โทรคมนาคมขัดข้องในเมลเบิร์น ทำผู้คนในออสเตรเลียถูกตัดขาดการสื่อสาร หน่วยงานเร่งกู้คืนระบบโดยยังไม่ทราบสาเหตุ
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันพุธที่ 8 พฤศจิกายน 2566 กล่าวว่า ผู้คนในออสเตรเลียมากกว่า 10 ล้านคน ถูกตัดขาดจากบริการอินเทอร์เน็ตและโทรศัพท์ ภายหลังเกิดเหตุขัดข้องกับบริษัทสื่อสารที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ
ความขัดข้องที่ไม่ทราบสาเหตุนี้ ทำให้ระบบการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์หยุดชะงัก เช่นเดียวกับสายโทรศัพท์สำหรับบริการรถพยาบาลและตำรวจ รวมทั้งบริการรถไฟชั่วโมงเร่งด่วนในเมืองเมลเบิร์นซึ่งเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ
ออพตัส (OPTUS) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือโทรคมนาคมสิงคโปร์ ระบุว่า บริการบางอย่างได้รับการกู้คืนแล้วเมื่อบ่ายวันพุธ แต่ไม่สามารถระบุได้ว่าอะไรเป็นสาเหตุของความขัดข้อง
“ทีมงานของเรายังคงไล่ตามทุกวิถีทางที่เป็นไปได้ เรามีสมมติฐานจำนวนหนึ่ง และแต่ละสมมติฐานจนถึงตอนนี้เราได้ทดสอบและดำเนินการใหม่โดยที่ยังไม่ได้แก้ไขปัญหาพื้นฐาน” เคลลี ไบเออร์ โรสมาริน ผู้บริหารระดับสูงของบริษัทฯบอกกับสถานีโทรทัศน์แห่งชาติเอบีซี
“เมื่อเราระบุสาเหตุที่แท้จริงและเวลาในการฟื้นฟูได้ เราจะแจ้งให้ทราบโดยเร็วที่สุด” โรสมารินกล่าว และเสริมว่า ไม่มีข้อบ่งชี้ว่า ความขัดข้องของระบบเป็นผลมาจากการแฮ็กข้อมูล
ทั้งนี้ เมื่อเกือบสองปีก่อน ลูกค้าของออพตัสมากกว่า 9 ล้านราย ถูกขโมยข้อมูลส่วนบุคคลจากการโจมตีทางไซเบอร์
บริษัทฯ ระบุในแถลงการณ์แยกต่างหากว่า “อาจใช้เวลา 2 – 3 ชั่วโมงกว่าบริการทั้งหมดจะกลับมาใช้งานได้ดังเดิม”
องค์กรและธุรกิจหลายแห่งยืนยันเมื่อเย็นวันพุธว่าปัญหาต่าง ๆ ได้รับการแก้ไขแล้ว ซึ่งรวมถึงกระทรวงศึกษาธิการของรัฐบาลกลาง, โรงพยาบาลรอยัลเมลเบิร์น และธนาคารเครือจักรภพของออสเตรเลีย
บริษัทโทรคมนาคมรายใหญ่อันดับ 2 ของออสเตรเลีย ซึ่งมีลูกค้ามากกว่า 10 ล้านราย ตรวจพบปัญหาระบบขัดข้อง เมื่อเวลาประมาณ 04.05 น. ตามเวลาท้องถิ่น (00.05 น. ตามเวลาประเทศไทย)
การขัดข้องของระบบโทรคมนาคมทำให้โรงพยาบาลหลายสิบแห่งไม่สามารถติดต่อได้ และโทรศัพท์บ้านในเครือข่ายออพตัสไม่สามารถโทรออกเพื่อเรียกบริการฉุกเฉินได้ รวมไปถึงระบบให้บริการสายด่วนในรัฐนิวเซาท์เวลส์ด้วยเช่นกัน ไม่นับรวมความวุ่นวายในการเดินทางหลังบริการรถไฟหยุดชะงักในชั่วโมงเร่งด่วน
——————————————————————————————————————————————
ที่มา : Thai Post / วันที่เผยแพร่ 9 พ.ย.66
Link : https://www.thaipost.net/abroad-news/480893/