พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ โฆษกกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) เปิดเผยข้อมูลว่าจากการตรวจสอบเจ้าหน้าที่พบกลุ่มเฟซบุ๊กแบบปิด (Private Group) ซึ่งมีการนำเสนอซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้า และสิ่งของที่ผิดกฎหมายต่าง ๆ มีสมาชิกประมาณ 100,000 บัญชี
โดยมีผู้ใช้บัญชีเฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์ข้อความประกาศขายฐานข้อมูลของลูกค้ากลุ่มการพนันออนไลน์ ได้แก่ ชื่อ-นามสกุล หมายเลขโทรศัพท์ หมายเลขบัญชีธนาคาร และไลน์ไอดีของลูกค้า เป็นต้น ขายในราคาต่าง ๆ โดยเริ่มตั้งแต่ 100,000 รายชื่อ ราคา 500 บาท ไปจนถึง 2,000,000 รายชื่อ ราคา 3,500 บาท เพื่อให้ผู้ซื้อนำไปใช้ทำการตลาด นำข้อมูลที่ได้ไปใช้โทรศัพท์ติดต่อ หรือส่งข้อความสั้น (SMS) หรือแอดไลน์ไปยังรายชื่อดังกล่าว และหากซื้อข้อมูลดังกล่าวไปแล้วจะมีการอัปเดตข้อมูลให้ฟรี นอกจากนี้แล้วยังมีการโพสต์ประกาศรับเปิดเว็บไซต์พนันออนไลน์เริ่มต้นเพียง 6,500 บาท พร้อมดูแลระบบ และออกแบบหน้าเว็บไซต์ให้ฟรีอีกด้วย
เจ้าหน้าที่ตำรวจสังกัด บก.สอท.5 จึงได้ทำการสืบสวนสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบความเชื่อมโยง และทำการพิสูจน์จนทราบตัวผู้กระทำผิด กระทั่งได้เข้าทำการจับกุมตัวผู้ต้องหาดังกล่าวได้ในเขตพื้นที่ จ.ตรัง และขยายผลเข้าตรวจค้นบ้านพักผู้ต้องหา นายผดุงเกียรติ อายุ 28 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดภูเก็ต ที่บ้านในพื้นที่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต
ผลการตรวจค้นพบฐานข้อมูลส่วนบุคคล และพบหลักฐานว่าผู้ต้องหาเป็นแอดมินดูแลระบบหลังบ้านของเว็บการพนันออนไลน์ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า มีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านระบบคอมพิวเตอร์ โดยได้จบการศึกษาจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาคอมพิวเตอร์ ใน มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ต่อมาเมื่อปี 65 ได้เริ่มทำเว็บพนันออนไลน์ ทำหน้าที่เป็นแอดมินดูแลระบบหลังบ้าน
ต่อมาเมื่อ มิ.ย.65 ได้ทำการซื้อข้อมูล และรายชื่อลูกค้ามาจากสมาชิกในกลุ่มเฟซบุ๊ก จำนวน 2,000,000 รายชื่อ ในราคา 8,000 บาท เพื่อนำมาใช้ทำการตลาดโฆษณาเว็บพนันออนไลน์ที่ตนดูแลอยู่ จากนั้นเดือนต่อมาตนได้เลิกทำเว็บพนันออนไลน์ แต่ได้เริ่มนำข้อมูลรายชื่อดังกล่าว มาประกาศขายในสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ โดยเริ่มทำมาได้ประมาณ 1 ปีเศษ มีลูกค้าเข้ามาซื้อข้อมูล 15-20 ราย/เดือน มีรายได้เฉลี่ยเดือนละประมาณ 50,000 บาท ทราบว่าลูกค้าส่วนใหญ่ซื้อข้อมูลเพื่อนำไปใช้ในการทำการตลาดเว็บพนันออนไลน์เช่นกัน และในบางส่วนกลุ่มมิจฉาชีพอาจนำข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวไปใช้ในการหลอกลวงเอาทรัพย์สินจากประชาชน
ตร.แจ้งข้อหา “ทุจริตหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชนฯ หรือโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของประเทศ ความปลอดภัยสาธารณะ ความมั่นคงในทางเศรษฐกิจของประเทศฯ ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ พ.ศ.2550 มาตรา 14(1)(2), จัดให้มีการเล่น หรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นพนันฯ ตาม พ.ร.บ.การพนันฯ พ.ศ.2478 มาตรา 12 และล่วงรู้ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้อื่นเนื่องจากการปฏิบัติหน้าที่ฯ นำไปเปิดเผยแก่ผู้อื่น ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 มาตรา 80 ” พร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือ เครื่องคอมพิวเตอร์ สมุดบัญชีธนาคาร และอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล นำตัวส่ง พงส.บก.สอท.5 ดำเนินคดีตามกฎหมาย
โฆษก บช.สอท. กล่าวเพิ่มเติมว่า การกระทำในลักษณะดังกล่าวเป็นกระทำที่ผิดกฎหมายหลายบท มีอัตราโทษจำคุกสูงสุดถึง 5 ปี ไม่ว่าจะเป็น พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 (PDPA) ซึ่งเป็นกฎหมายที่ป้องกันการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงการจัดเก็บข้อมูล และนำไปใช้โดยไม่ได้แจ้งให้ทราบ และไม่ได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลเสียก่อน และขอฝากไปยังประชาชนว่าในการใช้งาน หรือเข้าถึงเว็บไซต์ หรือบริการต่าง ๆ บนสื่อสังคมออนไลน์ ให้พึงระมัดระวังการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลทางการเงิน ซึ่งมิจฉาชีพอาจเข้ามาฉวยโอกาสนำข้อมูลเหล่านี้ไปแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบได้
—————————————————————————————————————————————-
ที่มา : จส.100 / วันที่เผยแพร่ 15 ก.ค.66
Link : https://www.js100.com/en/site/news/view/131324