หลังจากเกิดเหตุรุนแรงในวิกฤตตะวันออกกลาง เมื่อนักรับฮามาสในฉนวนกาซาบุกข้ามแดนสังหารชาวอิสราเอลพันกว่าคนและจับชาวต่างชาติและชาวอิสราเอลไปเป็นตัวประกันสองร้อยกว่า คนงานไทยจำนวนหนึ่งซึ่งทำงานในนิคมเกษตรอิสราเอล ก็ตกเป็นเหยื่อของสถานการณ์ความขัดแย้งนี้ ซึ่งเป็นปัญหาท้าทายรัฐบาลไทย
ความรุนแรงที่ปะทุขึ้นและปัญหามนุษยธรรมภายในฉนวนกาซา กลายเป็นวิกฤติการณ์ที่ร้ายแรงสร้างความสูญเสียและเจ็บแค้นในหมู่ชาวปาเลสไตน์ เกิดการปะทะคารมกล่าวโทษซึ่งกันและกัน แบ่งฝ่ายตอบโต้กันตามหัวเมืองใหญ่ ๆ ของโลก ต่างฝ่ายต่างอ้างความชอบธรรมในประวัติศาสตร์ถอยหลังกลับไปนับพันปี และเมื่อล่าสุดมีการโต้ตอบอย่างฉับพลันจากฝ่ายความมั่นคงของอิสราเอลด้วยความรุนแรงเช่นกัน ทำให้เกิดการโต้เถียงขัดแย้งขยายวงออกไปทั่วโลก
ในลอนดอน ซึ่งได้ชื่อว่า เป็นเมืองที่มีความหลากหลายและเปิดกว้างให้สิทธิเสรีภาพทางการแสดงออก มีการจัดชุมนุมทั้งฝ่ายที่สนับสนุนอิสราเอลและฝ่ายที่เห็นอกเห็นใจปาเลสไตน์ เป็นปัญหาให้ตำรวจนครบาลลอนดอน ต้องจัดกำลังออกมาตรวจตราไม่ให้สถานการณ์ลุกลามตามอารมณ์ความโกรธแค้นพลุ่งพล่านของทั้งสองฝ่าย
แต่ก็เกิดประเด็นเรื่องการปฏิบัติหน้าที่รักษาความสงบของตำรวจลอนดอน ที่เข้าไปดูแลการชุมนุมประท้วงของผู้สนับสนุนปาเลสไตน์กว่าแสนคน เมื่อมีการเปิดเผยผ่านสื่อสังคมว่า มีผู้ชุมนุมคนหนึ่งร้องตะโกน “จีฮัด…จีฮัด” ซึ่งอาจจะตีความได้ว่าเป็นการสนับสนุนให้ใช้ความรุนแรง แต่ตำรวจมิได้ดำเนินคดีกับผู้ที่ร้องตะโกน “จีฮัด” แม้จะมีการดำเนินคดีกับผู้ประท้วงคนอื่น ๆ 34 คน ก็ตาม ทำให้เกิดการโต้เถียงประเด็นนี้ระหว่างรัฐมนตรีมหาดไทย ซึ่งเป็นนักการเมือง และผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ซึ่งเป็นข้าราชการประจำ
สื่อมวลชนประเภทแทบลอยด์ ซึ่งเป็นสื่อสิ่งพิมพ์เลือกข้าง ออกมาตำหนิโจมตีผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เรียกร้องให้รัฐมนตรีมหาดไทยเล่นงาน เซอร์มาร์ก ราวลี (Sir. Mark Rawley) ซึ่งเวลาต่อมารัฐมนตรีมหาดไทยของพรรคคอนเซอร์ทีฟ ซูลเอลา บราเวอร์แมน (Suella Braverman) นักการเมืองแนวอนุรักษ์ก็เลยเต้นไปตามจังหวะเคาะของสื่อแทบลอยด์ดังกล่าว
ในการพบปะหารือระหว่างรัฐมนตรีมหาดไทยกับผู้บัญชาการตำรวจนครบาลลอนดอน เซอร์มาร์กชี้แจงว่าตำรวจดำเนินการตามหลักวิชาชีพและขอบเขตของกฎหมาย การตะโกนคำว่า “จีฮัด” นั้นทีมงานฝ่ายป้องกันการก่อการร้ายได้พิจารณาแล้วว่าไม่เข้าข่ายผิดกฎหมาย และตำรวจนครบาลไม่มีอำนาจหน้าที่ในการควบคุมบังคับ ‘รสนิยมและความดีงาม’ (taste and decency) ของคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง แต่จะดำเนินตามขอบเขตอำนาจที่กฎหมายระบุให้เท่านั้น
