของผู้ที่ได้รับใบขับขี่มาแอบอ้าง เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ โดยจะโฆษณาหลอกลวงว่าสามารถออกใบขับขี่โดยไม่ต้องเดินทางไปที่สำนักงานขนส่ง และมีการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายในการดำเนินการอยู่ที่ประมาณ 1,000-6,000 บาท เมื่อผู้เสียหายโอนเงินไปแล้วจะเรียกร้องให้โอนเงินเพิ่มอีกและเงียบหาย ไม่สามารถตามคืนได้หรือจะได้รับใบขับขี่ปลอม
นายเสกสม กล่าวต่อว่า รวมทั้งยังมีการแอบอ้างในการอบรมต่ออายุใบขับขี่แทน โดยกลุ่มมิจฉาชีพมีพฤติกรรมแอบอ้างว่าจะอบรมต่ออายุใบขับขี่แทนผู้เสียหายและจองคิวให้ผู้เสียหายเข้ามาถ่ายรูปทำใบขับขี่ ณ สำนักงานขนส่ง พร้อมหลอกให้ผู้เสียหายส่งหน้าบัตรใบขับขี่และโอนเงินไปให้ หรือโฆษณาหลอกลวงว่า “ใบขับขี่หมดอายุ ไม่มีเวลาอบรม รับจองคิวพร้อมอบรมต่ออายุใบขับขี่ทุกชนิด เจ้าตัวต้องเข้าไปถ่ายรูปทำบัตรด้วยตนเองที่สำนักงานขนส่ง”
ขอเตือนประชาชนว่าอย่าหลงเชื่อหรือทำธุรกรรมกับเพจเหล่านี้เด็ดขาด จะทำให้สูญเสียทรัพย์สินและเอกสารส่วนบุคคล และเสี่ยงได้รับใบขับขี่ปลอม ซึ่งผู้หลงเชื่อจะมีความผิดฐานปลอมแปลงหรือใช้เอกสารราชการปลอมตามประมวลกฎหมายอาญา มีโทษถึงขั้นจำคุกตั้งแต่ 6 เดือน-5 ปี และปรับตั้งแต่ 10,000-100,000 บาท และบุคคลที่แอบอ้างว่าสามารถอบรมต่ออายุใบขับขี่แทนได้ก็เข้าข่ายเป็นการช่วยเหลือ หรือให้ความสะดวกในการที่ผู้อื่นกระทำความผิดก่อน หรือขณะกระทำความผิด ซึ่งจะมีความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดฐานปลอมแปลง หรือใช้เอกสารราชการปลอมตามประมวลกฎหมายอาญา ต้องระวางโทษสองในสามส่วนของโทษที่กำหนดไว้สำหรับความผิดที่สนับสนุนนั้น
นายเสกสม กล่าวอีกว่า นอกจากนี้บุคคลที่จัดทำเพจเฟซบุ๊กปลอมรับทำและรับอบรมต่อใบขับขี่ปลอม ซึ่งถือเป็นการนำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน ก็จะมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
สำหรับการขอรับใบขับขี่ทุกชนิดมีมาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ ผู้ที่ต้องการขอรับใบขับขี่สามารถดำเนินการ ตั้งแต่การตรวจสอบเอกสาร การทดสอบสมรรถภาพร่างกาย การอบรม การทดสอบข้อเขียน การทดสอบขับรถ ที่สำนักงานขนส่งหรือโรงเรียนสอนขับรถที่รับรองโดยกรมการขนส่งทางบก และการถ่ายรูปเพื่อออกใบอนุญาตขับรถต้องมาดำเนินการได้ที่สำนักงานขนส่งเท่านั้น
นายเสกสม กล่าวด้วยว่า สำหรับผู้ที่ต้องการขอรับใบขับขี่ใหม่สามารถจองคิวล่วงหน้าผ่านแอปพลิเคชัน DLT Smart Queue ซึ่งสามารถเลือกสำนักงานขนส่ง วันและเวลาที่สะดวกได้ด้วยตนเอง ซึ่งอัตราค่าธรรมเนียมตามกฎหมายกำหนด (รวมค่าคำขอ) ใบขับขี่รถยนต์ส่วนบุคคลชั่วคราว 205 บาท ใบขับขี่รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลชั่วคราว 105 บาท ในส่วนการต่ออายุใบขับขี่สามารถเข้ารับบริการได้โดยไม่ต้องจองคิวล่วงหน้า (walk in) อัตราค่าธรรมเนียมในการต่ออายุใบขับขี่รถยนต์ส่วนบุคคล 505 บาท ใบขับขี่รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล 255 บาท พร้อมเตือนประชาชนอย่าโพสต์ใบขับขี่ของตนเองลงโซเชียลมีเดีย เพราะเสี่ยงโดนกลุ่มมิจฉาชีพจะนำไปแอบอ้าง ทั้งนี้ หากประชาชนท่านใดพบเพจเฟซบุ๊กปลอมขอให้กดรายงานบัญชีหรือเพจเฟซบุ๊ก (report) หรือสามารถแจ้งเบาะแสมายังกรมการขนส่งทางบกได้โดยตรง หรือโทรฯ สายด่วน 1584 ตลอด 24 ชั่วโมง
——————————————————————————————————————————————
ที่มา : เดลินิวส์ออนไลน์ / วันที่เผยแพร่ 9 พ.ค. 2566
Link : https://www.dailynews.co.th/news/2308637/