“ยูเครน” ส่งโดรนโจมตีหลายพื้นที่ของรัสเซีย หลายฝ่ายระบุว่า เป็นการโจมตีแผ่นดินรัสเซีย ด้วยโดรนครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่สงครามการรุกรานเริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ปี 2022
การโจมตีด้วยโดรนครั้งใหญ่เกิดขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 29 – 30 สิงหาคม ที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น พื้นที่ของรัสเซียที่ถูกโดรนโจมตีในครั้งนี้มี 6 แห่ง ได้แก่ แคว้นมอสโก แคว้นโอเรล แคว้นคาลูกา แคว้นเรียซาน แคว้นเบรียนสก์ แคว้นวอโรเนียช และแแคว้นปัสคอฟ ทั้งนี้ พื้นที่ที่หลายฝ่ายให้ความสนใจมากที่สุดคือ แคว้นปัสคอฟและแคว้นเบรียนสก์ เนื่องจากจุดที่ถูกโจมตีล้วนเป็นพื้นที่สำคัญทางการทหารของกองทัพรัสเซีย
เริ่มต้นที่การโจมตีแคว้นปัสคอฟ พื้นที่ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของรัสเซีย เมื่อวานนี้สำนักข่าวทาสส์ของรัสเซียรายงานว่า เกิดเหตุเพลิงไหม้ครั้งใหญ่ที่สนามบินทหารแห่งหนึ่งในเมืองปัสคอฟ สถานที่ประจำการของพลร่มระดับสูงของรัสเซียที่ 76 ซึ่งเป็นหนึ่งในกองกำลังที่เข้ายึดเมืองบูชาในช่วงต้นของการรุกรานเมื่อปีที่แล้ว
ผลจากการระเบิดทำให้เครื่องบินอิลยูชิน อิล-76 ซึ่งเป็นเครื่องลำเลียงทางยุทธวิธีและทางยุทธศาสตร์ของรัสเซีย จำนวน 4 ลำได้รับความเสียหาย โดยในจำนวนนี้มี 2 ลำเกิดเพลิงลุกไหม้อย่างหนัก อนาโตลี คราปชินสกี ผู้เชี่ยวชาญด้านการบินของยูเครนระบุว่า รัสเซียอาจต้องใช้เวลานาน 3-4 เดือนเพื่อซ่อมแซมเครื่องบินเหล่านี้
อย่างไรก็ดี การโจมตีเมืองปัสคอฟแห่งนี้ ได้สร้างประเด็นถกเถียงในกลุ่มผู้ติดตามสงครามอย่างมาก เนื่องจากถ้าดูตามแผนที่ เมืองปัสคอฟแห่งนี้อยู่ห่างจากยูเครนออกไปทางตอนเหนือราว 600 กิโลเมตร และมีประเทศเบลารุสกั้นอยู่ตรงกลาง
ข้อถกเถียงหลักที่มีการถกเถียงในตอนนี้ คือ หากโดรนดังกล่าวเป็นของยูเครนจริง โดรนเคลื่อนที่ไปในทิศทางใดถึงไม่สามารถถูกตรวจจับและยิงสกัดได้ จนไปสร้างความเสียหายให้แก่ฐานทัพอากาศปัสคอฟของรัสเซีย
ส่วนจุดสำคัญที่ถูกโจมตีจุดที่สองคือ แคว้นเบรียนสก์ เมื่อวานนี้ ทางการรัสเซียรายงานว่าสามารถยิงสกัดโดรนพลีชีพได้จำนวน 2 ลำ ทั้งนี้ ข้อมูลภาพถ่ายวิดีโอจากประชาชนในพื้นที่ ที่ถูกโพสต์ลงในเทเลแกรมเผยให้เห็นว่า โดรนทั้งสองลำได้พุ่งเป้าโรงงานเครมนี อีแอล หนึ่งในบริษัทผู้ผลิตไมโครอิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่ที่สุดของรัสเซีย ความสำคัญของโรงงานแห่งนี้คือ ที่นี่เป็นสถานที่ผลิตชิ้นส่วนสำหรับระบบป้องกันภัยทางอากาศพิสัยใกล้-กลาง รุ่นปันซีร์ (Pantsir) และระบบยิงขีปนาวุธรุ่นอิสคันเดอร์ ที่รัสเซียนำไปใช้ในสนามรบด้วย