ก่อนหน้านี้ ตำรวจนครบาลลอนดอนได้แถลงผ่านสื่อสังคม X (ทวิตเตอร์) ชี้แจงว่า “คำว่า jihad มีความหมายหลากหลาย แต่ประชาชนกลุ่มหนื่งมักจะเชื่อมโยงคำนี้เข้ากับ การก่อการร้าย ทางกองบัญชาการตำรวจนครบาลมีทีมงานเฉพาะกิจที่เชี่ยวชาญเรื่องการก่อการร้าย ทีมงานนี้ได้ประเมินคลิปวิดีโอดังกล่าว แล้วไม่พบว่า มีการทำผิดกฎหมายในคลิปนั้น อย่างไรก็ตาม เนื่องจากการใช้ภาษาแบบนี้อาจจะมีคนบางกลุ่มตีความว่า มีผลในการสร้างความแตกแยก เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งกับชายผู้ประท้วงคนนั้น ให้ยุติการใช้ภาษาดังกล่าวในการชุมนุมประท้วงครั้งต่อ ๆ ไป”
ทางด้านบีบีซี ได้ให้บริบทของคำว่า Jihad ในภาษาอารบิกว่า เป็นการดิ้นรน (struggle) และในคำสอนอิสลามหมายถึงการ ดิ้นรนภายในจิตใจ (internal struggle) อย่างเช่นผู้มีความศรัทธาก็จะดิ้นรนที่จะใช้ชีวิตตามหลักการของความศรัทธาของตน อย่างไรก็ตาม ก็อาจจะมีการตีความว่าเป็นการต่อสู้ภายนอก หรือ สงคราม ซึ่งตามหลักคำสอนทางศาสนาจะต้องต่อสู้เพื่อป้องกันตนเองและภายใต้ขอบเขตจำกัด
หนังสือพิมพ์ The Independent เมื่อวันที่ 23 ตุลาคมที่ผ่านมา รายงานอ้างคำพูดของนายตำรวจระดับสูงบางคนว่า วงการตำรวจมืออาชีพต่างก็เหนื่อยหน่ายต่อนักการเมืองที่ชอบเข้าแทรกแซงกดดันให้ตำรวจดำเนินการบางอย่าง ที่อยู่นอกขอบเขตของกฎหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการรักษาความสงบระหว่างการชุมนุมประท้วง
เซอร์มาร์กแถลงหลังจากหารือกับรัฐมนตรีมหาดไทยว่า “ตำรวจลอนดอนปฎิบัติหน้าที่รักษาความสงบการชุมนุมของกลุ่มต่าง ๆ ตามขอบเขตของกฎหมายอย่างเคร่งครัด ถ้าหากรู้สึกว่าตำรวจมิได้ทำหน้าที่อย่างที่ควร ก็เป็นหน้าที่ของรัฐสภาที่จะแก้ไขกฎหมายเพิ่มอำนาจให้ตำรวจ”
ดูเหมือนฝ่ายข้าราชการประจำจะเตะลูกบอลกลับมาที่นักการเมือง ปรากฏว่าในเวลาต่อมา ก็มีคำแถลงจากทำเนียบนายกรัฐมนตรีถนนดาวนิ่งว่า รัฐบาลยังไม่มีนโยบายที่จะเพิ่มอำนาจให้ตำรวจดำเนินคดีกับผู้ชุมนุมประท้วงที่ร้องตะโกนในภาษาที่อาจจะตีความหมายว่าเป็นการปลุกปั่นยุยง
การโต้เถียงระหว่างนักการเมืองกับตำรวจนครบาลลอนดอน มีลักษณะคล้ายกับการโต้เถียงระหว่างนักการเมืองกับบีบีซี เพราะในบทรายงานข่าวของบีบีซี เมื่อมีการพาดพิงถึงกลุ่มฮามาสจะไม่ใช้คำว่า ‘กลุ่มก่อการร้าย’ แต่จะเรียกว่า ‘กลุ่มติดอาวุธ’ หรือ ‘นักรบ’ ถ้าจะใช้คำว่าก่อการร้ายก็ต้องอ้างคำพูดของผู้พูดเท่านั้น (quoting, attributing) ซื่งทำให้รัฐมนตรีต่างประเทศและรัฐมนตรีกลาโหมไม่พอใจมาก ฉวยโอกาสตำหนิในรายการที่บีบีซีโทรไปสัมภาษณ์สด ๆ แต่นักข่าวบีบีซีได้ตอบกลับไปว่า บีบีซีปฏิบัติตามกรอบปฏิบัติ (Code of Conduct) ของ OFCOM หน่วยงานอิสระกำกับดูและสื่อวิทยุโทรทัศน์ คล้าย ๆ กสทช. ของไทย
