สุดล้ำ! การชำระเงินแบบใหม่ในสหรัฐฯ แค่ “สแกนฝ่ามือ” ก็เรียบร้อย

Loading

  อีกขั้นของสังคมไร้เงินสด กับเทคโนโลยีของ “Amazon One” ชำระเงินง่าย ๆ ด้วยการ “สแกนฝ่ามือ” ไม่ต้องควักเงินในกระเป๋าให้ยุ่งยากอีกต่อไป   การจ่ายเงินเป็นเรื่องที่เราสามารถทำได้ง่ายขึ้นเรื่อย ๆ จากเมื่อก่อนที่ต้องใช้เงินสด ปัจจุบันก็มีช่องทางที่เป็นดิจิทัลเพิ่มมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการใช้แอปพลิเคชันทางการเงินต่าง ๆ การใช้บัตรเติมเงิน แต่ขณะนี้ที่สหรัฐฯ มีเทคโนโลยีการจ่ายเงินที่ล้ำกว่านั้น นั่นก็คือ “การสแกนฝ่ามือ”   นี่คือเทคโนโลยีของยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีอย่าง แอมะซอน (Amazon) ซึ่งใช้ชื่อว่า Amazon One เป็นเครื่องสแกนหน้าตาเหมือนที่เห็นได้ทั่วไปตามร้านสะดวกซื้อหรือห้างสรรพสินค้า แต่จากที่แตะบัตร ก็ใช้วิธีแตะมือเพื่อสแกนแทน   Amazon One ใช้ระบบไบโอเมตริกซ์ (Biometric) หรือการยืนยันตัวตนด้วยข้อมูลทางชีวภาพที่มีลักษณะเฉพาะตัวและไม่ซ้ำใคร โดยจะจดจำลายเส้นบนมือของแต่ละคนในการจำแนก่าใครเป็นใคร ทั้งยังอ่านโครงสร้างเส้นเลือดที่อยู่ใต้ฝ่ามือเพื่อความแม่นยำมากขึ้น เพราะมือของคนทุกคนนั้นมีความซับซ้อนมาก จึงไม่สามารถซ้ำกันได้อย่างแน่นอน   นอกจากนี้ข้อมูลยังถูกปกป้องไว้ด้วยระบบคราวด์ที่ชื่อ AWS Cloud ที่ได้รับการสนับสนุนโดยเครื่องมือรักษาความปลอดภัยบนคลาวด์มากกว่า 300 รายการและคู่ค้าด้านความปลอดภัย 100,000 รายจากทั่วโลก   ในปัจจุบัน Amazon One…

Zoom ยอมถอย ระบุไม่นำข้อมูลผู้ใช้งานมาเทรน AI ทุกกรณี จากเดิมบอกเทรนได้ถ้า consent

Loading

  Zoom ประกาศแก้ไขรายละเอียดของเงื่อนไขการให้บริการ (term of service) อีกครั้ง หลังจากเนื้อหาที่ปรับปรุงก่อนหน้านี้ ระบุว่า Zoom มีสิทธินำข้อมูลผู้ใช้งานไปเทรน AI ได้ โดยข้อมูลสำคัญคือ เสียง วิดีโอ และแชท ต้องได้รับการยินยอมก่อน (consent)   ถึงแม้ประกาศนี้จะระบุชัดเจนว่าผู้ใช้งานต้องเป็นฝ่ายอนุญาตให้นำข้อมูลไปใช้งานก่อน แต่ข้อมูลส่วนอื่นนั้น Zoom บอกว่าสามารถนำไปเทรนได้เลย ก็ทำให้กระแสตอบกลับมาไม่ดีนัก   Zoom บอกว่าหลังได้รับความเห็นเพิ่มเติม Zoom จึงแก้ไขข้อความเงื่อนไขการให้บริการใหม่ โดยระบุว่าจะไม่นำข้อมูลเสียง วิดีโอ แชท การแชร์หน้าจอ ไฟล์แนบ หรือข้อมูลอื่นที่เป็นของผู้ใช้งานระหว่างการสนทนา เช่น โพลล์ ไวท์บอร์ด รีแอคชัน มาเทรน AI ของ Zoom หรือนำไปเทรนผ่านเครื่องมือของผู้ให้บริการอื่น ในทุกกรณี   อย่างไรก็ตามข้อมูลส่วนอื่นซึ่งสร้างขึ้นมาเพื่อวิเคราะห์ระบบของ Zoom เองเช่น Telemetry, Product-Usage หรือ Diagnostic Data…

