มองไฟป่าฮาวาย แล้วย้อนมาดูตัว ไทยพร้อมไหมรับมือภัยโลกร้อน

Loading

    แม้ว่าฮาวายจะมีระบบเตือนภัยธรรมชาติก้าวหน้าที่สุดแห่งหนึ่งในโลก แต่จากโศกนาฎกรรมไฟป่าเผาวอดเมือง Lahaina ชี้ว่า แม้แต่ระบบเตือนภัยที่ล้ำหน้ายังตามภัยพิบัติโลกร้อนไม่ทัน   ไฟป่าฮาวาย จากเหตุไฟป่าเผาเมือง Lahaina บนเกาะ Maui ในมลรัฐฮาวาย ที่ต้องประสบกับไฟป่าโหมรุนแรงจนเป็นผลให้ทั้งเมืองถูกไฟเผาวอด คร่าชีวิตคนไปมากกว่า 111 ชีวิต หนึ่งในข้อกังขาที่หลายคนต่างตั้งคำถามภายหลังเกิดเหตุ นั่นก็คือ ทำไมจึงไม่มีการเตือนภัยแก่ประชาชนในเมือง Lahaina อย่างทันท่วงที จนนำไปสู่โศกนาฏกรรมไฟป่าที่ร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐอเมริกา   ภายหลังเหตุการณ์ดังกล่าว เฮอร์แมน อันดายา ผู้บริหารหน่วยงานจัดการเหตุฉุกเฉินเมาวี กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า เขาไม่เสียใจเลยที่ไม่ใช้ไซเรน เนื่องจากไซเรนส่วนใหญ่จะใช้เพื่อเตือนเมื่อคลื่นสึนามิเข้าใกล้เกาะ และหากพวกเขาเปิดสัญญาณไซเรน ผู้อยู่อาศัยจำนวนมากคงจะไปที่เชิงเขา ซึ่งเป็นจุดที่เกิดไฟไหม้รุนแรงที่สุด   ไฟป่าเมื่อวันที่ 8 สิงหาคมที่ผ่านมา เผาเมือง Lahaina เมืองหลวงเก่าของฮาวายจนวอดเกือบทั้งเมือง ที่มาภาพ: รอยเตอร์   อันดายา กล่าวเสริมว่า ระเบียบปฏิบัติสำหรับเหตุเพลิงไหม้คือการส่งประกาศผ่านข้อความ ข้อความเสียง และโทรศัพท์บ้าน และการแจ้งเตือนไปผ่านโทรทัศน์และวิทยุ อย่างไรก็ตามไฟได้ทำลายเครือข่ายการสื่อสารอย่างรวดเร็ว จนระบบการแจ้งเตือนนี้ไม่สามารถทำงานได้   ไชยณรงค์…

พ่อแม่ระวังให้ดี! มิจฉาชีพใช้ AI เลียนเสียง หลอกว่าลูกโดนจับเรียกค่าไถ่

Loading

  กลใหม่ มิจฉาชีพใช้ AI เลียนเสียง หลอกว่าลูกโดนเรียกค่าไถ่ พ่อแม่ – ผู้ปกครอง ต้องระวังให้ดีก่อนตกเป็นเหยื่อเสียเงินไม่รู้ตัว จากกรณีที่ มิจฉาชีพ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ กำลังระบาดอย่างหนัก มีหลอกลวงให้หลงเชื่อในรูปแบบต่างๆ เช่น อ้างชื่อหน่วยงานภาครัฐ หรือการส่ง SMS หลอกลวง ล่าสุดมิจฉาชีพมีการหลอกลวงรูปแบบใหม่ มีการใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI (Artificial intelligence) เลียนเสียงนักศึกษาหรือผู้เสียหาย หลอกให้ผู้ปกครองหลงเชื่อว่านักศึกษาถูกเรียกค่าไถ่ พร้อมขู่โอนเงินเรียกค่าไถ่ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) แจ้งเตือนภัยขอให้ผู้ปกครองอย่าหลงเป็นเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ใช้รูปแบบพฤติการณ์เรียกค่าไถ่เสมือน โดยมิจฉาชีพจะโทรศัพท์หาพ่อแม่หรือผู้ปกครอง พร้อมส่งรูปบุตรหลานไปยังพ่อแม่หรือผู้ปกครอง และมิจฉาชีพจะหลอกว่าลูกหลานถูกเรียกค่าไถ่ โดยกลุ่มเป้าหมายของกลมิจฉาชีพ AI เลียนเสียง มี 2 กลุ่ม 1. นักศึกษาที่ตั้งใจเรียนดี อยู่เพียงลำพัง ในระดับชั้นอุดมศึกษา 2. ผู้ปกครอง   วิธีการของคนร้าย ใช้ AI เลียนเสียง หลอกว่าลูกโดนเรียกค่าไถ่ ทำยังไง ?…

