จากสถานการณ์ความขัดแย้งในประเทศเมียนมา ที่ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของคนไทย ที่เดินทางไปทำงานในพื้นที่ในเมืองเล้าก์ก่ายและเมืองหนานเติ้งนั้น กระทรวงกลาโหม, กระทรวงการต่างประเทศ, เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงย่างกุ้ง, กองทัพบก, มูลนิธิเอ็มมานูเอล (IMF Thailand) ได้ดำเนินการประสานงานเพื่อให้ความช่วยเหลือคนไทยผ่านกลไกของคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่น (TBC) ไทย-เมียนมา และได้ช่วยเหลือจัดยานพาหนะพร้อมเจ้าหน้าที่จากกองทัพภาคที่ 3 รับคนไทยชุดแรก จำนวน 41 คน กลับถึงประเทศไทยเมื่อ 18 พฤศจิกายน ที่ผ่านมาอย่างปลอดภัย
ต่อมากองทัพบก โดยกองพลทหารม้าที่ 1 กองกำลังผาเมือง ซึ่งเป็นหน่วยรับผิดชอบพื้นที่ชายแดนด้านอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ได้ดำเนินการประสานงานผ่านคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่นไทย-เมียนมา (TBC) อย่างต่อเนื่อง โดยได้เข้าพบปะพัฒนาสัมพันธ์กับ ผู้บังคับกองบังคับการยุทธศาสตร์ท่าขี้เหล็ก เพื่อขอบคุณกรณีที่ฝ่ายเมียนมา ให้ความช่วยเหลือคนไทยชุดแรกจำนวน 41 คน พร้อมทั้งได้หารือเพื่อเตรียมช่วยเหลือคนไทยที่ยังติดค้างอยู่ในเมียนมาเพิ่มเติมอีก 24 คน
โดยเมื่อ 22 พฤศจิกายน 2566 TBC ฝ่ายเมียนมาแจ้งข้อมูลว่าได้อำนวยความสะดวกกลุ่มคนไทยทั้ง 24 คน ในการเดินทางจากเมืองปางซางไปยังเมืองเชียงตุง เพื่อรับคำสั่งอนุมัติให้ส่งตัวกลับประเทศไทย แล้วจึงเดินทางต่อไปยังจังหวัดท่าขี้เหล็กเพื่อเข้าสู่ประเทศไทยต่อไป
ล่าสุด วันนี้ (24 พฤศจิกายน 2566) เมื่อเวลา 11.30 น. กองทัพบก โดยกองทัพภาคที่ 3 / ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 3 ร่วมกับสถานีตำรวจภูธรแม่สาย ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดเชียงราย นายอำเภอแม่สาย และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการรับตัวคนไทย จำนวน 24 คน เดินทางกลับประเทศไทยแล้ว บริเวณจุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพข้ามแม่น้ำสายแห่งที่ 2 อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย โดยกองทัพบกได้จัดเจ้าหน้าที่ พร้อมยานพาหนะรับกลุ่มคนไทย เพื่อเดินทางต่อไปรับการตรวจสุขภาพ และส่งต่อให้กับสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.เชียงราย เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ทั้งนี้กระทรวงกลาโหมโดยกองทัพบก, กระทรวงการต่างประเทศ และทุกภาคส่วนจะยังคงติดตามและประเมินสถานการณ์เพื่อบูรณาการช่วยเหลือคนไทยในทุกมิติ
ทางด้าน นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกฯ และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า หลังจากที่มีการช่วยเหลือคนไทยเพิ่มอีก 24 คน แต่ยังมีคนไทยอยู่ที่เมืองเล้าห์ก่ายอีกจำนวนมากพอสมควร มีการระบุว่า จำนวน 40 คน แต่เชื่อว่าน่าจะมีมากกว่านั้น และหลังจากช่วยคนไทยที่หนีภัยสงครามเสร็จเรียบร้อยแล้ว เชื่อว่า หน่วยงานด้านความมั่นคง จะมีนโยบายการปราบปรามที่เข้มงวดมากขึ้น คนที่เดินทางข้ามแดนไปเที่ยวไม่มีปัญหา แต่การเดินทางข้ามไปแล้วไปก่ออาชญากรรม ทำธุรกิจที่ผิดกฎหมาย จะต้องดำเนินการอย่างเด็ดขาด
——————————————————————————————————————————————————–
ที่มา : จส.100 / วันที่เผยแพร่ 24 พ.ย.66
Link : https://www.js100.com/en/site/news/view/135267