ระวัง! มิจฉาชีพสามารถแฮ็กข้อมูลจากสมาร์ตวอตช์ ได้

Loading

  เตือนภัย! มิจฉาชีพสามารถ แฮ็กข้องมูล จากนาฬิกาสมาร์ตวอตช์ เข้าถึงข้อมูลธนาคาร ข้อมูลบัตรเครดิต ทั้งยังรู้ถึงตำแหน่งคุณทำอะไรอยู่ไหน   ปัจจุบันนาฬิกาอัจฉริยะ หรือ Smart Watch หนึ่งอุปกรณ์ที่ถูกพัฒนา ทำให้การดูเวลาทั่วไปเปลี่ยนไป เพราะยังมีฟังก์ชันการใช้งานอื่น ๆ อีกเพียบ ทั้ง วัดค่าต่าง ๆ ในร่างกาย นับก้าวการเดิน ถ่ายรูป เชื่อมต่อกับสมาร์ตโฟน ฯลฯ แต่รู้หรือไม่? สมาร์ตวอตช์ ก็สามารถโดนแฮ็กข้อมูลได้   โดยเพจ ตำรวจสอบสวนกลาง โพสต์แจ้งเตือนถึงอันตรายมิจฉาชีพสมัยนี้ ที่สามารถแฮ็กข้อมูลจาก Smart Watch ได้ พร้อมเผยวิธีป้องกัน โดยระบุว่า…สมาร์ตวอตช์จะเชื่อมต่อกับสมาร์ตโฟน ผ่านเทคโนโลยี Bluetooth Low Energy (BLE) ข้อมูลที่ส่งกันไปมาระหว่างอุปกรณ์ทั้ง 2 ตัว ที่เรียกว่า Beacon   แฮ็กเกอร์สามารถดักสัญญาณ Beacon ได้ ก็จะสามารถติดตั้งมัลแวร์ผ่านบลูทูธ หรือใส่โค้ดอันตรายไว้ในแอปบนสมาร์ตวอตช์เพื่อดักข้อมูล…

ฝ่ายต้านรัฐบาลไอร์แลนด์เหนืออ้างว่าได้ข้อมูลเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลังข้อมูลรั่ว

Loading

  ฝ่ายสาธารณรัฐต้านรัฐบาลไอร์แลนด์เหนืออ้างว่าได้ข้อมูลจำนวนหนึ่งของสำนักงานตำรวจมาครอบครอง   ไซมอน เบิร์น (Simon Byrne) ผู้บัญชาการตำรวจไอร์แลนด์เหนือ (PSNI) เผยว่ารู้สึกเสียใจเป็นอย่างยิ่งเกี่ยวกับการที่ข้อมูลส่วนตัวของเจ้าหน้าที่หลุดรั่ว แต่ได้มีการแจ้งเตือนไปยังเจ้าของข้อมูลแล้ว   ความล้มเหลวของระบบข้อมูล PSNI ที่เกิดขึ้นเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (8 กรกฎาคม) ทำให้ข้อมูลบุคลากรกว่า 10,000 รายหลุดออกมา ซึ่งเป็นข้อมูลของเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ฝ่ายสนับสนุน แถมยังมีไฟล์เอกสารหลุดออกมาด้วย   ข้อมูลนี้มีทั้งนามสกุล อักษรตัวแรกของชื่อ ยศและสังกัด และข้อมูลข่าวกรอง   ก่อนหน้านี้ ในเดือนกรกฎาคม ก็มีเหตุข้อมูลคอมพิวเตอร์แล็ปท็อป วิทยุ และเอกสารยืนยันตัวของเจ้าหน้าที่กว่า 200 รายถูกขโมยจากรถยนต์ส่วนบุคคล   เบิร์นชี้ว่าเจ้าหน้าที่หลายร้อยนายแสดงความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัย บางรายถึงขั้นรู้สึกโกรธเคืองต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น   ด้านฝ่ายสาธารณัฐต้านรัฐบาลชี้ว่าได้ข้อมูลบางส่วนที่แพร่กระจายอยู่ใน WhatsApp แต่เบิร์นชี้ว่าคำกล่าวอ้างดังกล่าวยังไม่ได้รับการยืนยัน   กลุ่มดังกล่าวใช้วิธีการต่าง ๆ ลอบโจมตีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาโดยตลอด ทั้งการใช้อาวุธปืนและวัตถุระเบิด รวมถึงกลยุทธ์ซุ่มโจมตีจนเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส ทำให้รัฐบาลยกระดับความเสี่ยงการก่อการร้ายในประเทศ     ที่มา   The Guardian  …

