ไทยส่ง “THEOS-2” ไปอวกาศ 7 ต.ค.นี้ เป็นดาวเทียมสำรวจโลกรายละเอียดสูงมากดวงแรกของประเทศ “จิสด้า” ผุด Dragonfly แพลตฟอร์มดิจิทัลทางการเกษตร หวังลดต้นทุน เพิ่มผลผลิตให้เกษตรกร
เมื่อวันที่ 27 ก.ย.66 น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ดร.ปกรณ์ อาภาพันธุ์ ผู้อำนวยการ สำนักพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (GISTDA) นายเรมี ล็องแบร์ อุปทูตรักษาการเอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทย และนายโอลิวิเย่ร์ ชาร์ลเวท จาก AIRBUS ร่วมแถลงข่าวความพร้อมของดาวเทียม THEOS-2 ก่อนขึ้นสู่อวกาศ ในงาน “THEOS-2 : Shaping Thailand’s Future from Space, Our Commitment” ณ Pearl Bangkok ถนนพหลโยธิน กรุงเทพฯ โดย ดาวเทียมสำรวจโลก THEOS-2 ของไทยดวงนี้ มีกำหนดการขึ้นสู่อวกาศในวันเสาร์ที่ 7 ต.ค.66 เวลา 08.36 น. (ตามเวลาประเทศไทย) ณ ท่าอวกาศยานยุโรปเฟรนช์เกียนา (Guiana Space Center) ในทวีปอเมริกาใต้
น.ส.ศุภมาสกล่าวว่า ดาวเทียม THEOS-2 เป็นดาวเทียมสำรวจโลก หรือ Earth observation satellite หนึ่งในสองดวงที่อยู่ภายใต้โครงการระบบดาวเทียมสำรวจเพื่อการพัฒนา ที่ดำเนินการโดย GISTDA ซึ่งมีศักยภาพถ่ายภาพและผลิตภาพสีรายละเอียดสูงมากในระดับ 50 เซนติเมตร สามารถถ่ายภาพและส่งข้อมูลกลับมายังสถานีภาคพื้นดินได้ไม่ต่ำกว่า 74,000 ตารางกิโลเมตรต่อวัน และข้อมูลจากดาวเทียมจะถูกใช้ในการปรับปรุงข้อมูลในทุกพื้นที่ของไทยให้เป็นปัจจุบันอย่างละเอียดและถูกต้อง ช่วยให้การวางแผนบริหารจัดการพื้นที่ที่ตอบสนองต่อสถานการณ์ฉุกเฉินต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถนำมาใช้ในการจัดการเกษตร การบริหารจัดการน้ำ การจัดการภัยธรรมชาติ การจัดการเมือง และทรัพยากรธรรมชาติ รวมถึงยังช่วยพัฒนาและยกระดับโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีอวกาศของประเทศ โดยเฉพาะด้านทรัพยากรมนุษย์และการพัฒนาอุตสาหกรรมอวกาศ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ
สำหรับข้อมูล THEOS-2 นี้ GISTDA จะเปิดโอกาสให้ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และสถาบันการศึกษา ได้เข้าถึงข้อมูล เพื่อจะได้นำไปต่อยอดหรือการบริการเชิงพาณิชย์ได้ เป็นการส่งเสริมการพัฒนาระบบเศรษฐกิจภายในประเทศ รวมถึงจะเป็นแรงผลักดันเพื่อขับเคลื่อนด้านการศึกษา การวิจัยและนวัตกรรมในการใช้ข้อมูลเชิงพื้นที่ และเทคโนโลยีอวกาศในการพัฒนาองค์ความรู้ สร้างนักพัฒนานวัตกรรมทุกระดับตั้งแต่ระดับเยาวชน Startup SMEs และบริษัทเอกชนขนาดใหญ่ ตามนโยบายของ อว. ที่มุ่งเน้นในการสร้างคน สร้างความรู้ สร้างนวัตกรรม เพื่อพัฒนาประเทศ
เมื่อดาวเทียม THEOS-2 ขึ้นสู่อวกาศแล้วจะใช้เวลาอีก 5-7 วัน ในการปรับตัวเองให้เข้าสู่วงโคจรที่แท้จริง และจะใช้เวลาอีกประมาณ 6 เดือน ที่จะทดสอบระบบต่าง ๆ ก่อนเปิดให้บริการ ทั้งนี้ ดาวเทียม THEOS-2 จะมีส่วนช่วยเสริมสร้างขีดความสามารถของประเทศไทยในการพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ โดยกระทรวง อว. จะผลักดันนโยบายเรื่องเศรษฐกิจอวกาศของประเทศไทยให้เป็นจริงโดยเร็ว
