ย้อนดูผลตรวจยึดปืน blank Gun ปี’65 เจอ 2 พันกระบอก กระสุนนับแสนนัด เปิดสถิติไทยครอบครองปืน
กลายเป็นประเด็นถกเถียงในสังคมกันอย่างกว้างขว้าง เรื่องการเข้าถึงอาวุธปืนของเด็กชายวัย 14 ปี หลังเกิดเหตุรัวยิงกลางศูนย์การค้าสยามพารากอน เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 2 และบาดเจ็บ 5 ราย
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม พล.ต.ต.อำนาจ ไตรพจน์ รอง ผบช.สอท. กล่าวว่า ในห้วงที่ผ่านมา มีการกระทำความผิดและใช้อาวุธปืนในการก่อเหตุอยู่บ่อยครั้ง ก่อให้เกิดความสูญเสียและความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ได้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลกันของหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อบูรณาการกวาดล้างผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืนพร้อมกันทั่วประเทศ โดยที่ผ่านมาได้ระดมกวาดล้างจำนวนมาก
ขณะเดียวกัน พบว่าแม้มีการจับกุมได้ต่อเนื่อง แต่ยังพบว่ามีการซื้อขายอาวุธปืนทั้งถูกกฎหมายและผิดกฎหมายเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะการซื้อขายในออนไลน์ อีกทั้งพบมีการดัดแปลงอาวุธปืนมาจำหน่าย ซึ่ง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. ได้มีข้อสั่งการมายัง พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. ดำเนินการเรื่องดังกล่าวแล้ว
พล.ต.ต.อำนาจกล่าวอีกว่า โดย ผบช.สอท. ได้สั่งการให้ทุก บก.ในสังกัด หาข่าว มุ่งเน้นเพื่อตรวจค้น จับกุม กลุ่มคนที่มีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับอาวุธปืนผิดกฎหมายทุกรูปแบบ โดยเฉพาะการลักลอบจำหน่ายอาวุธปืนและเครื่องกระสุน ทั้ง On Ground และผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่งปัจจุบันพบว่า อาชญากรรมส่วนใหญ่ที่พบ เป็นอาวุธปืนเถื่อนไม่ว่าเป็นอาวุธปืน blank Gun ที่ถูกนำมาดัดแปลงใช้ยิงกระสุนจริงได้ ซึ่งหลังจากนี้ อยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลเพื่อกวาดล้างครัังใหญ่ต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้าเดือน ก.ค.ปีที่ผ่านมา ตำรวจไซเบอร์เปิดยุทธการ CyberCop cracked down on Online Scammers ตรวจยึดอาวุธปืนและเครื่องกระสุนจำนวนมาก ที่น่าสนใจ คือ การตรวจยึดแบลงก์ กันได้กว่า 2,000 กระบอก กระสุนปืนกว่าแสนนัด หลังพบการซื้อขายออนไลน์ผ่านหน้าเว็บไซต์และส่งสินค้าผ่านเอกชน
โดยการแถลงข่าวครั้งนั้น กองพิสูจน์หลักฐานออกมายืนยัน ปืน แบลงก์กัน หากนำมาดัดแปลงให้ขับกระสุนออกได้ ก็มีสภาพเทียบเท่าอาวุธปืนจริง เข้าข่ายความผิดตามกฎหมาย อีกทั้งหากมีการดัดแปลงเมื่อยิงกระสุนแบลงก์ กัน แรงดันที่เกิดขึ้นดันกระสุนจำลองพุ่งใส่ร่างจนบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตในเวลาเพียง 1 ชั่วโมง ตอกย้ำอานุภาพของแบลงก์ กัน อันตรายเกินกว่าจะเป็นเพียงสิ่งเทียมอาวุธปืน
เมื่อช่วงวันที่ 14 กรกฎาคม 2565 ตำรวจ สอท.เข้าตรวจสถานที่น่าเชื่อว่า เป็นแหล่งจำหน่ายอาวุธปืนที่ผิดกฎหมายให้กับประชาชนทั่วไป ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ และเก็บอาวุธปืน ในพื้นที่ สน.ร่มเกล้า และ สน.บางชัน 2 จุด
