สังคมโลก : มุดจีมา

Loading

  มือมีดที่บุกแทงคนในรถไฟใต้ดินที่แน่นขนัด หรือคนร้ายที่ไล่แทงผู้อื่นอย่างดุเดือดกลางถนน ฝันร้ายเหล่านี้ปรากฏขึ้นในจิตใจของชาวเกาหลีใต้จำนวนมาก หลังเกิดเหตุแทงประชาชนหลายคนอย่างน้อย 2 เหตุการณ์ ภายในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา   ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 21 ก.ค. ชายคนหนึ่งใช้มีดไล่แทงประชาชนที่สัญจรไปมาในเมืองหลวง ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 1 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 3 คน โดยในภายหลัง ผู้ก่อเหตุบอกกับตำรวจว่า เขาใช้ชีวิตอย่างทนทุกข์ และอยากทำให้คนอื่นเป็นทุกข์เหมือนกัน   หลังจากนั้นในวันที่ 3 ส.ค. ชายคนหนึ่งในเมืองซองนัม ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของกรุงโซล ขับรถพุ่งชนคนเดินถนน บริเวณใกล้กับสถานีรถไฟใต้ดินแห่งหนึ่ง มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 4 คน ก่อนลงจากรถแล้ววิ่งเข้าไปในห้างสรรพสินค้า และก่อเหตุไล่แทงประชาชน 9 คน หนึ่งในนั้นเสียชีวิตในเวลาต่อมาซึ่งหลักฐานเผยให้เห็นว่า เหตุอุกอาจครั้งนี้อาจเป็นการเลียนแบบชายคนก่อนหน้า   KOREA NOW   ในเกาหลีใต้ “มุดจีมา” ซึ่งมีความหมายว่า “อย่าถาม” สื่อถึงการกระทำความรุนแรงที่ไม่สามารถอธิบายได้ต่อคนแปลกหน้า โดยผู้ก่อเหตุไม่มีความเชื่อมโยงส่วนตัวกับเหยื่อ หรือแรงจูงใจที่ชัดเจน   ชาวเกาหลีใต้เรียกอาชญากรรมเหล่านี้ว่า มุดจีมา (Mudjima)…

ห้ามใช้ นิวยอร์กสั่งแบน TikTok ชี้เป็นภัยคุกคามหน่วยงานรัฐ

Loading

  [ยังระแวง] หากพูดแอปฯ โซเชียลชื่อดังในตอนนี้ หนึ่งในนั้นย่อมมีชื่อ Tiktok ที่เป็นแอปฯ แชร์คลิปวิดีโอสั้น ๆ แต่มีผู้ใช้มหาศาล อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนแอปฯ นี้ จะเป็นถูกใจหน่วยงานรัฐของสหรัฐฯ เท่าไรหนัก ล่าสุดได้นครนิวยอร์ก สั่งแบนแอปฯ ดังกล่าว ห้ามใช้ในอุปกรณ์หน่วยงานรัฐของเมืองแล้ว   นิวยอร์กเข้าร่วมในรายชื่ออีกหน่วยงานในสหรัฐฯ ที่แบน TikTok ฐานเป็นภัยคุกคามด้านความปลอดภัย ต่อเครือข่ายทางเทคนิคของเมือง Eric Adams โฆษกของนายกเทศมนตรีแห่งนิวยอร์กกล่าว ซึ่งส่งผลให้พนักงานของหน่วยงานต่าง ๆ ในเมือง ห้ามใช้อุปกรณ์ของรัฐเข้าถึงทั้งเว็บไซต์และแอปฯ นี้   ขณะเดียวที่รัฐมอนทานา ปัจจุบันเป็นรัฐเดียวในสหรัฐฯ ที่สั่งห้ามใช้แอปฯ นี้ แก่ทุกคนในรัฐ ไม่เพียงเฉพาะอุปกรณ์ทางการเท่านั้น   ทางด้าน ByteDance ผู้พัฒนาแอปฯ TikTok ก็ได้ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหานี้มาแล้วหลายครั้ง แต่ก็ไม่เป็นผล ทั้งนี้ในฝั่งคณะกรรมาธิการสหภาพยุโรปเอง ก็กำลังมีดำเนินการที่คล้ายกันภายในปีนี้ด้วย   ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ฝ่ายบริหารของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ก็ได้ยื่นคำขาดแก่ ByteDance ว่าต้องขาย…

