ธนาคารแห่งประเทศไทยรายงานถึงการพัฒนามาตรการเพื่อป้องกันการทุจริตทางการเงิน หรือที่มักเรียกกันว่าแอปดูดเงิน โดยพบว่าช่วงต้นปีที่ผ่านมา มูลค่าความเสียหายค่อย ๆ ลดลงเรื่อย ๆ จนเหลือ 116 ล้านบาทในเดือนเมษายนที่ผ่านมา แต่พอมาถึงเดือนพฤษภาคมและมิถุนายนก็กลับมียอดความเสียหายเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากคนร้ายอาศัยเทคนิคใหม่ ๆ
แนวทางใหม่ของคนร้าย เช่น การหลอกลวงด้วยบทใหม่ ๆ ที่แนบเนียนขึ้น มีการปลอมตัวเป็นหน่วยงานราชการ, บริษัทขนาดใหญ่, หรือญาติพี่น้อง กระบวนการส่ง SMS นั้นอาศัยแนวทางสร้างเสาสัญญาณโทรศัพท์ปลอมเพื่อส่ง SMS ได้โดยไม่ผ่านเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ ตลอดจนแอปดูดเงินเวอร์ชันใหม่ ๆ มีความสามาถหลบการตรวจจับโดยธนาคาร
ความเสียหายรวม ย้อนหลัง 7 เดือน
• ธันวาคม 2022: 182 ล้านบาท
• มกราคม 2023: 185 ล้านบาท
• กุมภาพันธ์ 2023: 161 ล้านบาท
• มีนาคม 2023: 135 ล้านบาท
• เมษายน 2023: 116 ล้านบาท
• พฤษภาคม 2023: 200 ล้านบาท
• มิถุนายน 2023: 173 ล้านบาท
แนวทางต่อไปหลังจากนี้คือการเพิ่มระบบตรวจสอบการทุจริตระดับ new-realtime เพื่อตรวจจับและล็อกบัญชีหากพบรูปแบบการโอนเงินที่น่าจะเป็นการทุจริต จะเสร็จสิ้นภายในสิ้นปีนี้ แนวทางนี้มีการใช้งานในหลายประเทศ Mastercard พัฒนาระบบร่วมกับ 9 ธนาคารในสหราชอาณา่จักรระบุว่าได้ผลดี แต่สิงคโปร์ที่ใช้งานระบบนี้มากลับหยุดความเสียหายได้เพียง 94,000 ดอลลาร์สิงคโปร์จาก 8 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์เท่านั้น
ที่มา – ธนาคารแห่งประเทศไทย
————————————————————————————————————————-
ที่มา : Blognone by lew / วันที่เผยแพร่ 13 ก.ค.66
Link : https://www.blognone.com/node/134818