ตำรวจสากล พบปริมาณเหยื่อค้ามนุษย์จำนวนมาก เชื่อมโยงกับ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ มากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด กลายเป็นเรื่องร้ายแรงที่น่ากลัว
ตำรวจสากล (Interpol) พบ การค้ามนุษย์ปรับเปลี่ยนรูปแบบจากการใช้แรงงานทาสเป็นการบังคับให้ไปเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์มากขึ้นทั่วโลก
ในช่วง 5-10 ปี มานี้ เราจะเห็นว่า แก๊งคอลเซ็นเตอร์ มีจุดเริ่มต้นจากประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น อินเดีย ที่เน้นโจมตีไปยังประเทศที่พูดภาษาอังกฤษเป็นหลัก และประเทศเพื่อบ้านของไทยที่กลุ่มทุนสีเทา หลอกกลุ่มคนยากจนไปทำงานต่างประเทศเพื่อโทรกลับมาหลอกคนไทยอีกทีหนึ่ง
หน่วยประสานงานตำรวจทั่วโลก ที่ติดต่อกับ ตำรวจสากล ระบุว่า ในเดือนตุลาคม หน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย กว่า 20 ประเทศ ได้เข้าจับกุมการค้ามนุษย์และพบข้อมูลที่สำคัญคือ เหยื่อเหล่านี้คุ้นชินกับการถูกพาไปเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์การรั่วไหล
จากการทำงานร่วมกันของตำรวจในแต่ละประเทศทำให้เห็น ปลายทางและรูปแบบการค้ามนุษย์ อาทิ ชาวมาเลเซียที่ถูกล่อลวงให้ไปเปรู โดยสัญญาว่าจะให้ทำงานที่ได้รับค่าตอบแทนสูง และชาวยูกันดาที่ถูกพาไปยังดูไบ ปละถูกส่งต่อไปไทย และจบที่ เมียนมา สถานที่ซึ่งพวกเขาถูกคุมขังภายใต้การดูแลด้วยบุคคลที่ติดอาวุธและบังคับให้ให้พวกเขาฉ้อโกงเหยื่ออีกทีเป็นขบวนการ หรือ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่เรารู้จัก
นี่นับเป็นการเชื่อมโยงกันระหว่าง “ช่องโหว่ทางเทคโนโลยีที่รัฐตามไม่ทัน” , “จากหน่วยงานต่าง ๆ” และ “ขบวนการค้ามนุษย์” ที่เชื่อมโยงกันอย่างมีนัยยะสำคัญ
ช่วงที่มีการตื่นตัวเรื่อง แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ในประเทศไทยสำนักข่าวแห่งหนึ่งเคยตรวจสอบเจอว่า คนที่โทรมาหลอกลวงเรา ก็มีคนไทยที่ตกเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์ ถูกส่งไปต่างแดนเพื่อหวังรายได้สูง ๆ แต่กลับถูกล่อลวงให้ทำงานเป็น แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลบหนีก็ไม่ได้ และก็ไม่รู้ว่าทางรอดจะอยู่ตรงไหนด้วยเช่นกัน
แม้ว่าคดีส่วนใหญ่ยังอยู่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โรสแมรี นาลูเบกา ผู้ช่วยผู้อำนวยการชุมชนเสี่ยงภัยของตำรวจสากล กล่าวในแถลงการณ์ว่า “วิธีการนี้ กำลังแพร่กระจายไป โดยมีเหยื่อที่มาจากทวีปอื่น และศูนย์หลอกลวงใหม่ ๆ ปรากฏขึ้นไปไกลถึงละตินอเมริกา”
การสอบสวนของสำนักข่าวรอยเตอร์ เมื่อเดือนที่แล้วให้รายละเอียดเกี่ยวกับการเกิดขึ้นของอาชญากรรมและการจัดหาเงินทุน โดยตรวจสอบว่าบัญชี คริปโทฯ ที่ลงทะเบียนในนามของชาวจีนในประเทศไทย พวกเขาได้รับเงินหลายล้านดอลลาร์จากกระเป๋าเงิน คริปโทฯ ที่บริษัทวิเคราะห์บล็อคเชนของสหรัฐฯ ระบุว่า เชื่อมโยงกับการหลอกลวง และเหยื่อรายหนึ่งเป็นพลเมืองสหรัฐฯ
อย่างไรก็ตามหากรัฐสามารถสร้างระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านการศึกษา และสร้างงานที่ให้ค่าตอบแทนที่มากเพียงพอต่อรายจ่ายที่ประชาชนต้องการได้มากเพียงพอ สร้างกการรับรู้ถึงกลโกงของคนร้ายให้คนไทยตกเป็นเหยื่อน้อยลง มีระบบที่เป็นระเบียบมากพอที่จะป้องกันคนร้าย โอกาสที่คนเหล่านี้จะตกเป็นเหยื่อทั้ง เหยื่อของการค้ามนุษย์ และเหยื่อของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ก็จะลดลงด้วยเช่นกัน
บทความโดย NOPPARIT KAMOLSUWAN
————————————————————————————————————————————-
ที่มา : สปริงนิวส์ / วันที่เผยแพร่ 10 ธ.ค.66
Link : https://www.springnews.co.th/digital-tech/technology/845963