รวมเรื่องที่นายจ้างต้องรู้ ถ้าพนักงานใช้ AI ช่วยทำงาน ก่อนข้อมูลบริษัทรั่ว

Loading

  รวมเรื่องที่นายจ้างต้องรู้ ก่อนข้อมูลรั่วไม่รู้ตัว ถ้าพนักงานใช้ AI ช่วยทำงาน เพราะผลสำรวจล่าสุดบอกพนักงานเริ่มใช้ปัญญาประดิษฐ์มากขึ้น   ผลสำรวจของ Reuters/Ipsos พบว่า พนักงานจำนวนมากทั่วสหรัฐฯ เริ่มหันไปใช้ ChatGPT เพื่อช่วยงานพื้นฐาน ได้แก่ การร่างอีเมล การสรุปเอกสาร และการทำวิจัยเบื้องต้น   โดยการสำรวจความคิดเห็นของ Reuters/Ipsos มาจากผู้ใหญ่ 2,625 คนทั่วสหรัฐอเมริกามีช่วงความน่าเชื่อถือซึ่งเป็นการวัดความแม่นยำประมาณ 2 จุดเปอร์เซ็นต์   จากการทำแบบสำรวจออนไลน์เกี่ยวกับปัญญาประดิษฐ์ (AI) ระหว่างวันที่ 11-17 กรกฎาคม พบว่า •  28% บอกว่าพวกเขาใช้ ChatGPT ในที่ทำงานเป็นประจำ •  25% ไม่ทราบว่าบริษัทของพวกเขาอนุญาตให้ใช้เทคโนโลยีนี้หรือไม่ •  22% นายจ้างอนุญาตให้ใช้ืหากเป็นอุปกรณ์ภายนอกอย่างชัดเจน •  10% ของผู้ตอบแบบสำรวจกล่าวว่าเจ้านายของพวกเขาห้ามเครื่องมือ AI ภายนอกอย่างชัดเจน   ChatGPT กลายเป็นแอปที่เติบโตเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์หลังจากเปิดตัวในเดือนพฤศจิกายน ปี 2565…

โจรใต้วางระเบิด หวังสังหาร”ชุดคุ้มครองครู” โชคดีขับผ่านก่อนระเบิดสนั่น

Loading

  โจรใต้ วางระเบิดหวังสังหาร อส.ชุดคุ้มครองครู นราธิวาส หลังเสร็จสิ้นภาระกิจกำลังเกินทางกลับ ถูกกลุ่มคนร้ายกดระเบิดสนั่น โชคดีขับ จยย.ผ่านไปแล้ว 30 เมตร รอดอย่างหวุดหวิด     21 สิงหาคม 2566 เมื่อเวลา 08.15 น. ร.ต.อ.อิทธิพล มาลิกุล รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมือง จ.นราธิวาส รับแจ้งมีเหตุระเบิดเกิดขึ้นที่บริเวณริมถนน 3 แยกทางเข้าโรงเรียนบ้านจะแลเกาะ ม.7 ต.มะนังตายอ   จากนั้นพร้อมด้วย พ.ต.อ.ญาณพงศ์ อุบลบาน ผกก.สภ.เมืองนราธิวาส เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด นปพ.กองกำกับการตำรวจภูธร จ.นราธิวาส เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารฝ่ายปกครองจำนวนหนึ่ง รุดเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ     ที่เกิดเหตุบริเวณป้ายบอกสัญลักษณ์โรงเรียนบ้านจะแลเกาะ ซึ่งตั้งอยู่บริเวณ 3 แยกทางเข้าโรงเรียน ซึ่งเป็นพงหญ้ารก จุดที่คนร้ายลอบวางระเบิด มีหลุมลึก 1 ฟุต กว้าง 5…