วอชิงตันสั่งพลเมืองสหรัฐฯ รีบออกจาก “เบลารุส” ด่วน ปรับระดับเสี่ยงภัยสูงสุด นักการเมืองรัสเซียเตือนดุ “โปแลนด์” อยู่ในอันตราย หลังวิตกวอร์ซออาจส่งกำลังประชิด “คาลินินกราด”

Loading

  เอเจนซีส์/เอพี – กระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯวานนี้ (21 ส.ค) ประกาศเตือนพลเมืองสหรัฐฯรีบเดินทางออกจากเบลารุส ปรับความเสี่ยงภัยเป็นระดับ 4 สูงสุด ท่ามกลางตรึงเครียดพุ่ง   อังเดรย์ กูรุลยอฟ (Andrey Gurulyov) สมาชิกรัฐสภาดูม่าและอดีตผู้บัญชาการทหารรัสเซียเตือนดุ โปแลนด์ตกอยู่ในความเสี่ยงสูงกลัวคาลินินกราดโดนยึด หลังผู้นำโปแลนด์-ลิทัวเนียประชุมเครียดสัปดาห์ที่แล้ว พบ ฮ.ลูคาเชนโก 2 ลำบินล้ำน่านฟ้าในโปแลนด์รอบใหม่ระหว่างวากเนอร์กำลังฝึกยุทวิธีทางทหารให้ทหารเบลารุสห่างจากพรมแดนแค่ 5 ก.ม   เดอะฮิลล์ สื่อสหรัฐฯรายงานวันนี้ (22 ส.ค)ว่า ความเปลี่ยนแปลงล่าสุดใกล้สมรภูมิรบยูเครนสะท้อนจากการเปลี่ยนแปลงของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯในวันจันทร์ (21) ออกคำแนะนำใหม่สำหรับการเดินทางแก่พลเมืองสหรัฐฯ ในเบลารุสหลังสั่งปรับความเสี่ยงภัยไปอยู่ที่ระดับ 4 ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดแล้ว   ตามคำแนะนำพบว่ากระทรวงเรียกร้องให้ชาวอเมริกันที่ยังอยู่ในเบลารุสให้รีบออกนอกประเทศทันที เกิดขึ้นหลังประเทศเพื่อนบ้านทั้งโปแลนด์ ลัตเวีย ลิทัวเนีย ที่มีพรมแดนติดต่อกันได้สั่งการให้เพิ่มความมั่นคงควบคุมมากขึ้นเหตุวิตกกลัวกำลังทหารวากเนอร์รัสเซียอาจแทรกซึมเจาะเข้าไปจากฝั่งเบลารุส   นอกจากนี้สถานทูตสหรัฐฯประจำเบลารุสในกรุงมินสค์ยังยกเลิกการให้บริการปกติแต่เข้าสู่โหมดฉุกเฉินให้บริการเฉพาะเร่งด่วนสำหรับพลเมืองอเมริกันเท่านั้น   “อย่าเดินทางไปเบลารุสเนื่องมาจากผู้มีอำนาจเบลารุสยังคงให้การสนับสนุนรัสเซียในการโจมตียูเครน สะสมขุมกำลังกำลังทหารรัสเซียในเบลารุส การบังคับใช้กฎหมายท้องถิ่นแบบตามอำเภอใจ ความน่าจะเป็นสูงต่อความไม่สงบประชาชนเบลารุส ความเสี่ยงต่อการถูกควบคุมตัว และทางสถานทูตสหรัฐฯ มีความสามารถจำกัดในการให้ความช่วยเหลือพลเมืองสหรัฐฯ ที่อาศัยหรือเดินทางเข้าเบลารุส” รายงานจากแถลงการณ์ของกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ  …

