คำศัพท์ไอที น่ารู้ในปี 2023
คำศัพท์ไอที คำย่อ ตอนนี้มีเยอะแยะมากมาย เรามาดูกันดีกว่าว่า คำที่ฮิต ฮอท ถูกพูดถึงเยอะมาก ๆ ในตอนนี้มีคำว่าอะไรกันบ้างที่เราพลาดไม่ได้
ช่วงนี้เราจะเห็นเทคโนโลยีใหม่ ๆ เกิดขึ้นมาอยู่เรื่อยๆ ทำให้เราจะได้ยิน คำศัพท์ไอที แปลก ๆ ใหม่ ๆ หรือบางคำก็เป็นคนที่เราคุ้นเคย แต่เราก็อาจจะหลงลืมความหมายไปแล้ว งัันวันนี้เรามาได้รวบรวมคำศัพทางท์เทคโนโลยีที่น่าสนใจมาดูกันดีกว่าว่า มันหมายถึงอะไรกันบ้าง
คำศัพท์ไอที : ChatGPT
ChatGPT เอไอที่มาแรงกลายเป็น Talk of the town กันมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว ซึ่งจริง ๆ แล้ว ChatGPT ก็คือ Chatbotที่ มี AI โมเดลด้านภาษาที่ชื่อว่า GPT เวอร์ชัน 3.5 หรือ 4 ทำงานอยู่เบื้องหลัง ทำให้สามารถโต้ตอบกับเราได้เป็นธรรมชาติมาก ๆ เหมือนเรากำลังคุยอยู่กับคนจริง ๆ เลย
ภาพ ChatGPT
ถ้าเราย้อนไปดู Chatbot สมัยก่อนก็จะทำงานตามที่โปรแกรมเอาไว้ โดยให้คำตอบจาก Keyword ของผู้ถาม ทำให้หลาย ๆ ครั้ง คำตอบจึงไม่ตรงกับคำถาม แต่ ChatGPT มี AI ทำงานอยู่เบื่องหลังทำให้ไม่ได้เลือกคำตอบจาก Keyword เท่าน้น แต่ยังเข้าใจสิ่งที่ถามด้วย
เพราะความสามารถของ ChatGPT ก็คือการสร้างคำตอบจากการวิเคราะห์คำ ความสัมพันธ์ของคำในประโยค บริบทของประโยค และย่อหน้า ทำให้คำตอบของ ChatGPT จะเป็นคำตอบที่สร้างขึ้นใหม่ทุกครั้ง ไม่ใช่การตอบตามที่โปรแกรมเอาไว้ตายตัว
ซึ่งตอนนี้เวอร์ชั้น ใช้ฟรีจะใช้โมเดลภาษา GPT-3.5 และเอวร์ชั่น Plus ที่เราต้องจ่ายรายเดือน เดือนละ 20 เหรียญสหรัฐ จะใช้โมเดลภาษา GPT-4 ที่มีความสามารถกว้างขึ้นและลึกขึ้น รองรับคำถามที่มีความซับซ้อนมากขึ้น และทำเรื่องของ Reasoning หรือการวิเคราะห์เหตุผลได้ดีขึ้นกว่า GPT 3.5 ด้วย แถมยังมีความแม่นยำก็กว่าขึ้นประมาณ 40% ถ้าเป็นในเชิงวิชาการแล้ว ถือว่าเทียบเท่าความสามารถของมนุษย์แล้ว
อีกเรื่องที่เด่น ๆ ของ ChatGPT ที่ใช้โมเดล GPT-4 คือ มีเรื่องของจริยธรรมมากขึ้น ไม่ตอบอะไรที่ไม่สมควรจะตอบ และก็ตอบได้มั่วน้อยลง และยังสามารถรับข้อมูลแบบ Multimodal ที่ไม่ใช่แค่รับข้อความอย่างเดียวแบบ GPT รุ่นก่อน ๆ แต่ยังสามารถรับอินพุตเป็นรูปภาพ เสียง หรือ VDO ได้ด้วย
กราฟแสดงผลคะแนนของ GPT-3.5 และ GPT-4 ภาพจาก GPT-4 (openai.com)
คำศัพท์ไอที : Big Data
และการฝึก AI ให้เก่งได้แบบนี้ก็ต้องใช้ข้อมูล ซึ้งข้อมูลยิ่งเยอะก็ยิ่งทำให้ AI ฉลาดขึ้น พอพูดถึงข้อมูล เราก็จะมีคนพูดคำว่า Big Data กันขึ้นมาบ่อย ๆ แล้วมันคืออะไรกัน?