ทางด้านโฆษกบีบีซีกล่าวว่า เมื่อรัฐบาลอังกฤษเรียกกลุ่มฮามาสว่าเป็นผู้ก่อการร้าย บีบีซีก็รายงานอ้างอิงตามคำแถลงของรัฐบาลอังกฤษ แต่หากเป็นการรายงานข่าวที่บีบีซีกล่าวถึง ไม่จำเป็นต้องเรียกฮามาสในแบบเดียวกัน ซึ่งบีบีซีใช้หลักการนี้มาหลายสิบปีแล้ว ก่อนเกิดเหตุการณ์รุนแรงต้นเดือนตุลาคมนี้ ทั้งนี้ บีบีซีเป็นสื่อมวลชนอิสระมีหน้าที่รายงาน ให้คำอธิบายว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นมา เท่าที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงได้ ผู้ชมผู้อ่านผู้ฟัง จะเป็นผู้ที่ตัดสินใจเอง
จอห์น ซิมป์สัน (John Simpson) บรรณาธิการอาวุโสบีบีซี ให้ความเห็นใน X ว่า ความจริงแล้วนักการเมืองของอังกฤษก็เข้าใจดีว่าทำไมบีบีซีถึงหลีกเลี่ยงการใช้คำว่าผู้ก่อการร้ายในบทบรรยายข่าว (narration) นอกจากจะเป็นการอ้างคำพูดของบุคคลที่สัมภาษณ์เท่านั้น ทั้งนี้เพราะบีบีซียึดหลัก due impartiality หรือการไม่เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง โดยใช้หลักการนี้มาโดยตลอดหลายสิบปีแล้ว ไม่ใช่เฉพาะกรณีอิสราเอล-ปาเลสไตน์
สำหรับกรณีเหตุรุนแรงล่าสุด บีบีซีมีนักข่าวซึ่งเป็นชาวปาเลสไตน์สองคนในพื้นที่ โดยรายงานข่าวสะท้อนภาพข้อเท็จจริงออกมาจากฉนวนกาซ่าทุกวัน วันละหลายช่วงเวลา เพื่อสะท้อนมุมมองภาวะวิกฤติที่เกิดขึ้นอย่างเป็นจริงเทียบกับรายงานข่าวจากนักข่าวบีบีซีในเยรูซาเล็ม นอกจากบีบีซีแล้ว ทั้ง Sky News และ ITN ต่างก็หลีกเลี่ยงไม่ติดป้ายกลุ่มฮามาสว่าเป็นกลุ่มก่อการร้าย ทั้งนี้เป็นไปตามกรอบปฏิบัติวิชาชีพสื่อมวลชนของ OFCOM ซึ่งเป็นหน่วยงานอิสระ
ทั้งกรณีตำรวจนครบาลลอนดอนและสื่อมวลชนวิชาชีพแบบบีบีซี ต่างแสดงให้เห็นว่าการทำงานจะต้องแม่นยำในมาตรฐานวิชาชีพ โดยเฉพาะในภาวะการเมืองที่อ่อนไหวภายใต้กระแสอารมณ์การเลือกฝักเลือกฝ่ายของกลุ่มคนต่าง ๆ ในสังคม ซึ่งหลายครั้งมักจะสร้างแรงกดดันให้นักการเมืองไหวเอียง แล้วมาออกมากดดันผู้ปฏิบัติหน้าที่ให้เลือกข้างจนละเลยหลักการและมาตรฐานวิชาชีพของพวกเขา
บทความโดย สมชัย สุวรรณบรรณ
——————————————————————————————————————————————
ที่มา : The 101 / วันที่เผยแพร่ 31 ต.ค.66
Link : https://www.the101.world/bbc-israel-hamas/