หลังจากเกิดเหตุโจมตีพื้นที่ต่างๆ บนแผ่นดินรัสเซีย เมื่อวานนี้ กระทรวงกลาโหมของรัสเซียได้เผยแพร่ภาพ ขณะที่พลเอกเซอร์เก ชอยกู รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางไปตรวจสอบโรงงานผลิตยุทโธปกรณ์ทางการทหารของรัฐบาลในแคว้นตูลา ทางตอนใต้ของกรุงมอสโก รัฐมนตรีกลาโหมรัสเซียได้ย้ำกับผู้ผลิตว่า กองกำลังรัสเซียที่สู้รบอยู่ในดินแดนยูเครนต้องการเรดาร์ของระบบป้องกันภัยทางอากาศเพิ่มเติม เพื่อไว้ใช้รับมือกับการโจมตีด้วยปืนใหญ่จากกองทัพยูเครน
ขณะที่มาเรีย ซาคาโรวา โฆษกกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย ได้ออกมาแถลงจุดยืนต่อเรื่องการโจมตีแผ่นดินรัสเซียในครั้งนี้โดยระบุว่า ยูเครนจะต้องได้รับโทษกับสิ่งที่ทำลงไป
ขณะที่มีรายงานการโจมตีหลายพื้นที่บนแผ่นดินรัสเซียทางยูเครนก็ถูกรัสเซียกระหน่ำโจมตีทางอากาศอย่างหนักเช่นเดียวกันตั้งแต่เมื่อวานจนถึงวันนี้ โดยถือเป็นการโจมตีครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา
เมื่อวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น ทางการยูเครนรายงานว่า รัสเซียได้ยิงขีปนาวุธจำนวน 28 ลูกและโดรนพลีชีพอีกกว่า 16 ลำ โจมตีพื้นที่ต่างๆ ของยูเครน เช่น แคว้นเคียฟ แคว้นเชียร์คาซี แคว้นโอเดสซา และแคว้นมิโคลายิฟ
กองทัพอากาศยูเครนระบุว่า ขีปนาวุธบางส่วนเป็นขีปนาวุธร่อนรุ่น Kh-101, รุ่น Kh-555, และรุ่น Kh-55 ซึ่งเป็นขีปนาวุธพิสัยไกลประสิทธิภาพสูง และขีปนาวุธเหล่านี้ถูกยิงมาจากทะเลแคสเปียนและแคว้นเอนเกลส์ของรัสเซีย
ส่วนโดรนที่ถูกส่งเข้ามาโจมตีแผ่นดินยูเครนเป็นโดรนพลีชีพสัญชาติอิหร่านรุ่นชาเฮด-131 และชาเฮด-136
ทั้งนี้ ทางการยูเครนรายงานว่า กองทัพอากาศสามารถยิงสกัดขีปนาวุธของรัสเซียได้ทั้งหมด ขณะที่โดรนสามารถยิงสกัดได้ 15 ลำ มีเพียง 1 ลำเท่านั้นที่หลุดรอดไปสร้างความเสียหาย
อย่างไรก็ดี ผลจากการยิงสกัดทำให้เศษซากของขีปนาวุธจำนวนไม่น้อย ลอยไปตกใส่อาคารบ้านเรือนของประชาชนในภูมิภาคเคียฟ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อยสองราย