FBI ส่งทีมช่วยเอกวาดอร์หาตัวผู้อยู่เบื้องหลังลอบสังหารแคนดิเดตประธานาธิบดี

Loading

  เจ้าหน้าที่จากสำนักงานสอบสวนกลาง (FBI) ของสหรัฐได้เข้าร่วมประชุมกับตำรวจและอัยการของเอกวาดอร์เมื่อวันอาทิตย์ (13 ส.ค.) โดยมีเป้าหมายที่จะร่วมสืบสวนหาตัวผู้ที่อยู่เบื้องหลังการลอบสังหารนายเฟอร์นานโด วิลลาวิเซนซิโอ ผู้ลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีเอกวาดอร์   ข่าวการลอบสังหารนายวิลลาวิเซนซิโอ วัย 59 ปีในวันสุดท้ายของการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งเมื่อวันที่ 9 ส.ค.นั้น ได้สร้างความตื่นตระหนกไปทั่วประเทศ โดยเอกวาดอร์ซึ่งมีประชาชน 18 ล้านคนได้รับผลกระทบจากแก๊งอาชญากรรมข้ามชาติที่เพิ่มขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และนายวิลลาวิเซนซิโอก็ถูกขู่หลายครั้ง แต่เขาประกาศว่าไม่เกรงกลัวแก๊งอาชญากรรมเหล่านี้   ทั้งนี้ นายฮวน ซาปาตา รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยของเอกวาดอร์เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เจ้าหน้าที่ FBI ได้ประชุมร่วมกับผู้บัญชาการตำรวจเอกวาดอร์และคณะอัยการ เพื่อสืบสวนไปให้ถึงผู้ที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์นี้   สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจเอกวาดอร์ได้จับกุมตัวชาวโคลอมเบียจำนวน 6 รายและตั้งข้อหาอาชญากรรม ขณะที่ผู้ต้องสงสัยอีกรายหนึ่งได้เสียชีวิตหลังจากถูกยิงบาดเจ็บสาหัสภายหลังจากเกิดเหตุลอบยิงนายวิลลาวิเซนซิโอ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจเชื่อว่าชาวโคลอมเบียเหล่านี้มีความเกี่ยวข้องกับแก๊งอาชญากรรม   นายพลมานูเอล อินีกูส ผู้ช่วยผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติของเอกวาดอร์เปิดเผยว่า นายวิลลาวิเซนซิโอถูกยิงหลายครั้งในขณะที่เขากำลังเดินทางออกจากพื้นที่หาเสียงที่โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งในเมืองกีโต นอกจากนี้ เหตุการณ์ดังกล่าวยังส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย   ทั้งนี้ นายวิลลาวิเซนซิโอเคยเป็นหนึ่งในสมาชิกสมัชชาแห่งชาติเอกวาดอร์ก่อนที่สมัชชาแห่งนี้จะถูกปิดตัวลงในเดือนพ.ค. และเขาเป็นหนึ่งในผู้เข้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในการเลือกตั้งรอบแรกวันที่ 20 ส.ค.นี้ เพื่อรับตำแหน่งต่อจากประธานาธิบดีกิเยร์โม ลาสโซ ขณะที่ผลสำรวจความคิดเห็นที่เพิ่งเผยแพร่สู่สาธารณชนก่อนเกิดเหตุลอบสังหารไม่นานนั้นได้แสดงให้เห็นว่า นายวิลลาวิเซนซิโอมีคะแนนนิยมอยู่ในอันดับ…

เอกวาดอร์ใช้ทหาร-ตำรวจ 4,000 นาย คุมหัวหน้าแก๊ง “ขู่ฆ่าแคนดิเดต” เข้าคุก

Loading

    เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ทหารและตำรวจเอกวาดอร์ ร่วมปฏิบัติการส่งตัวหัวหน้าแก๊งที่ทรงอิทธิพล ซึ่งถูกกล่าวหาว่า ข่มขู่ผู้สมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดี ก่อนที่เขาจะถูกยิงเสียชีวิต ไปยังเรือนจำที่มีความปลอดภัยสูงสุดในประเทศ   สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากเมืองกัวยากิล ประเทศเอกวาดอร์ เมื่อวันที่ 14 ส.ค. ว่า ช่วงรุ่งสางของวันเสาร์ เจ้าหน้าที่ติดอาวุธหนักประมาณ 4,000 นาย เข้าไปในเรือนจำ 8 ที่เมืองกัวยากิล ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเอกวาดอร์ เพื่อนำตัว นายโฮเซ อดอลโฟ มาเซียส หรือที่รู้จักกันในชื่อ “ฟิโต” หัวหน้ากลุ่มอาชญากร “ลอส โชเนรอส” ออกจากที่คุมขัง และย้ายไปยังเรือนจำอีกแห่งหนึ่ง   About 4,000 police and military personnel participated in transferring one of Ecuador’s most notorious crime bosses, José Adolfo…