จุดที่ 1 ร้านค้าบริเวณ ถนนราษฎร์พัฒนา แขวงสะพานสูง เขตสะพานสูง กทม. ตรวจยึดของกลาง 1.อาวุธปืนแบลงก์ กัน 1,865 กระบอก 2. เครื่องกระสุนปืนแบลงก์ กัน 82,450 นัด 3.อุปกรณ์ส่วนควบอาวุธปืน 31 ชิ้น
จุดที่ 2 หมู่บ้านเพอร์เฟคเพลส วงแหวนรามคำแหง ถนนเคหะร่มเกล้า แขวงคลองสองต้นนุ่น เขตลาดกระบัง กทม. ตรวจยึดของกลาง 1.อาวุธปืนอัดลมแรงดันสูง เบอร์ 1 และเบอร์ 2 142 กระบอก 2.อาวุธปืนแบลงก์ กัน 238 กระบอก
3.เครื่องกระสุนปืนอัดลมแรงดันสูง เบอร์ 1 และเบอร์ 2 410 กล่อง 4.อุปกรณ์ส่วนควบอาวุธปืน 97 ชิ้น รวมของกลาง 2 จุดอาวุธปืนแบลงก์ กัน 2,103 กระบอก 2.อาวุธปืนอัดลมแรงดันสูง เบอร์ 1 และเบอร์ 2 142 กระบอก 3.เครื่องกระสุนปืนแบลงก์ กัน 82,450 นัด กระสุนปืนอัดลมแรงดันสูง เบอร์ 1 และเบอร์ 2 410 กล่อง และ 5. อุปกรณ์ส่วนควบอาวุธปืน 128 ชิ้น
สำหรับประเด็นเรื่องปืนแบลงก์ กันนั้น เคยเป็นข้อถกเถียงระหว่างทางตำรวจกับกรมการปกครองในการตีความว่าเป็นอาวุธหรือไม่ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจในหลายหน่วยงานที่ทดสอบปืนชนิดนี้แล้วว่า ถ้ากระสุนเข้าจุดสำคัญของร่างกายมีขีดความสามารถทำอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้ ซึ่งเคยออกมาให้ข้อมูลในการตีความว่าเป็นอาวุธ
แต่ทางเจ้าหน้าที่ของกรมการปกครองได้โต้แย้งว่าไม่ใช่อาวุธและยืนยันว่าเป็นแค่สิ่งเทียมอาวุธปืน ทำให้ปืนแบลงก์ กันมีผู้นำเข้าและมีการโพสต์ขายกันเกลื่อนในช่องทางออนไลน์หลายแพลตฟอร์ม จึงทำให้ซื้อหาเพื่อนำมาใช้ได้อย่างง่าย ก่อนนำมาดัดแปลงลำกล้องและชุดลั่นไกสามารถใส่กระสุนจริงได้ จนนำมาสู่การก่อเหตุรุนแรงด้วยปืนชนิดนี้
ทั้งนี้ มีรายงานข้อมูลสถิติจากเว็บไซต์ World population review ระบุข้อมูลที่น่าตกใจว่า พลเรือนคนไทยมีอาวุธปืนไว้ในครอบครอง มากถึง 10.3 ล้านกระบอก คิดเป็นสัดส่วน 15.41% ของประชากรไทย 66,090,000 คน นอกจากนี้ ประเทศไทยยังเป็นประเทศที่มีการครอบครองปืนมากที่สุดในอาเซียน และอยู่ในอันดับที่ 20 ของโลก
มีรายงานว่า ข้อมูลจากองค์กรที่รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับอาวุธปืนขนาดเล็ก (Small Arms Survey) หรือ SAS ของสวิตเซอร์แลนด์ ระบุว่า หากดูสถิติประเทศที่พลเรือนครอบครองปืนสูงสุด อันดับ 1 คือ สหรัฐอเมริกา ประมาณ 393.3 ล้านกระบอก, อันดับ 2 อินเดีย ประมาณ 71.1 ล้านกระบอก, อันดับ 3 จีน ประมาณ 49.7 ล้านกระบอก
ขณะที่ประชาชนไทยครอบครองอาวุธปืนขนาดเล็กในปี 2017 เป็นอันดับ 13 ของโลก หากนับประชากรในอาเซียน 647 ล้านคน ประชากรของไทย 68 ล้านคน มีอาวุธปืนที่อยู่ในการครอบครองของพลเรือนมีถึง 10,342,000 กระบอก นับเป็นประเทศที่ครอบครองปืนสูงที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือคิดเป็นอาวุธปืนขนาดเล็ก 15 กระบอกต่อประชากร 100 คน ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่สูงพอสมควร
——————————————————————————————————————————————
ที่มา : Matichon Online / วันที่เผยแพร่ 5 ต.ค.66
Link : https://www.matichon.co.th/local/crime/news_4214658