5 จังหวัดประเดิม…สแกนม่านตา ระบุตัวตนบุคคลไม่มีเอกสารประจำตัว

Loading

  3 หน่วยงานลงนามร่วมมือพัฒนาเทคโนโลยีระบุตัวตนด้วยการสแกนม่านตาของบุคคลที่ไม่มีเอกสารประจำตัว ประชากรข้ามชาติ กลุ่มชาติพันธุ์ในประเทศไทย เพื่อการสาธารณสุขและช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม   นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า การระบาดของโรคโควิด-19 ที่ผ่านมา กรมควบคุมโรคได้เรียนรู้และเห็นการพัฒนามาอย่างต่อเนื่องภายใต้ภารกิจการป้องกันควบคุมโรคในกลุ่มประชากรข้ามชาติ โดยเฉพาะกลุ่มที่ไม่มีเอกสารระบุตัวตน   ปัญหาที่พบคือ มีความซ้ำซ้อนของข้อมูลที่ปรากกฏในเอกสารประวัติการได้รับวัคซีน อันจะส่งผลต่อความครอบคุลมและการดูแลสุขภาพของกลุ่มประชากรดังกล่าว   ปีที่ผ่านมา กรมควบคุมโรค ร่วมกับ สภากาชาดไทย และ เนคเทค สวทช. จัดทำโครงการนำเทคโนโลยีการระบุตัวบุคคลด้วยใบหน้าในกลุ่มประชากรข้ามชาติในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีประชากรข้ามชาติอาศัยเป็นจำนวนมาก เช่น จังหวัดสมุทรสาคร หรือกรุงเทพมหานคร   เพื่อให้การระบุตัวตนของบุคคลนั้นๆ สามารถรับบริการสุขภาพที่เหมาะสมเป็นไปตามคำแนะนำทางการแพทย์ และทำให้ประวัติการรับวัคซีนมีความสมบูรณ์มากขึ้น ลดความซ้ำซ้อนของข้อมูล ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่นำร่องใช้เทคโนโลยีระบุตัวบุคคลดังกล่าว   ความร่วมมือในครั้งนี้ จึงเป็นการขยายผลการดำเนินงานจากเดิม โดยมุ่งพัฒนาในการใช้เทคโนโลยีการสแกนม่านตาที่มีความเที่ยงตรงมากขึ้น     กรมควบคุมโรคและหน่วยงานภาคีเครือข่ายจะดำเนินการระยะแรก ใน 5 จังหวัด ได้แก่ สมุทรสาคร ชลบุรี ตาก ประจวบคีรีขันธ์…

สกมช. ออกคำเตือนภัยประชาชน ระวัง….เว็บไซต์ปลอมที่ลงด้วย .cc

Loading

  สกมช. เตือนภัยมิจฉาชีพมักจะสร้างหน้าเว็บไซต์ปลอมเลียนแบบหน่วยงานรัฐ หลอกลวงให้ประชาชนให้หลงเชื่อ สังเกตุ .cc ปลอมแน่!   สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) แจ้ง เตือนประชาชนระวังมิจฉาชีพสร้างหน้าเว็บไซต์ปลอมเลียนแบบหน่วยงานรัฐ และใช้โดเมนที่ลงท้ายด้วย .cc   ขอให้ทราบทันทีว่าเป็นเว็บปลอม 100% เตือนให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อ   ทั้งนี้ โปรดสังเกต เว็บไซต์หน่วยงานจริงจะต้องเป็น “go.th หรือ or.th” เท่านั้น       หากพบเห็นเว็บไซต์ปลอมของหน่วยงานต่าง ๆ แจ้งได้ที่   Line Official : @ncert_ncsa Email : thaicert@ncsa.or.th โทร 02 114 3531         ————————————————————————————————————————————————— ที่มา :         …