จีนจับกุมเจ้าหน้าที่รัฐในกระทรวงหนึ่ง อ้างเป็นสายให้กับ CIA

Loading

  กระทรวงความมั่นคงแห่งรัฐของจีนแถลงจับกุมเจ้าหน้าที่รัฐที่ทำงานในกระทรวงหนึ่ง ชี้เป็นสายให้กับสำนักข่าวกรองกลางสหรัฐฯ หรือซีไอเอ   วันที่ 21 ส.ค. ทางการจีนกล่าวหาเจ้าหน้าที่รัฐบาลคนหนึ่งว่า เป็นสายของสำนักข่าวกรองกลางสหรัฐฯ หรือซีไอเอ (CIA) และมีส่วนเกี่ยวกับกับคดีจารกรรมที่สำคัญ นับเป็นคดีที่สองแล้วของเดือนนี้ที่จีนออกมากล่าวหาว่าสหรัฐฯ ส่งสายสืบเข้ามาในประเทศ โดยใช้คนจีนด้วยกันเอง   ในถ้อยแถลง กระทรวงความมั่นคงแห่งรัฐ ระบุว่า กำลังสืบสวนเจ้าหน้าที่ในกระทรวงรายหนึ่งที่ไม่เปิดเผยชื่อ ซึ่งถูกกล่าวหาว่าถูกคัดเลือกโดยซีไอเอในขณะที่เขาศึกษาอยู่ที่ญี่ปุ่น     กระทรวงฯ ระบุว่า ชาวจีนวัย 39 ปี ซึ่งถูกระบุเพียงนามสกุลว่ามีแซ่ “ห่าว” ได้รู้จักกับเจ้าหน้าที่สถานทูตสหรัฐฯ ในญี่ปุ่นขณะยื่นขอวีซ่าสหรัฐฯ โดยเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ได้พยายามพัฒนาความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับห่าว ทั้งเลี้ยงข้าว ส่งของขวัญให้ และจ่ายเงินช่วยสนับสนุนการเขียนรายงานการวิจัยเพื่อจบการศึกษา   กระทรวงฯ อ้างว่า เมื่อสนิทกัน เจ้าหน้าที่สถานทูตสหรัฐฯ ได้แนะนำห่าวให้รู้จักกับเพื่อนร่วมงานคนหนึ่ง ซึ่งภายหลังเปิดเผยว่าตัวเองเป็นเจ้าหน้าที่ซีไอเอ และขอให้ห่าวกลับไปประเทศจีน และแฝงตัวเข้าทำงานในแผนกหนึ่งของกระทรวงหนึ่ง ซึ่งมีความสำคัญอย่างมาก   ถ้อยแถลงระบุว่า ห่าวตกลงรับข้อเสนอ โดยลงนามในข้อตกลงจารกรรมกับสหรัฐฯ และได้รับการฝึกอบรม   เมื่อกลับมาที่จีน…

