ทูตไทยประจำเทลอาวีฟ รับ มีแรงงานไทย หลัก 10 คน กลับไปทำงานในอิสราเอล เหตุ นายจ้างเพิ่มค่าแรงจูงใจ วอน แรงงานไทยรออีกสักระยะ ขอให้คิดถึงสวัสดิภาพตัวเอง คาดแรงงานไทยถูกจับไปเพิ่มอีก 1 เป็น 26 ราย
วันที่ 21 พ.ย. 66 นางสาวพรรณภา จันทรารมย์ เอกอัครราชทูตประจำกรุงเทลอาวีฟ อิสราเอล เปิดเผยว่ามีแรงงานไทยหลัก 10 คน เดินทางกลับเข้าไปทำงานในอิสราเอล โดยไม่ได้เดินทางเข้าอิสราเอลโดยตรง เป็นเดินทางเข้าประเทศอื่น แล้วต่อไปยังอิสราเอล โดยสถานทูต ทราบจากแรงงานไทยที่แรงงานกลุ่มดังกล่าวมีการติดต่อสื่อสารกัน แต่ยังไม่ทราบ รายชื่อแรงงานกลุ่มดังกล่าว
สถานทูตไทย มีความเป็นห่วงสถานการณ์ยังไม่ปลอดภัย เพราะขณะนี้ยังมีสถานการณ์สู้รบอยู่ โดยขอให้แรงงานไทยใจเย็น ๆ รอเวลาอีกสักหน่อย รอหลังสถานทูตประเมินสถานการณ์จนกว่าจะเกิดความปลอดภัย ซึ่งการที่จะไปทำงานที่อิสราเอล สามารถไปได้ แต่ความปลอดภัยเป็นเรื่องที่สำคัญ
มั่นใจว่าอิสราเอลรับกลับไปทำงานอย่างแน่นอน เนื่องจากขาดแรงงานภาคการเกษตร อย่ากังวลเรื่องตำแหน่งงาน อย่างไรก็ตาม ก็เข้าใจแรงงานกลุ่มดังกล่าว ที่กลับเข้าไป เนื่องจากกลับมาแล้วไม่มีงานทำ ทั้งนี้ เข้าใจว่า แรงงานกลับเข้าไปทำงานในอิสราเอลอีกครั้ง เพราะนายจ้างเพิ่มค่าแรง ซึ่งเป็นแรงจูงใจ ทั้งนี้ สถานทูตเป็นห่วงว่า หากแรงงานกลุ่มแรกสามารถเดินทางกลับเข้าไปได้ก็จะมีกลุ่มอื่น ๆ ทำตาม
นางสาวพรรณิภา ยังฝากเตือนไปยังแรงงานไทย ที่กำลังตัดสินใจอยากจะกลับไปทำงานในอิสราเอล ขอให้คิดถึงความปลอดภัย โดยรัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ มีการประเมินสถานการณ์อยู่ทุกวัน พร้อมขอให้คิดถึงความยากลำบากในการช่วยเหลือแรงงานไทยกลับมา ตั้งแต่ช่วงแรกการเกิดสงคราม เพราะการที่จะนำคนกว่า 7,400 คน กลับประเทศ ต้องใช้งบประมาณและบุคลากรจำนวนมหาศาล และจนถึงขณะนี้ก็ยังมีเจ้าหน้าที่เปิดศูนย์ไว้คอยช่วยเหลือที่สถานทูต ซึ่งขณะนี้มีแรงงานบางส่วนประสานขอความช่วยเหลือให้สถานทูตช่วยจองตั๋วเครื่องบินกลับประเทศ ทั้งนี้ แรงงานที่กลับเข้าไปทำงานในอิสราเอล จะไม่ได้รับเงินเยียวยาจากภาครัฐ
ขณะที่เงินเยียวยาผู้เสียชีวิต บาดเจ็บ และผู้ที่ถูกจับเป็นตัวประกันจากทางการอิสราเอลนั้น อิสราเอลได้มีการผ่านกฎหมายเรื่องเงินเยียวยาแล้ว แต่จะต้องใช้เวลาอีกสักพัก เพราะถือเป็นเรื่องใหม่ของอิสราเอล
ส่วนความคืบหน้าคลิป ที่ทางการอิสราเอล เผยแพร่ว่า มีแรงงานไทยและแรงงานเนปาล ถูกจับเป็นตัวประกันในโรงพยาบาลภายในฉนวนกาซานั้น เป็นคลิปเหตุการณ์เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม เป็นหลักฐานยืนยันว่า คนที่ถูกจับตัวไป ณ วันนั้น ยังมีชีวิตอยู่ ก็หวังว่า ทุกคนที่ถูกจับเป็นตัวประกันจะมีความปลอดภัยและสามารถเดินทางกลับประเทศได้ ขณะที่การเจรจารัฐบาลก็พยายามดำเนินการอย่างต่อเนื่อง และคาดหวังว่า แรงงานไทยจะถูกปล่อยตัว แต่เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย และบางอย่างไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะเป็นเรื่องของความมั่นคง
ส่วนรายงานตัวเลขแรงงานไทยที่ถูกจับตัวไป ล่าสุด มีเพิ่มอีก 1 คน คือ 26 คน ส่วนรายชื่อของคนไทยที่สูญหายยังคงเหลือแค่ 3 คน
ขณะที่ทีมเจรจาของประธานรัฐสภาที่ไปเจรจากลุ่มฮามาส ที่อิหร่าน ระบุว่า อาจมีข่าวดีคนไทยถูกปล่อยตัวไปนั้น สถานทูตไทยไม่ทราบเรื่องดังกล่าวและไม่ขอตอบในประเด็นดังกล่าว เพราะเป็นการดำเนินการคนละส่วน
ข้อเรียกร้องของกลุ่มฮามาสที่บอกให้อิสราเอลหยุดยิง 5 วันนั้น ทูตไทยมองว่า เป็นไปได้ยากเพราะอิสราเอลกลัวว่า กลุ่มฮามาส จะใช้ช่วงเวลาดังกล่าวสะสมอาวุธและเสบียง
ส่วนการเตรียมความพร้อมในการรับแรงงานไทย ที่เป็นตัวประกันหากกลุ่มฮามาสปล่อยตัวนั้น นางสาวพรรณิภา กล่าวว่า ขอไม่เปิดเผยในรายละเอียดแต่ได้เตรียมความพร้อมไว้แล้วซึ่งคาดว่า จะมีการปล่อยตัวผ่านชายแดนอิสราเอล แต่ไม่ว่าจะเป็นปล่อยตัวมาทางไหนเราก็พร้อมที่จะช่วยเหลือ
ทูตไทย ประจำกรุงเทลอาวีฟ ยังได้เล่าถึงความยากลำบากในการเข้าไปช่วยเหลือแรงงานไทยทั้งที่อยู่ในแคมป์คนงานและตามโรงพยาบาล ซึ่งต้องคอยหลบระเบิดเมื่อไซเรนดังขึ้น รวมถึงต้องไปขอหลบภัยตามบ้านของประชาชนอิสราเอล ขณะที่การเดินทางไปเยี่ยมผู้ป่วยแต่ละจุดโรงพยาบาลก็อยู่ห่างกัน ซึ่งก็มีความยากลำบากอีกทั้งยังมีภารกิจอื่น ๆ อาจไปได้ไม่ทั่วถึงแต่ก็พยายามอย่างเต็มที่
——————————————————————————————————————————————
ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์ / วันที่เผยแพร่ 21 พ.ย.66
Link : https://www.thairath.co.th/news/politic/2742374