จีนสั่งห้ามเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานรัฐบาลกลางทุกแห่งใช้ “ไอโฟน” และมือถือแบรนด์ต่างประเทศอื่น ๆ ในการทำงาน รวมถึงห้ามพกติดตัวมาออฟฟิศด้วย ตามรายงานของหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีทเจอร์นัล (WSJ) เมื่อวันพุธ (6 ก.ย.)
WSJ อ้างแหล่งข่าวซึ่งระบุว่า ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่รัฐบาลจีนได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาผ่านทางแชตกรุ๊ปหรือที่ประชุมให้เลิกใช้ไอโฟน แต่ไม่ชัดเจนว่าคำสั่งนี้ถูกกระจายไปยังหน่วยงานต่าง ๆ กว้างขวางมากน้อยเพียงใด
นักวิเคราะห์ระบุว่า คำสั่งแบนนี้มีขึ้นก่อนที่แอปเปิลจะจัดงานอีเวนต์ในสัปดาห์หน้า ซึ่งคาดว่าจะมีการเปิดตัวไอโฟนรุ่นใหม่ด้วย และความเคลื่อนไหวนี้อาจยิ่งกระพือความวิตกกังวลในหมู่บริษัทต่างชาติที่ประกอบธุรกิจในจีน
รายงานของ WSJ ไม่ได้ระบุว่า มีแบรนด์มือถือใดบ้างที่ถูกสั่งห้ามใช้นอกเหนือจากแอปเปิล ขณะที่สำนักงานสารนิเทศของสภาแห่งรัฐจีน (State Council Information Office) ซึ่งมีหน้าที่ตอบคำถามสื่อมวลชนในนามรัฐบาล ก็ยังไม่ให้คำตอบกับรอยเตอร์ในประเด็นนี้
ตลอดช่วง 10 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลจีนพยายามลดการพึ่งพาเทคโนโลยีต่างชาติ โดยขอให้บริษัทในกำกับของรัฐ เช่น ธนาคารต่าง ๆ เปลี่ยนไปใช้ซอฟต์แวร์ที่ผลิตในจีน รวมถึงสนับสนุนอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ภายในประเทศ
การรณรงค์นี้ยิ่งเข้มข้นขึ้นเป็นพิเศษตั้งแต่ปี 2020 เมื่อคณะผู้นำจีนประกาศนโยบายเศรษฐกิจวงจรคู่ขนาน (dual circulation) ซึ่งตั้งเป้าลดการพึ่งพาตลาดและเทคโนโลยีต่างชาติ ท่ามกลางความวิตกกังวลเรื่องความปลอดภัยข้อมูล (data security)
เมื่อเดือน พ.ค. จีนเรียกร้องให้รัฐวิสาหกิจขนาดใหญ่เข้ามามีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนการพึ่งพาตนเองทางเทคโนโลยี ซึ่งส่งผลให้การแข่งขันและข้อพิพาทกับสหรัฐฯ ทวีความตึงเครียดยิ่งขึ้นไปอีก
สหรัฐฯ พยายามจับมือกับชาติพันธมิตรปิดกั้นไม่ให้จีนเข้าถึงอุปกรณ์และเทคโนโลยีที่จำเป็นในการผลิตชิประดับก้าวหน้า ขณะที่จีนเองก็ตอบโต้ด้วยการกีดกันสินค้าของบริษัทอเมริกันรายใหญ่ ๆ เช่น โบอิ้ง และ ไมครอน เทคโนโลยี (Micron Technology)
นักวิเคราะห์หลายคนตั้งข้อสังเกตวานนี้ (6) ว่า ความเคลื่อนไหวล่าสุดของปักกิ่งสะท้อนให้เห็นว่าจีนต้องการลดพึ่งพาเทคโนโลยีสหรัฐฯ และไม่มีบริษัทอเมริกันรายใดที่ได้รับการยกเว้น
“ขนาดแอปเปิลก็ยังไม่รอด ทั้งที่พวกเขาว่าจ้างพนักงานในจีนนับแสนคน หรืออาจจะเป็นล้านคนในกระบวนการผลิตสินค้าผ่านความร่วมมือกับฟ็อกซ์คอนน์ (Foxconn)” ดี.เอ. เดวิดสัน นักวิเคราะห์จาก Tom Forte ให้ความเห็น
“นี่ควรเป็นสัญญาณเตือนให้บริษัทต่าง ๆ คิดหาวิธีกระจายห่วงโซ่อุปทานและฐานลูกค้าเพื่อลดการพึ่งพาตลาดจีน หากสถานการณ์เลวร้ายลงไปกว่านี้”
จีนถือเป็นตลาดใหญ่ที่สุดของแอปเปิล และรายได้เกือบ 1 ใน 5 ของแอปเปิลก็มาจากผู้บริโภคชาวจีน
ที่มา: รอยเตอร์
————————————————————————————————————————————-
ที่มา : ผู้จัดการออนไลน์ / วันที่เผยแพร่ 7 ก.ย.66
Link : https://mgronline.com/around/detail/9660000080762