Big Data แปลว่า ข้อมูลขนาดใหญ่ มากมายมหาศาลจนต้องใช้วิธีจัดการแบบใหม่ ซึ่งก็เป็นได้ทั้งข้อมูลเชิงธุรกิจ ข้อมูลลูกค้าของบริษัทใหญ่ ๆ ข้อความ ภาพ คลิปวิดีโอ ที่ไม่มีมีระเบียบ นอกจากจะเยอะมากแล้ว ยังมีความหลากหลายมาก ทำให้การจัดการข้อมูลเหล่านี้ต้องอาศัยเครือ่งมือพิเศษในการจัดการ คนธรรมดาอย่างเราๆ ไม่ไหวแน่นอน งานตรงนี้เลยต้องเอา AI เข้ามาช่วย เลยทำให้เกิดการฝึก AI เพื่อจัดการข้อมูลเหล่านี้ AI กับ Big Data เลยมักจะเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกัน
เรามักจะนำ AI มาวิเคราะห์ Big Data แล้วก็เกิดเป็นการทำนาย การวิเคราะห์ประกอบการตัดสินใจทางธุรกิจ หรือ เกิดเป็นบริการต่าง ๆ ขึ้นมา ตัวอย่างเช่นการใช้ AI มาวิเคราะห์ข้อมูลในร้านค้าออนไลน์ เราเลยจะเห็นได้ว่า แค่เรากดเข้าไปดูสินค้า แต่ยังไม่ทันซื้อเลย ผ่านไปไม่กี่นาที ก็มีโฆษณาของสินค้าคล้าย ๆ กันเด้งขึ้นมาที่หน้าฟีดเรา ที่เค้ารู้ได้ นั้นก็เพราะเค้าเก็บข้อมูลของเราไป แล้วทำการวิเคราะห์ว่าเราสนใจสินค้าอะไรบ้าง แล้วก็เอาสินค้านั้นมาโฆษณาให้เราดู
ซึ่งก็ไม่ได้เก็บไปแค่เรื่องชัอปปิ้งเท่านั้น แต่เก็บทุกอย่าง ทั้งภาพที่เราชอบกดไลค์ คลิปที่เราชอบดู แฮชแทกเวลาเราทวีท ข้อมูลของเราทุกอย่างถูกเก็บไปหมด แล้วเอาไปวิเคราะห์พฤิกรรมของเรา เพื่อหาช่องทางทำเงินจากการใช้ Social Media ของเรา
แล้วเรื่องของ Big Data ก็ไม่ได้ใช้แค่ในวงการธุรกิจเท่านั้นนะคะ แต่ในวงการการเมืองก็ใช้กันด้วย อย่างเมื่อปี 2012 แคมเปญหาเสียงของอดีตประธานาธิปดี Obama ก็ถูกสร้างขึ้นด้วยการวิเคราะห์ข้อมูล Big Data จนสามารถชนะการเลือกตั้งสมัยที่สองได้
คำศัพท์ไอที : Scams
Scams แปลว่า การหลอกลวง ซึ่งบนโลกอินเทอร์เน็ตมีการหลอกลวงเยอะมาก จึงขอยกตัวอย่างมาซัก 3 วิธีที่มิจฉาชีพใช้กับบ่อย และมีเหยื่อโดนหลอกเอาเงินไปหลายรายแล้ว
Romance Scams หรือหลอกให้รักแล้วโอนเงิน วิธีนี้คนร้ายจะเข้ามาตีสนิทเรา แล้วสร้างเรื่องต่าง ๆ ที่ให้ความหวังหรือที่น่าเห็นใจ จนหลอกให้เราโอนเงินไปให้
Hybrid scams วิธีนี้ใช้ความโลภของเราเนี้ยแหละค่ะ หลอกให้เราลงทุน แต่แทนที่จะให้ค่าตอบแทนตามที่สัญญากันไว้ กลับชิ่งหนี
Remote access scams เป็นการหลอกให้กดลิงก์ หรือดาวน์โหลดแอป ทำให้คนร้ายเข้ามาควบคุมมือถือของเราจากระยะไกล แล้วเขาก็จะทำอะไรกับมือถือของเราก็ได้ ทั้งดูดข้อมูลของเราไป หรือโอนเงินของเราออกไปก็ได้
วิธีป้องกัน Scam
ซึ่งวิธีป้องกันไม่ให้โดนหลอกก็คือ อย่าหลงเชื่อใครง่าย ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่เราไม่รู้จัก อยู่ดี ๆ ก็โทรเข้ามา แอดไลน์เรามาจากไหนก็ไม่รู้ แล้วถ้าเขาส่งลิงก์อะไรมาให้ก็อย่ากดเข้าไปเด็ดขาด เพราะถ้าพลาดกดเข้าไปแค่ทีเดียว เงินอาจจะหายไปหมดบัญชีเลยก็ได้
————————————————————————————————————————-
ที่มา : ไอที 24 ชั่วโมง / วันที่เผยแพร่ 7 มิ.ย.66
Link : https://www.it24hrs.com/2023/it-words/