ดุดันไม่เกรงใจใคร! “ดีอีเอส” ขีดเส้น 1 เดือนจ่อปิด Facebook

Loading

  “ชัยวุฒิ” สับแหลก เฟซบุ๊ก รับเงินเพจปลอมเป็นสปอนเซอร์ยิงแอดโฆษณาหลอกลวงประชาชนถือเป็นรายได้เข้าบริษัท แต่กลับไม่มีการตรวจสอบและสกรีน แม้ที่ผ่านมา ดีอีเอส จะรวบรวมเสนอศาลขอคำสั่งปิด แต่เพจเหล่านี้ก็จะไปเปิดใหม่ เหมือนแมวไล่จับหนู ไม่จบสิ้น”   นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เปิดเผยว่า ดีอีเอส จะดำเนินการฟ้องต่อศาล เพื่อขอคำสั่งปิดกั้นแพลตฟอร์ม เฟซบุ๊ก ไม่ให้บริการในไทย หลังจากที่ผ่านมา เฟซบุ๊ก ได้มีการรับเงินโฆษณาจากเพจปลอมเพื่อเป็นสปอนเซอร์ที่หลอกชักชวนลงทุน จนเกิดความเสียหายต่อคนไทยจำนวนมาก โดยมีมูลค่ากว่า 1 แสนล้านบาท โดยจากสถิติการหลอกลวงลงทุนผ่านโซเซียลมีเดียกว่า 70% เป็นการหลอกลวงผ่าน เฟซบุ๊ก และจำนวน 90% เป็นการหลอกขายของออนไลน์ผ่านเฟซบุ๊ก   “ที่ผ่านมาเฟซบุ๊กมีการรับเงินจากเพจเหล่านี้ ซึ่งถือเป็นรายได้เข้าบริษัท แต่กลับไม่มีการตรวจสอบ และสกรีน ว่าเป็นเพจที่หลอกลวงหรือไม่ แต่กลับปล่อยให้เพจเหล่านี้มาหลอกลวงคนไทยจำนวนมาก แม้ที่ผ่านมา ดีอีเอส จะรวบรวมเสนอศาลขอคำสั่งปิดแต่เพจเหล่านี้ก็จะไปเปิดใหม่ เหมือนแมวไล่จับหนู ไม่จบสิ้น”     นายชัยวุฒิ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้จะมีการแนะนำให้ผู้เสียหายแจ้งความดำเนินคดีกับแพลตฟอร์มด้วย ทั้งคดีแพ่งและคดีอาญาด้วย…

อิรักสั่งปิดป้ายโฆษณา LED ทั่วแบกแดด หลังแฮ็กเกอร์ป่วนฉายหนังโป๊ขึ้นจอ

Loading

  ทางการอิรักสั่งปิดป้ายโฆษณาอิเล็กทรอนิกส์ขนาดใหญ่ตามท้องถนนทั่วกรุงแบกแดด หลังถูกแฮ็กเกอร์ป่วน เจาะระบบฉายหนังโป๊ขึ้นจอ   โลกโซเชียลแห่แชร์คลิปวิดีโอป้ายโฆษณา LED ขนาดใหญ่กลางสี่แยกสำคัญ ในกรุงแบกแดด กำลังเล่นคลิปภาพยนตร์ที่มีเนื้อหาลามกอนาจาร อยู่นานหลายนาที ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะตัดระบบไฟฟ้า จนหน้าจอดับไป   ล่าสุด ตำรวจกรุงแบกแดดเปิดเผยว่า ได้จับกุมชายผู้ต้องสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้แล้ว จากการตรวจสอบ พบว่าเป็นช่างเทคนิคที่มีปัญหาเรื่องเงินกับบริษัทที่ดูแลจอโฆษณา LED ทั่วกรุงแบกแดด จึงคิดทำเรื่องนี้เพื่อแก้แค้น     หลังเกิดเหตุ ทางการอิรักสั่งการให้ปิดจอโฆษณาอิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมดในเมืองหลวงตั้งแต่เมื่อวานนี้ ระหว่างที่มีการตรวจสอบเรื่องมาตรการความปลอดภัย   ตามปกติ หน้าจอ LED ยักษ์ในกรุงแบกแดดจะใช้สำหรับแสดงภาพโฆษณาผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ รวมถึงใช้เป็นพื้นที่หาเสียงของบรรดานักการเมืองด้วย   ปีที่แล้ว รัฐบาลอิรักเพิ่งประกาศจะกวาดล้างเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาลามกอนาจรทั้งหมด และพยายามจัดระเบียบยูทูบเบอร์และติ๊กต็อกเกอร์ โดยอ้างว่ามักแชร์คอนเทนต์ที่ไม่เหมาะสม และขัดต่อหลักจริยธรรมอันดีงาม     ภาพจาก AFP       ——————————————————————————————————————————————————– ที่มา :           …