ด้านประชาชนที่รอดชีวิตจากเศษซากขีปนาวุธตกใส่อาคารบ้านเรือนบอกว่า พวกเขาตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่เคราะห์ดีที่ยังรอดชีวิตมาได้
หลายฝ่ายมองว่าการโจมตีที่เกิดขึ้นในช่วง 1-2 วันที่ผ่านมา ถือเป็นการต่อสู้ทางอากาศครั้งใหญ่ระหว่างทั้งสองฝ่าย โดยเฉพาะจากฝั่งยูเครน นี่ทำให้หลายฝ่ายตั้งคำถามว่า สิ่งที่เกิดขึ้นในครั้งนี้มีนัยสำคัญใดๆ กับสงครามหรือไม่
สำหรับประเด็นนี้ ฌอน เบลล์ นักวิชาการด้านความมั่นคงให้ความเห็นว่า สิ่งที่เกิดขึ้นทั้งบนแผ่นดินรัสเซียและยูเครน กำลังบอกใบ้ถึงปฏิบัติการเฟสถัดไปของสงครามในยูเครน นอกจากนี้ สิ่งที่เกิดขึ้นยังส่งสัญญาณว่า ปฏิบัติการโต้กลับของยูเครนจะเข้าสู่จุดพีค ก่อนจะเข้าสู่ฤดูหนาวซึ่งเป็นช่วงเวลาพักรบอีกครั้ง
สาเหตุที่นักวิเคราะห์รายนี้ให้ความเห็นเช่นนี้ เป็นเพราะการโจมตีทางอากาศใส่แผ่นดินรัสเซีย เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่สอดคล้องกับความคืบหน้าของปฏิบัติการโต้กลับในพื้นที่แคว้นซาโปริซเซียของยูเครน โดยการโจมตีแผ่นดินรัสเซียอาจมีเป้าหมายเพื่อทำให้กองทัพรัสเซียสับสนเรื่องพื้นที่ที่ต้องประจำการกองกำลังรับมือกับการโจมตีจากกองทัพยูเครน ตลอดจนเป็นการดึงความสนใจของกองทัพรัสเซียจากแนวรบในแคว้นซาโปริซเซีย
สำหรับการสู้รบในพื้นที่แคว้นซาโปริซเซีย แนวรบหลักในการเปิดปฏิบัติการโต้กลับฤดูร้อน นักวิเคราะห์มองว่าการยึดคืนพื้นที่ยังคงเป็นไปอย่างเรื่อยๆ แต่ค่อนข้างมั่นคง ตอนนี้กองทัพยูเครนเปิดเผยว่าสามารถรุกคืบต่อไปยังหมู่บ้านเวียร์โบเวีย
ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเขตโรโบตือนีได้สำเร็จ จนเกือบเข้าใกล้แนวสนามเพลาะแนวที่ 2 ของรัสเซียได้แล้ว
ส่วนสาเหตุที่กองทัพยูเครนใช้เวลาต่อสู้อย่างยาวนานเพื่อยึดคืนหมู่บ้านโรโบตือนี เนื่องจากที่นี่เป็นจุดสำคัญทางยุทธศาสตร์ ที่มีถนน T-0408 มุ่งสู่เมืองโตคมัค เมืองสำคัญก่อนถึงมาริอูปอล เมืองที่รัสเซียใช้ขนส่งอาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ ไปยังคาบสมุทรไครเมีย แคว้นเคอร์ซอน และภูมิภาคดอนบาส
นอกจากนี้ การยึดคืนโรโบตือนีได้ จะทำให้ยูเครนสามารถยิงปืนใหญ่โจมตีกดดันกองทัพรัสเซียที่อยู่ในเมืองโตคมัคได้ ก่อนจะเคลื่อนทัพเข้ายึดเมืองและมุ่งหน้าสู่เมืองมาริอูปอลที่เป็นพื้นที่สำคัญทางยุทธศาสตร์
—————————————————————————————————————————————————
ที่มา : PPTV Online / วันที่เผยแพร่ 31 ส.ค.66
Link : https://www.pptvhd36.com/news/ต่างประเทศ/204622