AFP
เมื่อสิบปีก่อน เอ็ดเวิร์ด สโนว์เดนเปิดโปงปฏิบัติการจารกรรมของหน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ จากนั้นเขาต้องซ่อนตัว ลี้ภัยไปยังรัสเซีย และตอนนี้ได้ฉลองวันเกิดครบรอบ 40 ปีที่นั่น
ก่อนหน้านั้นเขาเคยยื่นเรื่องขอลี้ภัยไปลาตินอเมริกาและยุโรปด้วยเหมือนกัน แต่ไม่มีประเทศไหนรับประกันความปลอดภัยของเขาได้ รัสเซียมองเห็นประโยชน์จากกรณีของสโนว์เดนในการกล่าวหาสหรัฐฯ ว่า “สองมาตรฐาน” จึงอ้าแขนต้อนรับเขา เพื่อสะท้อนให้เห็นว่าสหรัฐฯ ประเทศซึ่งอ้างตัวเป็นต้นแบบของเสรีภาพและประชาธิปไตย แต่กลับข่มเหงทางการเมืองกับสโนว์เดนและคนอื่น ๆ
วันพุธที่ 21 มิถุนายนที่ผ่านมา สโนว์เดนฉลองวันเกิดครบรอบ 40 ปีพร้อมกับการได้สัญชาติรัสเซีย วันศุกร์เมื่อสิบปีก่อนเขาเดินทางถึงมอสโกด้วยเครื่องบินของสายการบินแอโรฟลอต เขาใช้เวลานานถึง 40 วันในเขตทรานสิตที่สนามบินเชเรเมเตียโว ท่ามกลางสื่อมวลชนทั่วโลกที่พยายามเข้าถึงตัวเขา ก่อนหน้านั้นไม่นานเขาได้ส่งมอบเอกสารเกี่ยวกับการสอดแนมของหน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ และ GCHQ ของอังกฤษให้กับสื่อมวลชน
ตามคำบอกเล่าของสโนว์เดน เขาต้องการเดินทางไปยังเอกวาดอร์ โดยผ่านฮ่องกง แต่แล้วเขาต้องไปติดอยู่ที่สนามบินเชเรเมเตียโวในมอสโก หลังจากที่สหรัฐฯ ยกเลิกหนังสือเดินทางของเขา เขาไม่มีวีซ่าผ่านแดน และดูเหมือนไม่มีประเทศไหนอยากยุ่งกับสหรัฐฯ เหลือแต่รัสเซียภายใต้การนำของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินเท่านั้นที่กล้าเปิดประตูบ้านต้อนรับเขา ถึงตอนนั้นสโนว์เดนก็นิ่งเงียบเกี่ยวกับการเมืองของรัสเซีย แลกกับแหล่งพักพิงที่ถูกปกปิดเป็นความลับ
หลังจากครบรอบหนึ่งปีของการลี้ภัย สโนว์เดนให้สัมภาษณ์กับเกลนน์ กรีนวัลด์-นักข่าวสหรัฐฯ ยืนยันว่าข้อมูลเกี่ยวกับการซ้อมรบที่รั่วไหลจากหน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ นั้นเขาเก็บไว้อย่างดีในที่ที่ปลอดภัย เขายังกล่าวถึงการรวบรวมข้อมูลที่ผิดกฎหมายโดยรัฐ และวิจารณ์สหรัฐฯ ที่เก็บข้อมูลลับมากเกินไป แต่จนถึงทุกวันนี้สาธารณชนทั่วไปยังไม่รู้เกี่ยวกับข้อมูลลับที่เขาได้มา
เมื่อเร็ว ๆ นี้สโนว์เดนถูกถามว่า เขาจะทำอะไรหากได้เป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ เขาตอบผ่านทวิตเตอร์ว่า “ผมจะลดจำนวนสิ่งที่เราจัดระดับขั้นความลับลงให้มากกว่า 99 เปอร์เซ็นต์” สโนว์เดน-สมาชิกคณะกรรมการมูลนิธิเสรีภาพสื่อมวลชนแห่งสหรัฐฯ เรียกร้องให้มีการคุ้มครองสื่อและผู้แจ้งเบาะแสที่เปิดเผยการละเมิดมากขึ้น หลังจากการเสียชีวิตของแดเนียล เอลส์เบิร์ก-นักเคลื่อนไหวเพื่อสันติภาพและผู้ก่อตั้งมูลนิธิเมื่อสองสัปดาห์ที่แล้ว สโนว์เดนกล่าวหาสหรัฐฯ อีกครั้งว่ากระทำการ “ละเมิด” ด้วยข้อมูลลับของทางการ เอลส์เบิร์กชี้ให้เห็นว่าหน่วยสืบราชการลับต้องการสร้าง “ระบบการควบคุม” ทางการเมืองเป็นหลัก ไม่ได้ทำเพื่อปกป้องสาธารณชน รัฐจึงบ่อนทำลายประชาธิปไตยเสียเอง
สโนว์เดนใช้ชีวิตอยู่อย่างสงบระหว่างลี้ภัยในรัสเซีย เขายื่นขอสัญชาติรัสเซียพร้อมกับลินด์เซย์-ภรรยาของเขา หลังจากเธอให้กำเนิดลูกชายในปี 2020 เพื่อให้มีสิทธิเท่าเทียมกับเด็กคนอื่นเมื่อกลายเป็นคนรัสเซียโดยอัตโนมัติ แต่ทั้งสองยังไม่ได้สละสัญชาติสหรัฐฯ
ปฏิกิริยาจากวอชิงตันเป็นไปตามคาด เน็ด ไพรซ์-โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ กล่าวว่า สโนว์เดนส่งสัญญาณความจงรักภักดีต่อรัสเซียมานานแล้ว จึงไม่ใช่เรื่องน่าประหลาดใจ แต่อย่างไรก็ตามยังไม่มีหลักฐานใด ๆ ชี้ชัดถึงความร่วมมือระหว่างสโนว์เดนกับรัสเซีย.
—————————————————————————————————————————————
ที่มา : ไทยโพสต์ / วันที่เผยแพร่ 26 มิ.ย.66
Link : https://www.thaipost.net/abroad-news/403585/