สิงค์โปร์ลงทุนระบบ AI วิเคราะห์เสียงจากกล้องวงจรปิด ตรวจจับเหตุการณ์ไม่คาดฝัน อย่างเสียงปืน และแจ้งเตือนเจ้าหน้าที่ให้ทันเวลาก่อนเหตุการณ์ลุกลาม
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2018 สิงคโปร์ได้ริเริ่มใช้ AI ในการวิเคราะห์เสียงเหตุการณ์ไม่คาดฝันอย่างเสียงปืน จากกล้องวงจรปิดกว่าพันตัว ในสนามบินชางงี
เฮง สวีคีต รัฐมนตรีสิงคโปร์ เล่าว่า แม้ว่าสิงคโปร์เป็นประเทศที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลกว่า เป็นหนึ่งในเมืองที่ปลอดภัยที่สุดในโลก แต่ก็ยังมีความเสี่ยงอยู่ ทำให้ภาครัฐยังลงทุนด้านความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ สิงคโปร์มีการลงทุนในเรื่องของอุตสาหกรรมความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง และใช้งบร้อยละ 27 ของงบประมาณระดับชาติเพื่อความมั่นคงและป้องกันประเทศ เป็นการลงทุนในเรื่องของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 47,000 นาย เจ้าหน้าที่ให้บริการ 600 ราย หน่วยงานรักษาความปลอดภัย 240 ราย
อย่างไรก็ตาม สิงคโปร์ต้องการที่จะให้นักเดินทางที่เข้ามาในประเทศมีความปลอดภัย จึงมีการติดตั้งกล้องตรวจจับความร้อน 300 ตัว ตามพื้นที่พักอาศัยและพื้นที่สาธารณะอื่น ๆ กว่า 32,000 จุด เพื่อจับผู้สูบบุหรี่ในพื้นที่ที่ไม่ได้รับอนุญาต และถูกปรับเป็นเงิน 1,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ ประมาณ 24,000 บาท
นอกจากนี้ ยังมีการติดตั้งกล้องวงจรปิดที่มีความสามารถในการจำแนก – ตรวจจับใบหน้า (Face Recognition) บนเสาไฟฟ้า 110,000 ต้นทั่วประเทศ โดยชิปภายในกล้องจะเชื่อมเข้ากับระบบตรวจจับใบหน้า เพื่อใช้วิเคราะห์ฝูงชนและป้องการก่อการร้ายด้วย
ซึ่งการลงทุนในสนามบินชางงี ถือว่า เป็นการนำร่องแพลตฟอร์มการเฝ้าระวัง รวมเสียงเข้ากับการวิเคราะห์วิดีโอ เพื่อติดตามเหตุการณ์ด้านความปลอดภัยที่ไม่คาดฝัน
ไทยก็มี AI ในการวิเคราะห์ภาพจากกล้องวงจรปิด
ด้านนักวิจัยของไทย ได้พัฒนาระบบสำหรับตรวจจับบุคคลที่มีความเสี่ยงในการอำพรางอาวุธปืนโดยการวิเคราะห์วิดีโอจากกล้อง CCTV แบบ Realtime ด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence : AI) แบบการประมวลผลเชิงลึก (Deep Learning) โดย AI จะตรวจจับสิ่งที่อยู่ในเหตุการณ์
ซึ่งจะระบุทั้งบุคคลที่มีพฤติกรรมปกติ และที่แสดงพฤติกรรมที่มีความเสี่ยงในการอำพรางอาวุธปืน โดยการระบุว่าเป็นบุคคลกลุ่มใดจะใช้การประมวลผลเชิงลึก ในการแบ่งแยกบุคคลที่แสดงพฤติกรรมที่ต่างกัน และแจ้งเตือนไปยังบุคคล ที่ระบุให้ได้รับข้อความแจ้งเตือน เพื่อดำเนินการป้องกันหรือระงับเหตุต่อไป
ปัจจุบันระบบดังกล่าว อยู่ในระหว่างการพัฒนาระบบเพื่อนำไปใช้จริง ซึ่งจะช่วยให้ลดการเกิดความเสียหายทั้งทางด้านชีวิตและทรัพย์สิน ลดระดับการเกิดเหตุการณ์ความรุนแรงให้เล็กลง และเกิดการต่อยอดทางธุรกิจต่อไป
——————————————————————————————————————————————
ที่มา : Springnews / วันที่เผยแพร่ 27 ต.ค.66
Link : https://www.springnews.co.th/digital-tech/technology/843859