ทางด้าน ดร.ปกรณ์กล่าวว่า ดาวเทียม THEOS-2 จะเป็นเครื่องมือสำคัญให้กับรัฐบาลในการบริหารจัดการประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดีขึ้น อีกทั้งยังเป็นการเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศทางด้านเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ อีกด้วย
สำหรับการนำข้อมูลจากดาวเทียม THEOS-2 มาใช้ในการพัฒนาประเทศ สามารถเป็นไปได้ในหลากหลายมิติ อาทิ การจัดทำแผนที่ เนื่องจากดาวเทียม THEOS-2 สามารถบันทึกภาพและความละเอียดสูงถึง 50 เซนติเมตรต่อ pixel และพัฒนาให้เป็นข้อมูลสามมิติได้ จึงสามารถนำไปผลิตแผนที่มาตราส่วนใหญ่ได้ถึง มาตราส่วน 1: 1000
การจัดการเกษตรและอาหาร การบริหารจัดการน้ำแบบองค์รวม การจัดการภัยธรรมชาติ การจัดการเมืองโดยเฉพาะแนวขอบเขตที่ดินและขอบเขตชายแดน การจัดการทรัพยากรธรรมชาติและระบบนิเวศ โดยการส่งดาวเทียม THEOS-2 ขึ้นสู่อวกาศในครั้งนี้ถือเป็นการส่งดาวเทียมระดับปฏิบัติการที่สามารถนำไปใช้งานได้จริงตามภารกิจของประเทศดวงที่ 2 ของไทยในรอบ 15 ปี หลังจากส่งไทยโชตเมื่อปี 51 ทั้งนี้ การที่ประเทศไทยมีดาวเทียม THEOS-2 จะเป็นการตอบโจทย์การพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืนในระยะยาว
มีรายงานด้วยว่า ในวันเดียวกันนี้สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA จัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการ “Dragonfly แพลตฟอร์มเกษตรเชิงพื้นที่รายแปลง เพื่อยกระดับเศรษฐกิจฐานราก” โดยมุ่งเน้นสร้างการรับรู้และขับเคลื่อนการใช้ประโยชน์จากแพลตฟอร์มเกษตรเชิงพื้นที่รายแปลงรวมถึงเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการเชิงพื้นที่รายแปลงเพาะปลูกข้าวได้อย่างเหมาะสมและเป็นระบบ โดยมีนางกานดาศรี ลิมปาคม รองผู้อำนวยการ GISTDA เป็นประธานในพิธีเปิด ณ โรงแรมอัศวิน แกรนด์ คอนเวนชั่น โฮเทล กรุงเทพฯ
ทางด้าน ดร.สยาม ลววิโรจน์วงค์ โฆษก GISTDA และผู้อำนวยการสำนักประยุกต์และบริหารภูมิสารสนเทศ กล่าวว่า GISTDA มีความตั้งใจที่จะนำเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศมาบูรณาการให้เกิดการใช้ประโยชน์กับประเทศไทยให้มากที่สุด โดยเฉพาะในภาคการเกษตร เทคโนโลยีจากดาวเทียมสามารถสร้างความสัมพันธ์ทั้งเชิงพื้นที่ เชิงเวลา และสร้างสัมพันธภาพกับเกษตรกร ผ่านแพลตฟอร์มเกษตรเชิงพื้นที่รายแปลงที่ชื่อว่า “Dragonfly” ซึ่งออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ทุกปัญหาของเกษตรกรในระดับรายแปลงที่แม่นยำ และทันสมัย ช่วยให้เกษตรกรสามารถติดตาม เฝ้าระวัง และคาดการณ์ เพื่อประกอบการตัดสินใจในการวางแผนและบริหารจัดการแปลงเพาะปลูกได้อย่างครบวงจร
ตั้งแต่เริ่มปลูกจนกระทั่งขายผลผลิต “Dragonfly” หรือ “แอปแมลงปอ” นอกจากเข้าถึงง่าย ใช้งานได้สะดวกแล้ว ยังติดตามและเฝ้าระวังความสมบูรณ์ของพืชได้ทุกสัปดาห์ ไม่ให้พืชเสียหายหนักจนเกินแก้ไข พร้อมแจ้งเตือนการเฝ้าระวัง สภาพอากาศ บอกพื้นที่น้ำท่วม ภัยแล้งในแปลงและข้างเคียงได้ บอกราคารับซื้อผลผลิตทางการเกษตรที่เป็นปัจจุบัน แนะนำการใส่ปุ๋ยไนโตรเจนในนาข้าวที่เหมาะสม เพื่อลดต้นทุนค่าปุ๋ยเคมี รวมถึงมีเครื่องมือช่วยให้เกษตรกรจดบันทึกรายรับ-รายจ่าย และผลผลิตในแต่ละวงรอบการเพาะปลูกได้ด้วย
————————————————————————————————————————————-
ที่มา : เดลินิวส์ออนไลน์ / วันที่เผยแพร่ 27 ก.ย.66
Link : https://www.dailynews.co.th/news/2757219/